เมียนมาจ่อเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายถึงธันวาคม 63

คณะกรรมการกลางเพื่อการป้องกัน ควบคุม และรักษาโควิด-19 ของเมียนมาขยายการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 2% สำหรับสินค้าส่งออกและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนำเข้าและส่งออกจนถึงเดือนธันวาคม 63 ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 15 กันยายน 63 ที่ผ่านมา-เพื่อให้บริษัทต่างๆ สามารถบริหารกระแสเงินสดได้ อีกทั้งกระทรวงการวางแผนและการเงินยังได้ขยายเวลาในการจ่ายรายได้และภาษีการค้า ซึ่งสามารถยื่นได้ทางออนไลน์ โดยแอปพลิเคชั่นการขยายใบอนุญาตจะมอายุห้าปีแม้ว่าค่าธรรมเนียมการขยายใบอนุญาตยังคงเท่าเดิม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนำเข้าจะถูกจำกัด ไว้ที่ 30,000 จัตถึงสิ้นเดือนธันวาคมเช่นกัน ซึ่งค่าธรรมเนียมจะอยู่ระหว่าง 30,000 ถึง 90,000 จัต

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/withholding-tax-exemption-extended-until-december-myanmar.html

สปป.ลาว, IOM เสริมสร้างการตอบสนอง Covid-19 ที่จุดผ่านแดน

รัฐบาลและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ได้เปิดตัวโครงการ“ การตอบสนองต่อความท้าทายโควิด -19 ณ จุดเข้าประเทศสปป.ลาว” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสระลอกที่สอง โครงการมีระยะเวลา 6 เดือนจะสนับสนุนการพัฒนาขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน มีการฝึกอบรมเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อเสริมสร้างความพร้อมและความพยายามในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด 19 ของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้จะมีการพัฒนาสื่อการสื่อสารความเสี่ยงที่เหมาะสม ในขณะที่กิจกรรมต่างๆจะดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการด้านอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและโครงสร้างพื้นฐาน ณ จุดแรกเข้า รัฐบาลและ IOM ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับผู้ย้ายถิ่นจำนวนมากที่เดินทางกลับทั่วภูมิภาคเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการตอบสนองต่อความท้าทายอย่างมีประสิทธิผลและทันท่วงที ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการป้องกันการตรวจจับและการตอบสนองต่อการแพร่กระจายของโรค โครงการจะดำเนินการที่จุดเข้าออกระหว่างประเทศ 10 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติวัตไต, สนามบินหลวงพระบาง, สนามบินจำปาสัก, สนามบินสะหวันนะเขต, สะพานมิตรภาพลาว – ​​ไทย 1 ในเวียงจันทน์, สะพานมิตรภาพลาว – ​​ไทย 2 ในสะหวันนะเขต, มิตรภาพลาว – ​​ไทย สะพาน 3 ในคำม่วน, สะพานมิตรภาพลาว – ​​ไทย 4 ในบ่อแก้ว, ด่านพรมแดนระหว่างประเทศวังเตา – ช่องเม็ก ในจังหวัดจำปาสักและจุดผ่านแดนลาว – ​​จีน บ่อเต็น – บ่อฮาน ในแขวงหลวงน้ำทา

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry182.php

การส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรป

กัมพูชาและสหภาพยุโรป ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าทวิภาคีและเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วให้การสนับสนุนกิจกรรมทางการค้าของประเทศที่อยู่ในเกณฑ์พัฒนาน้อยที่สุดต่อไป โดยเสนอการปฏิบัติเฉพาะในระบบการค้า ซึ่งคำมั่นเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมของทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และ รองหัวหน้าคณะสถานทูตอังกฤษในกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเท่าเทียมกันระหว่างสมาชิก นอกจากนี้กัมพูชายังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปสนับสนุนกิจกรรมการค้าของกัมพูชาต่อไป ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นในแง่ดีเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศโดยเฉพาะในด้านการค้าเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหภาพยุโรปมีมูลค่าถึง 1.05 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 ซึ่งกัมพูชาส่งออกไปยังสหภาพยุโรปมากกว่า 978 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นจักรยาน เสื้อผ้าและรองเท้า ตามตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764309/cambodia-uk-vow-to-boost-trade-cooperation/

