การค้าทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วง 11 เดือนแรก

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ลดลงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ไทย แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 1,071 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 51 ในขณะเดียวกันกัมพูชานำเข้าสินค้าจากไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 5,580 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยการค้าทวิภาคีของกัมพูชาระหว่างประเทศใกล้เคียงในปัจจุบันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามกิจกรรมทางการค้าคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไม่ช้าหลังจากการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง ซึ่งเมื่อปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยอยู่ที่ 9.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50799739/cambodia-thailand-bilateral-trade-valued-at-6-6-billion-in-first-11-months/

สปป.ลาวสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลไทยหลังการระบาดของ COVID -19 ครั้งใหม่

สปป.ลาวสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากไทยชั่วคราวหลังพบ COVID -19 ระบาดครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสปป.ลาวกังวลว่าอาหารทะเลอาจปนเปื้อนเชื้อไวรัส ดังนั้นการนำเข้าจึงถูกระงับโดยมีผลทันที คำสั่งห้ามดังกล่าวมีผลหลังจากที่อำเภอสมุทรสาครของไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการระบาดของ COVID -19 ครั้งใหม่โดยมีพบผู้ติดเชื้อกว่า 1,000 คน ส่งผลโดยตรงต่อผู้นำเข้าอาหารทะเลในสปป.ลาวได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถนำเข้าได้ สมุทรสาครถือเป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมประมงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีมูลค่าในปี 2562 กว่า 5.8 พันล้านบาท ดังนั้นการเกิดการระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการไทยจะสูญเสียเงินจากการส่งออกอาหารทะเลไปยังสปป.ลาวกว่า 100 ล้านบาท

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos251.php

ททท.คาดปีใหม่เงินสะพัดท่องเที่ยวแค่หมื่นล.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2564 คาดว่าหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนักท่องเที่ยวเกิดความหวั่นวิตกกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งนี้ ททท.ประเมินว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวปีใหม่ 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.63 – 3 ม.ค. 64 คาดว่า จะมีคนไทยเดินทางภายในประเทศ 2.75 ล้านคน-ครั้ง และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากว่า 10,742 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% ซึ่งลดลงจากปีก่อนมาก เพราะปีที่ผ่านมามีวันหยุดยาวถึง 5 วัน และมีการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะเป็นช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสร้างรายได้หมุนเวียนมากถึง 23,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเกิดล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร แต่ก็ยังไม่นำไปสู่การล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง ดังนั้น บางพื้นที่จึงยังจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 64 ที่ ททท. เป็นผู้จัด หรือร่วมสนับสนุนการจัดงานใน 4 พื้นที่ทั้งเมืองหลักและเมืองรองตามภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ ราชบุรี และร้อยเอ็ด แต่การจัดงานได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ยกระดับความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมโรค คาดว่ามีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 4.71 แสนคน-ครั้ง และมีรายได้หมุนเวียน 1,800 ล้านบาท

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/814874

การค้าระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชายังคงดำเนินต่อแม้มีการติดเชื้อภายในประเทศไทย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดในเขตจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อเกือบ 1,000 คน ทำให้รัฐบาลกัมพูชากังวลเป็นอย่างมากจากการระบาดรอบใหม่นี้ แต่อย่างไรก็ตามการกำหนดมาตรการพิเศษด้านศุลกากรโดยรัฐบาลทั้งสองประเทศกล่าวว่ายังคงสามารถทำการค้าระหว่างกันได้ตามปกติ ณ ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้มาตรการที่ได้ทำการกำหนด โดยรองประธานหอการค้ากัมพูชากล่าวว่าจนถึงขณะนี้การค้าชายแดนกัมพูชา-ไทยยังคงปกติและไม่มีปัญหาความแออัดหรือความล้มเหลวในการเคลียร์สินค้าเนื่องจากมาตรการความปลอดภัย โควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้นจากทั้งสองรัฐบาล ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของกัมพูชา โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารแช่แข็ง และวัตถุดิบแปรรูปจำนวนมาก ที่ขายในตลาดกัมพูชาที่ทำการนำเข้าจากประเทศไทย จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยกระทรวงพาณิชย์ของไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 แสดงให้เห็นว่าปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยอยู่ที่ 5.569 พันล้านดอลลาร์ลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการส่งออกของกัมพูชาอยู่ที่ 958 ล้านดอลลาร์ลดลงร้อยละ 48 ในขณะที่การส่งออกไปกัมพูชาของไทยอยู่ที่ 4.611 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 9 ซึ่งการลดลงของการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยเกี่ยวข้องกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคระบาดในปีนี้เป็นหลัก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796894/business-as-usual-despite-recent-thai-virus-outbreak/

