MRC และ GIZ ลงนามข้อตกลงส่งเสริมความร่วมมือด้านน้ำข้ามพรมแดน

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และหน่วยงานพัฒนา GIZ ของเยอรมนีได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อดำเนินการระยะที่สองของโครงการความร่วมมือทางน้ำข้ามพรมแดนในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสามารถของคณะกรรมาธิการในการเฝ้าติดตามและจัดการกับความท้าทายในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วมและภัยแล้ง ดร.อนุลักษณ์ กิตติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง กล่าวในพิธีลงนามว่า “การสนับสนุนจากเยอรมนีจะปูทางให้เราได้พัฒนาความสามารถของเราต่อไปในการติดตามสถานะของแม่น้ำโขง รวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลที่ดีขึ้น และปกป้องอนาคตของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่พึ่งพาลุ่มน้ำในเชิงรุก”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_MRC14.php

รัฐบาลสปป.ลาวห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรบางชนิด

รัฐบาลได้สั่งห้ามการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตร ปศุสัตว์ และปลาบางประเภท โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการเพาะปลูกพืชผลและสัตว์เหล่านี้ในสปป.ลาวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมากขึ้น ทั้งนี้สินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอาจนำเข้าต่อไปได้ เช่น สเปิร์มของสัตว์เพื่อการเพาะพันธุ์ เมล็ดข้าว วัคซีนและอุปกรณ์สำหรับสัตว์ ยาสำหรับสัตว์ และอาหารสัตว์ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎ ต้องมีการใช้งานเฉพาะและไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตในประเทศ และรวมถึงเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อนกกระจอกเทศระดับพรีเมียมที่เสิร์ฟในร้านอาหารและโรงแรมขนาดใหญ่ สปป.ลาวเผชิญกับการขาดดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง การริเริ่มแนวทางดังกล่าวรัฐบาลสปป.ลาวพยายามลดความพึ่งพาจากต่างประเทศในอีกส่วนหนึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารในอนาคตให้แก่สปป.ลาวอีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt13.php

บริษัทไทยทุ่ม 1 พันล้านดอลล์สรัฐฯ สร้างเมืองอัจฉริยะในสปป.ลาว

รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานแก่บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศไทย วางแผนที่จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการก่อสร้างอมตะสมาร์ทแอนด์อีโคซิตี้ในภาคเหนือของสปป.ลาว จะเริ่มในต้นปีนี้ โดยมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 20,000 เฮกตาร์ในระยะต่อไป เมืองอมตะสมาร์ทแอนด์อีโค มีเป้าหมายเพื่อให้บริการนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก เครื่องจักร การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนเคมีภัณฑ์และยา รวมถึงโลจิสติกส์และคลังสินค้า

อีกทั้งเมืองอัจฉริยะนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟนาทวย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนจีนประมาณ 20 กม. มีสถานีรถไฟสองแห่งซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูระหว่างอาเซียนและจีนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางการค้า การสร้างเมืองอัจฉริยะไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว แต่ยังจะส่งเสริมให้นักลงทุนในภูมิภาคนี้ย้ายโรงงานของพวกเขามาที่นี่อมตะมีแผนจะเชิญบริษัทข้ามชาติและรัฐบาลจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย มาส่งเสริมโครงการอมตะสมาร์ทแอนด์อีโคซิตี้เพื่อพัฒนาโครงการนี้อย่างเต็มศักยภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Thai_12_22.php

ธนาคารกลางสปป.ลาว เวียดนาม ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนข้อมูล

ผู้ว่าการธนาคารแห่งสปป.ลาว (BOL) และธนาคารแห่งเวียดนาม (SBV) เพิ่งลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการกำกับดูแลการธนาคาร ข้อตกลงดังกล่าวได้ลงนามระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการโดยนายกรัฐมนตรีพันคำ ตั้งแต่วันที่ 8-10 มกราคม 2565 เพื่อตอบรับคำเชิญจากนายกรัฐมนตรี พิม มินห์ ชินห์ ของเวียดนาม การลงนามในบันทึกความเข้าใจ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการกำกับดูแลการธนาคารที่ลงนามในปี 2551 เพื่อสะท้อนถึงการลงทุนด้านการธนาคารในปัจจุบัน  ข้อตกลงฉบับใหม่ระบุความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางทั้งสอง โดยเน้นที่การแบ่งปันข้อมูล การกำกับดูแลการธนาคารข้ามพรมแดน การตรวจสอบ ณ สถานที่ปฏิบัติงาน และการจัดการภาวะวิกฤตของธนาคารพาณิชย์ภายใต้การกำกับดูแลความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานบนพื้นฐานความไว้วางใจซึ่งกันและกันและ ความเข้าใจสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกลางทั้งสองในการส่งเสริมคุณภาพของการตรวจสอบการจัดตั้งข้ามพรมแดน การสร้างขีดความสามารถของผู้ตรวจสอบ และการวิเคราะห์ความเสี่ยงของธนาคาร ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธนาคารและความร่วมมือในการดำเนินการตามกรอบการบูรณาการการธนาคารในอาเซียนของทั้งสองธนาคารกลาง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_Vietnamese_10.php

ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจ สปป.ลาวเติบโต

ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตร้อยละ 4.5 ​​ในปี 2565 และร้อยละ 4.8 ในปี 2566 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตช้าลงก็ตาม เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างเด่นชัดท่ามกลางภัยคุกคามจากรูปแบบต่างๆ ของ Covid-19 และการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ หนี้ และความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ ซึ่งอาจคุกคามการฟื้นตัวในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา การเติบโตทั่วโลกคาดว่าจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดจากร้อยละ 5.5 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 4.1 ในปี 2565 และร้อยละ 3.2 ในปี 2566 ตามรายงาน Global Economic Prospects ล่าสุดของธนาคารโลก ด้านสปป.ลาว จากการที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างและเร่งโครงการฉีดวัคซีนเพื่อให้ภาคเอกชนกลับมาดำเนินธุรกิจ โรงงาน และโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไ อีกทั้งรัฐบาลได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนนี้ เพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 ปัจจัยดังกล่าวทำให้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะเติบโตร้อยละ 4.5 ​​ในปี และนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า การแล้วเสร็จของโครงการรถไฟลาว-จีน จะกลายเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขยายตัวในปีต่อๆไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_World08.php

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ลงนามข้อตกลงโครงการน้ำระยะที่ 3

กรมประปาของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งและมูลนิธิ East Meets West ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อดำเนินการระยะที่สามของโครงการ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก Charity: Water มูลค่า 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  เป้าหมายคือการผลิตน้ำ 7,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 37,379 คน จาก 6,712 ครัวเรือนใน 36 หมู่บ้าน โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโดยดูแลให้หมู่บ้านขนาดใหญ่และอำเภอเล็กๆ สามารถเข้าถึงน้ำและสุขอนามัยที่ยั่งยืนและเท่าเทียมกัน นางวิไลคำ โภศาลา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 ของรัฐบาล ประจำปี พ.ศ. 2564-2568 ซึ่งมุ่งสร้างเงื่อนไขที่จูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของลาว ในปี 2564 มีโรงงานประปาจำนวน 174 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 681,322 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งอยู่ที่ 111 แห่ง ใน 1,480 หมู่บ้าน 117 อำเภอ ผู้คนมากกว่า 1.8 ล้านคนได้รับประโยชน์จากแหล่งน้ำ คิดเป็นร้อยละ 77.4 ของผู้อยู่อาศัยในเขตเมือง หรือประมาณ 26.35 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด” ทั้งนี้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ระบุว่าร้อยละ 90 ของผู้อยู่อาศัยในเมืองหลวงของจังหวัดและเขตเมืองหลักควรสามารถเข้าถึงน้ำที่มีการบริหารจัดการอย่างปลอดภัย กระจายอย่างกว้างขวาง เชื่อถือได้ และราคาสมเหตุสมผลภายในปี 2573

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry_07_22.php

การมาถึงของนักเรียนเกาหลี ส่งสัญญาณการกลับมาของการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวและสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เริ่มเดินทางถึงสปป.ลาวแล้วหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดประเทศให้ชาวต่างชาติในเดือนนี้ โดยกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงในวันจันทร์นี้คือกลุ่มนี้มีนักเรียน 17 คนและครู 6 คนจากโรงเรียนมัธยมอิโปในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี มีนายคิม แดซอง ตัวแทนของโรงเรียนมัธยมปลายฟ้าสีคัม อำเภอนาไซทอง เวียงจันทน์ ให้การต้อนรับคณะซึ่งจัดการมีเดินทางในเวียงจันทน์โดย Family Tour Co., Ltd. ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์  นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ของการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของสปป.ลาว เจ้าหน้าที่จากองค์กรรถโดยสารเวียงจันทน์กำลังให้บริการสำหรับผู้มาเยือนที่เดินทางไปยังสถานที่กักกัน ทั่วประเทศ ประชาชนในท้องถิ่นกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งในขั้นต้นการทัศนศึกษาจะจำกัดอยู่ที่เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และอำเภอวังเวียงในแขวงเวียงจันทน์ ทั้งสามสถานที่นี้ถูกกำหนดให้เป็นโซนท่องเที่ยวสีเขียว และจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 30 มีนาคม ภายใต้โครงการเริ่มต้นการท่องเที่ยวแบบสามขั้นตอนแรกในเฟสแรก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Arrival_6.php