ผลกระทบจาก COVID-19 ต่อการทำการเกษตรของกัมพูชา

ในปี 2020 ภาคการเกษตรยังคงมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของกัมพูชาโดยคิดเป็นร้อยละ 22 ของ GDP สร้างการจ้างงานถึง 1 ใน 3 ของภายในประเทศกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเกิดโรคระบาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคการเกษตรก็มีการชะลอตัวและหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 15 ปี ในปี 2019 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภัยแล้งที่ยืดเยื้อตั้งแต่ในปี 2013 ซึ่งมีเกษตรกรชาวกัมพูชาจำนวนมากเคลื่อนย้ายไปต่างประเทศเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้โน้มน้าวให้ภาคการเกษตรถือเป็นภาคสำคัญทางเศรษฐกิจที่จะเผชิญกับแรงกดดันจากการแพร่ระบาด ซึ่งในแง่ของผลิตภัณฑ์ข้าวถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด โดยมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของ GDP ในภาคการเกษตร ซึ่งผลกระทบของ COVID-19 ต่อผลผลิตทางการเกษตรในห่วงโซ่คุณค่าและความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ โดยจากผลการวิจัยสรุปได้ว่ารายได้จากการทำฟาร์มลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่าร้อยละ 30 จาก 283 ดอลลาร์ ในเดือนมกราคมสู่ 195 ดอลลาร์ ภายในเดือนเมษายน ซึ่งหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการเกษตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764323/the-effects-of-covid-19-on-farming/

จังหวัดบิ่นห์ดิ่นห์ส่งออกไม้พุ่ง 21% ถึงแม้เผชิญโควิด-19

จังหวัดบิ่นห์ดิ่นห์ส่งออกไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 373 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน ม.ค.-สิ.ค. ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ซึ่งประธานสมาคมผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ กล่าวว่าจังหวัดข้างต้น มีสัดส่วนของการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 72.6 ของแผนรายปี ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าประจำจังหวัด ให้การสนับสนุนไปยังบริษัทไม้ในการปรับโครงสร้างการผลิตและส่งเสริมการปกป้องพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าจังหวัดบิ่นห์ดิ่นห์ยังคงรักษาต่ำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางแปรรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของเวียดนาม โดยปัจจุบัน ทางจังหวัดดังกล่าวเป็นที่ตั้งของธุรกิจแปรรูปไม้ 200 แห่ง และสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ประมาณ 20,000 คน อีกด้วย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/binh-dinhs-wood-exports-surge-21-percent-despite-pandemic/183069.vnp

เวียดนามส่งออกกาแฟชุดแรก ภายใต้ข้อตกลง EVFTA

ผู้ประกอบการเวียดนามได้แถลงการณ์เมื่อวันพุธว่าทำการส่งออกเสาวรสและกาแฟชุดแรกไปยังสหภาพยุโรป ตามข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ทำให้ภาษีของเมล็ดกาแฟคั่วหรือไม่ได้คั่วลดลงจากร้อยละ 7-11 มาจนถึงร้อยละ 0 ในขณะเดียวกัน ภาษีของผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปลดลงจากร้อยละ 9-12 มาจนถึงร้อยละ 0 ตามข้อตกลงดังกล่าวที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิ.ค. 2563 ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงมีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมากในตลาดยุโรป ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าได้ดำเนินการสร้างโครงการในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านกาแฟ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปกาแฟ รวมถึงยกระดับแบรน์ผลิตภัณฑ์กาแฟให้ทัดเทียมกับนานาชาติ นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามไปสหภาพยุโรป อยู่ที่ราว 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน สิ.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน “นับว่าตัวเลขส่งออกข้างต้นอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ”

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/772409/viet-nams-first-batch-of-coffee-under-evfta-exported.html

การปิดเมืองชายแดนอาจส่งผลต่อการค้าเมียนมากับจีน

การค้าระหว่างเมียนมาและจีนอาจหยุดชะงักหลังจากชายแดนหลุ่ยลี่ (RUILI) ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนสำคัญใกล้กับมูเซในรัฐฉานถูกปิดไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 63 หลังตรวจพบเชื้อ COVID-19  คาดว่าจะปิดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และห้ามเดินทางออกนอกเมือง ซึ่งการซื้อขายผ่านชายแดนผ่านกำลังดำเนินการในเมือง Wan Ting ทางฝั่งจีน อย่างไรก็ตามสำนักงานศุลกากรของจีนส่วนใหญ่ปิดตัวการซื้อขายลง แต่ยังสามารถซื้อขายผลไม้ได้ ในขณะที่ทางหลวงของจีนถูกปิดกั้นการขนส่งจึงจำเป็นต้องใช้ถนนเส้นเก่าในการค้าขาย และหากยืดเยื้อต่อไปการค้าชายแดนอาจส่งผลเสียหายสำหรับผู้ค้าในพื้นที่ ผู้ค้าในมูเซให้ข้อมูลว่าการปิดชายแดนเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐได้ทำการตรวจสอบประชากรราว 400,000 คน ในเมืองซ่วยหลี่ (Shweli )เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดจากการติดไวรัสหากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอาจขยายระยะเวลาการปิดชายแดนออกไป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/border-town-lockdown-might-affect-myanmar-china-trade.html