ถนนเชื่อมระหว่างกัมพูชาและไทยใกล้แล้วเสร็จตามกำหนดการ

ถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดตราดของประเทศไทยกับอำเภอเวลแวงของกัมพูชาในจังหวัดโพธิสัตว์แล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าจะพร้อมใช้งานในเร็วๆนี้ โดยรัฐบาลไทยใช้เงินเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ในการสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นถนนขนาด 4 เลน กว้าง 14 เมตร ยาว 1.9 กิโลเมตร อยู่ระหว่างด่านพรมแดนในจังหวัดตราดของประเทศไทยและถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 55 โดยการก่อสร้างเกิดจากความเห็นชอบของรัฐสภาไทยตามคำร้องขอจากผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2019 โดยเส้นทางการค้านี้จะกลายเป็นช่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่เชื่อมโยงการค้าและธุรกิจของประเทศต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถนนแห่งชาติสาย 55 ของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อมต่อกับ National Road 5 กับจังหวัดตราด ที่มีความยาว 182 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างชายแดน กัมพูชา-ไทย มูลค่าการก่อสร้างรวม 132.8 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนร่วมกับกองทุนเงินทดแทนของรัฐบาลกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50796224/thailand-cambodia-road-link-almost-complete/

DITP รุกตลาดเอเชีย จัดเจรจาการค้าออนไลน์ เร่งส่งออกสินค้าไทยเข้าห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำกว่า 600 สาขา

ภายใต้แนวคิด “ Taste of Thailand” หลังเห็นลู่ทางสดใส จัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ 5 วัน คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อกว่า 200 ล้านบาท รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นพนักงานขายหรือเซลส์แมนประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทย ซึ่งกรมฯ เล็งเห็นถึงโอกาสของสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงจัดกิจกรรม “Taste of Thailand”  โดยมีกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม คือ การเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าที่มีอำนาจในการสั่งซื้อของห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย เพื่อจัดซื้อ (Sourcing) สินค้าไทยเพิ่มเติม

ที่มา : https://www.posttoday.com/pr/641009

ธนาคารโลกแนะเพิ่มลงทุน ยกระดับสู่ประเทศรายได้สูง

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง “ผลิตภาพการผลิตขององค์กรในประเทศไทย” ว่า  หากประเทศไทยต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศโดยการเปลี่ยนจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2580 และฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดของโควิด จำเป็นต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างเพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มผลิตภาพการผลิตในในภาคการผลิต โดยจะต้องรักษาอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยให้ได้มากกว่า 5% ไปจนถึงปี 2568 และเพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้านี้ จำเป็นที่ต้องเพิ่มการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนจากปัจจุบันที่ 20% ให้ถึง 40% ในขณะที่ยังคงรักษาอัตราการเติบโตของผลิตภาพการผลิตรวม ซึ่งคล้ายกับกรณีของประเทศเกาหลีใต้ที่ต้องรักษาการเติบโตในอัตรานี้ในช่วงที่มีค่า GDP ต่อหัวเท่ากับของประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้งนี้ การเพิ่มผลิตภาพจะเป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปโครงสร้างในระยะยาวของประเทศไทย ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ ผลิตภาพ ที่จะต้องมุ่งเน้นให้เกิดการแข่งขันภายในประเทศมากขึ้น  เปิดกว้างต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)มากขึ้น และส่งเสริมระบบนิเวศน์ให้กับองค์กรในการสรรค์สร้างนวัตกรรม

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/913440

DITP สั่ง“ทูตพาณิชย์” ชี้แจงผู้ซื้อ ผู้นำเข้า สินค้าอาหารทะเลไทยมีคุณภาพ ปลอดโควิด-19