มูลค่าการค้าเวียดนาม-ลาวพุ่งกว่า 30% ในปี 2564

การค้าแบบทวิภาคีระหว่างเวียดนามและสปป.ลาวมีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 30.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามการระบุของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า Tran Quoc Phuong ขณะเป็นประธานร่วมการประชุมอย่างเป็นทางการภายใต้กรอบการประชุมสมัยที่ 44 ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเวียดนาม-ลาวว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนที่ถูกต้องในลาว 209 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวมประมาณ 5.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีที่แล้ว มีโครงการที่จดทะเบียนใหม่ 5 โครงการ และอีก 4 โครงการรอการปรับทุน โดยมีทุนจดทะเบียนรวม 112.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2020 สร้างงานที่มั่นคงให้กับคนงานสปป.ลาวหลายหมื่นคน ในที่ประชุมสปป.ลาว-เวียดนาม ยังได้หารือถึงมาตรการความร่วมมือเกี่ยวกับมาตรการเพื่อจัดการกับปัญหาที่องค์กรต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินทุน ภาษี การนำเข้า-ส่งออก สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยและการเช่าที่ดิน ในขณะเดียวกันก็ตกลงที่จะประสานงานในการสร้างทางแนวทางในอนาคตที่มั่นคงและโปร่งใส ด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเติบโตของมูลค่าการค้า โดยมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงร้อยละ 10 หรือสูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 2564

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11037002-vietnam-laos-trade-value-surges-over-30-percent-in-2021.html

รัฐบาลลงนามข้อตกลงระบบทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์และระบบสถิติที่สำคัญอิเล็กทรอนิกส์

รัฐบาลกำลังพัฒนาระบบทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์และระบบสถิติที่สำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรวบรวมสถิติด้านประชากรศาสตร์ และผลผลิตเพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคมและความยากจนที่เชื่อถือได้และทันเวลา นอกจากนี้ ระบบยังช่วยให้การติดตามและประเมินผลความคืบหน้าในการบรรลุผลสำเร็จตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลสปป.ลาวได้ลงนามในข้อตกลงกับ WCC Group B.V. บริษัทผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ขั้นสูงสำหรับบริการจัดหางานภาครัฐและเอกชน WCC Group B.V. ชนะการประกวดราคาเนื่องจากมีประสบการณ์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ (HERA) สำหรับการทะเบียนราษฎรทางอิเล็กทรอนิกส์และสถิติสำคัญ (eCRVS) ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเอกสารการประมูล สัญญามีมูลค่ามากกว่า 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ  รัฐบาลสปป.ลาวคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 พลเมืองสปป.ลาวทุกคนจะสามารถใช้ระบบการขึ้นทะเบียนได้ และเพื่อให้มีการรวบรวมสถิติประชากรในลักษณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ภายในปี 2024 พลเมืองลาวร้อยละ 70 ทั้งหมด รวมทั้งเด็กแรกเกิด จะได้รับการจดทะเบียน ระบบการทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt04.php

ระบบชลประทานอยู่ระหว่างการซ่อมแซมในสะหวันนะเขต

ในปี 2020 พื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 51,000 เฮกตาร์ได้รับความเสียหายใน 13 อำเภอของสะหวันนะเขต หลังจากเกิดฝนตกหนักรุนแรงและยังส่งผลให้น้ำท่วมสร้างความเสียหายให้กับช่องทางชลประทาน ซึ่งกระทบต่อหมายความว่าผลผลิตของเกษตรกรลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวซึ่งเป็นสินค้าหลักในการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป จากปัญหดังกล่าวทำให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาและซ่อมแซ่มชลประทานอย่างเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการชลประทานข้าว 498 เฮกตาร์ในฤดูแล้ง รวมทั้งพืชผลอื่นๆ อีก 91 เฮกตาร์ที่ปลูกในเมืองไกสอนพรหมวิหาร ทั้งนี้โครงการได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ต้นปี 63 จนปัจจุบันแล้วเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 93.35 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากเงินกู้มากกว่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย โครงการคาดว่าจะสามารถสูบน้ำเข้านาได้ในช่วงต้นปีนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Repair03.php