สินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดเล็กช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน สปป .ลาว

กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้เปิดตัวโครงการสนับสนุนทางการเงินฉุกเฉินมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลกเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการระบาดของโควิด -19  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าประกาศโครงการสนับสนุนและฟื้นฟูการเข้าถึงการเงินในภาวะฉุกเฉินทางการเงินของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินในพื้นที่สามารถให้เงินกู้แก่ธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการปิดพรมแดน และลดการซื้อขายในปีที่ผ่านมา โดยธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ Laos-China, Maruhan, และ Sacom ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในโครงการเพื่อให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทขนาดเล็กที่ขอสินเชื่อผ่านวงเงินเครดิต โครงการนี้ให้การสนับสนุนทางเทคนิคจากธนาคารแห่งสปป.ลาว เป็นผู้บริหารระบบค้ำประกันสินเชื่อและความช่วยเหลือทางเทคนิคเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ คาดว่าจะมีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการมากขึ้นเมื่อการเจรจาเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อเสร็จสมบูรณ์ ความคิดริเริ่มนี้จะเสริมสร้างความมั่นคงของธุรกิจขนาดเล็กซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสปป.ลาว  ด้วยการทำให้บริษัทขนาดเล็กเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นรัฐบาลและธนาคารกำลังขจัดหนึ่งในสามอุปสรรคสำคัญสำหรับธุรกิจในสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Credit_38.php

Lao National Single Window ลดการซับซ้อนการนำเข้า-ส่งออกพรมแดนระหว่างประเทศ

Lao National Single Window มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 23 ก.พ.เป็นต้นไป โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศการใช้งานระบบอย่างเป็นทางการ  เพื่อลดความซับซ้อนของการนำเข้าส่งออกและขนส่งสินค้าและการขนส่งสินค้าทั้งหมดที่พรมแดนระหว่างประเทศและสนามบินทุกแห่งในสปป.ลาว การใช้ LNSW จะช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับสปป.ลาวอย่างมีนัยสำคัญและยังรับประกันความโปร่งใสในการค้าและอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากรทำให้ผู้นำเข้าสามารถติดต่อกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน หน้าที่หลักของระบบคือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการร้องขอและออกใบอนุญาตนำเข้า การติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าโดยใช้ ID อ้างอิงรายการ และการเก็บภาษีและค่าธรรมเนียม ณ จุดเดียวกัน ทั้งนี้ LNSW ครอบคลุม ใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ รายการอิเล็กทรอนิกส์ การออกใบแจ้งหนี้และการเรียกเก็บเงิน ณ จุดเดียว และสถิติและการรายงาน กระทรวงการคลังได้ประกาศให้ผู้ประกอบการทางเศรษฐกิจและตัวแทนเดินเรือทั้งหมดในสปป.ลาวที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกหรือขนส่งสินค้าควรไปที่สำนักงาน LNSW เพื่อรับการฝึกอบรม ผู้ค้าที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนควรดำเนินการทันทีและควรออกบัญชีผู้ใช้โดยด่วน ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าทั้งหมดจะต้องชำระภาษีศุลกากรและภาษีอื่น ๆ รวมทั้งค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ จุดเดียว โดย BCEL,LDB ,BCEL i- Banking, BCEL One, LDB Corporate Banking เงินสด การโอนเงินและเช็คขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ระบบนี้ในอัตรา 120,000 กีบต่อรายการ ซึ่งไม่รวมภาษีศุลกากรและอากรอื่น ๆ ภาษีค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่หน่วยงานต่างๆ เรียกเก็บ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_national_37.php

ญี่ปุ่นช่วยฟื้นฟูชุมชนสปป.ลาวจากอุทกภัยทางธรรมชาติ

รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงิน 180 ล้านเยนญี่ปุ่น (ประมาณ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงสองปีเพื่อบรรเทาผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมในแขวงสะหวันนะเขตและแขวงทางตอนใต้ของสปป.ลาว ภายใต้ข้อตกลงระหว่างปี 2564 ถึง 2565 กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมสถานทูตญี่ปุ่นประจำสปป. ลาวและโครงการอาหารโลก (WFP) จะแจกจ่ายข้าวให้กับประชาชนประมาณ 35,000 คน เพื่อสนับสนุนความพยายามในการฟื้นฟูด้านวามมั่นคงของอาหารนอกจากนี้ WFP รวมถึงการสนับสนุนการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร รวมถึงแผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มั่นคงและมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_36.php

International Finance Corporation เสนอแผนปฏิรูปด้านการลงทุนดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

International Finance Corporation เผยแพร่รายงานที่เกี่ยวข้งกับการลงทุนในสปป.ลาว โดยมีรายละเอียดในเรื่องการพัฒนากลยุทธ์การลงทุนแบบองค์รวมควบคู่ไปกับการปฏิรูปกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องของสปป.ลาว จะช่วยให้สปป.ลาวดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้สปป.ลาวสามารถขยายเศรษฐกิจและสร้างงานเพิ่มขึ้น การปฏิรูปด้านการลงทุนมีเป้าหมายเพื่อให้ตระหนักถึงผลกระทบเชิงบวกของการลงทุนโดยตรงต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่น ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา FDI เป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสปป.ลาว อย่างไรก็ตามรายงานเผยว่าการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในทรัพยากรธรรมชาติทำให้เกิดโอกาสในการทำงานที่ จำกัด และไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพของ FDI ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นความท้าทายที่สปป.ลาวจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อโอกาสในการดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมวึ่งจะเป็นกลไกที่สำคัญตัวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New35.php