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สั่งการทูตพาณิชย์ที่เป็นตลาดเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารทะเลไทย เร่งสร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้าใจให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าว่าสินค้าไทยมีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดโควิด-19 เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการส่งออก นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือร่วมกับผู้ส่งออกและได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น และได้ประสานงานและกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารทะเลของไทย ให้เร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความเข้าใจให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ในการสั่งซื้อสินค้าจากไทยว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในการสร้างความเชื่อมั่นในการส่งออกสินค้าประมง ได้มีการจัดทำ “หนังสือรับรองการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออก (COVID – 19 Prevention Best Practice)” ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากไทย และเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารของไทยให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีข้อมูลล่าสุดจากกรมประมงรายงานว่า มีผู้ส่งออก โรงงาน ได้ประสานงานติดต่อกับประมง เพื่อขอเข้ากระบวนการออกหนังสือรับรองดังกล่าวแล้ว จำนวน 51 ราย อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในสินค้าประมง โดยเฉพาะสินค้ากุ้ง ล่าสุดได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาครและสำนักงานพาณิชย์ในจังหวัดใกล้เคียง ในการทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าประมงอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาประเมินสถานการณ์และหาวิธีการรับมือต่อปัญหาที่จะตามมาในอนาคตแล้ว

ที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9630000130044

เอกชนนัด อุตฯ สมุทรสาคร หารือรับมือโควิด-19

ส.อ.ท.ถกอุตฯ สมุทรสาคร ประเมินสถานการณ์โควิด-19 พร้อมแผนรับมือ ยืนยันโรงงานสมาชิกตรวจคัดกรองเข้มข้นปลอดการแพร่ระบาด นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 21 ธ.ค.2563 (พรุ่งนี้) สมาชิกส.อ.ท.จะร่วมกันหารือประเมินสถานการณ์และผลกระทบหลังมีการประกาศล็อกดาวน์พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครแล้วกว่า 500 คน เพื่อกำหนดแผนรับมือของภาคอุตสาหกรรมโดยมีนายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแถลงข่าวด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในโรงงานซึ่งเป็นสมาชิกส.อ.ท. เป็นแรงงานในระบบ มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวและมีใบอนุญาตถูกต้อง ตามกฎหมาย จึงมั่นใจได้ว่าโรงงานต่างๆ มีกระบวนการตรวจคัดกรองโรคอย่างเคร่งครัดตามที่กำหนด ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีโรงงานสมาชิกของส.อ.ท.ปิดโรงงานจนส่งกระทบต่อกระบวนการผลิต แต่อาจมีบางส่วนอนุญาตให้สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ส่วนแรงงานที่ยังเดินทางเข้าทำงานในโรงงานส่วนใหญ่เป็นบุคลากรในพื้นที่ ซึ่งแต่ละโรงงานยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีโรงงานสิ่งพิมพ์ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร แต่ไม่มีการจ้างแรงงานต่างด้าวแม้แต่ 1 คนทั้งยังมีมาตรการตรวจคัดกรองโรคอย่างละเอียด พร้อมมีโรงอาหารของตัวเอง จึงมั่นใจในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยปราศจากการแพร่ระบาดของโรคได้

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/813930

COVID-19 กระทบส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปยังไทย

ปีงบประมาณนี้ การส่งออกข้าวโพดของเมียนมาไปยังไทยอาจลดลงเนื่องจากการระบาดของโควิด -19 ตลาดจะหดตัวในปีหน้าความล่าช้าอาจเกิดขึ้นได้ในการขนส่งจากเมียวดีไปยังไทยในช่วงที่โควิด -19 ระบาด แนวทางการป้องกัน COVID-19 ผู้ขับรถบรรทุกต้องได้รับการกักกัน 14 วัน ดังนั้นจึงมีคนขับน้อยซึ่งทำให้ไม่เพียงพอ ทั้งยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการเมืองของไทย เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนถูกระงับตั้งแต่ปี 61 ผลผลิตข้าวโพดถูกส่งออกไปไทยมากกว่าหนึ่งล้านตันเพิ่มขึ้นจาก 700,000 ตันในปีก่อนหน้า

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-maize-exports-thailand-take-hit-due-covid-19.html