เมียนมาเตรียมส่งออกหัวหอมไปบังกลาเทศ

เมียนมากำลังส่งออกหัวหอมไปยังบังกลาเทศเนื่องจากมีผลผลิตในท้องถิ่นจำนวนมากเพราะพรมแดนของจีนถูกปิดลง นาย U Khin Han ประธานศูนย์ค้าส่งบะยินเนาว์ ( Bayinnaung) กล่าวขณะหารือกับสถานทูตซึ่งการส่งออกจะต้องผ่านการเดินเรือและความจุแต่ละลำจะมีมากกว่า 150 ตู้คอนเทนเนอร์แต่ละคอนเทนเนอร์สามารถบรรจุหัวหอมได้ประมาณ 14 ตัน เนื่องจากชายแดนหลุ่ยลี่ (RUILI) กับจีนถูกปิดลงทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าและเกิดปัญหาสต็อกหัวในประเทศเป็นจำนวนมาก ปีนี้การส่งออกหัวหอมจะอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 20,000 ตัน ปัจจุบันมีผลผลิตมากกว่า 15 ล้านไร่ที่ยังตกค้างอยู่ที่เกษตรกรและผู้ค้า และรถบรรทุกสามารถขนส่งหัวหอมไปศูนย์ค้าส่งได้ประมาณ 15 คันต่อวัน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-may-export-onions-bangladesh.html

โครงการรถไฟสปป.ลาว – จีนกำลังดำเนินการแล้วเสร็จแม้จะมีการระบาดของ COVID-19

การก่อสร้างทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนกำลังดำเนินไปตามแผนซึ่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่าร้อยละ 91.11 ของโครงการแม้จะมีอุปสรรคจากการระบาดของ COVID-19 ตามรายงานล่าสุดใน China Daily อุโมงค์ทางรถไฟสำหรับข้ามพรมแดนมีความยาว 9.59 กิโลเมตรเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่แล้วเสร็จและได้รับการขนานนามว่า “อุโมงค์มิตรภาพ” ประกอบด้วยอุโมงค์ 7.17 กิโลเมตรในมณฑลยูนนานประเทศจีนและ 2.42 กิโลเมตรที่ชายแดนสปป.ลาว ในช่วงการระบาดของ COVID-19ที่ผ่านมาคาดการณ์อาจส่งผลให้โครงการมีความล่าช้า แต่จากการที่รัฐบาลมีความกระตือรือร้นที่จะเดินหน้าก่อสร้างทางรถไฟโดยได้มีการอำนวยความสะดวกในงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แม้จะมีข้อจำกัดในการเดินทางแต่รัฐบาลได้อนุญาตให้เปิดสายการบินเที่ยวบินระหว่างเวียงจันทน์และคุนหมิงเป็นกรณีพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการก่อสร้างทางรถไฟและโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่กำลังดำเนินการในสปป.ลาว โครงการทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีน       ถือเป็นยุทธศาสตร์ของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน (One Belt One Road) และแผนของสปป.ลาวในการเปลี่ยนประเทศจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นการเชื่อมโยงทางบกภายในภูมิภาค รัฐบาลสปป.ยังเชื่อว่าโครงการรถไฟเชื่อมต่อสปป.ลาว-จีน จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาวในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laosc181.php

แคมโบเดียอังกอร์แอร์กำลังกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ

แคมโบเดียอังกอร์แอร์กลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมาเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจของกัมพูชาให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไปแคมโบเดียอังกอร์แอร์จะกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศบนเส้นทางระหว่างกรุงพนมเปญและจังหวัดเสียมราฐ ดังรายงานของโฆษกสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ ซึ่งการเริ่มต้นเที่ยวบินใหม่ในครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นและเพื่อเป็นส่วนช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/cambodia-angkor-air-to-resume-domestic-flights-169407/