การสำรวจวิสาหกิจในสปป.ลาว พบ ผู้ประกอบการรายย่อย มีสัดส่วนสูงถึง 94.2 %

ผลสำรวจสปป.ลาวในฐานะประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ยังคงมีสัดส่วนผู้ประกอบการรายย่อยสูง ซึ่งคิดเป็น 94.2 % ของวิสาหกิจทั้งหมดในประเทศ โดยในปี 62 มีวิสาหกิจทั้งหมด 133,997 แห่ง เพิ่มขึ้น 9,124 เมื่อเทียบกับปี 56 จากการสำรวจสำมะโนเศรษฐกิจครั้งที่ 3 จัดทำโดยสำนักงานสถิติสปป.ลาวในปี 62-63 ตัวเลขทั้งหมดประกอบด้วยผู้ประกอบการรายย่อย 126,168 แห่ง วิสาหกิจขนาดเล็ก 6,600 แห่ง ( 4.9% ) วิสาหกิจขนาดกลาง 954 แห่ง (0.7%) และวิสาหกิจขนาดใหญ่ 276 แห่ง (0.2%)  การสำรวจระบุว่าผู้ประกอบการรายย่อยแสดงถึงเปอร์เซ็นต์ที่น้อยที่สุดในแง่ของการเข้าถึงการเงินจากธนาคาร แม้ว่าจะมีจำนวนมากที่สุดในทุกประเภทก็ตาม วิสาหกิจขนาดกลางมีเงินกู้ยืมจากธนาคารมากที่สุด 29.7% วิสาหกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กคิดเป็น 27% และ 24.6% ตามลำดับ ผู้ประกอบการรายย่อยมีการเข้าถึงเงินกู้ เพียงร้อยละ 8.7  ทั้งนี้ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกถือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนมากที่สุด รองลงมาคือร้านซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยมีสัดส่วนรวมกัน 61.2% โรงงานแปรรูป 14.7% ในขณะที่ธุรกิจบริการ 10.6%  จากการสำรวจสถานประกอบการมีการจ้างงาน 490,373 คนซึ่งเป็นผู้หญิง 50.1% และ 90.6% ขององค์กรทั้งหมดจ้างคนงานเพียง 1-5 คน ซึ่งในปี 61 มีทุนจดทะเบียนวิสาหกิจทั้งหมด 649,000 พันล้านกีบและมีรายได้รวม 107,584 พันล้านกีบ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Micro34.php

ฐานข้อมูลหน่วยเศรษฐกิจพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 133,997 หน่วยในปีที่ผ่านมา

สำนักงานสถิติสปป.ลาวเผยข้อมูลจำนวนหน่วยเศรษฐกิจพื้นฐานในสปป.ลาวเพิ่มสูงถึง 133,997 หน่วยในปี 2019 เพิ่มขึ้น 9,124 หน่วยจาก 124,873 หน่วยที่บันทึกไว้ในปี 2013 ระบบสารสนเทศด้านข้อมูลที่ทางหน่วยงานทำการจัดเก็บเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่จะนำมาพิจารณาในการกำหนดนโยบายต่างๆ ของภาครัฐให้สอดคล้องกับสภาพข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง ฐานข้อมูลหน่วยเศรษฐกิจพื้นฐานจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบเพื่อประสิทธิภาพสำหรับการนำมาใช้ในภายภาคหน้า อย่างไรก็ตามสปป.ลาวยังพบความท้าทายอีกประการหนึ่งในการจัดทำข้อมูลสารสรเทศคือการขาดความสามารถและความเข้าใจเชิงลึกในส่วนของจัดเก็บของหน่วยงานท้องถิ่นและความยากลำบากในการจัดเก็บของมูลบางอย่าง ทำให้ข้อมูลไม่ครอบคลุม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Number_33.php

เงินเฟ้อชะลอตัวแต่ยังอยู่ในระดับที่สูง

 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรชาวเวียงจันทน์จำนวนมากกล่าวว่ารายได้ของพวกเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ราคายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ค่าครองชีพในการดำเนินชีวิตยังคงสูงทำให้คุณภาพการชีวิตของพวกเขายังคงยากลำบาก ตามรายงานข้อมูลจากสำนักงานสถิติสปป.ลาว ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 113.95 จุดในเดือนมกราคมขยายตัวร้อยละ 2.01 เมื่อเทียบกับปี 63 ชะลอตัวจากเดือนธันวาคมที่ขยายตัวร้อยละ 3.19 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งค่าเงินกีบที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อยังคงเติบขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Inflation_32.php

เยอรมนีมอบเงิน 20 ล้านยูโรให้สปป.ลาว สำหรับการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ ธรรมาภิบาล และการค้า

กระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของสหพันธรัฐเยอรมันมอบเงินประมาณ 20 ล้านยูโรและรัฐบาลสปป.ลาวมอบเงินจำนวน 4 ล้านยูโรให้เป็น เงินช่วยเหลือของเยอรมันจัดให้เป็นความร่วมมือทางการเงินผ่าน KfW Development Bank โครงการนี้จะดำเนินการโดยกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ และกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า โดยได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคจากบริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชากรที่พึ่งพาผลผลิตจากป่า โดยการแนะนำระบบการประกันความถูกต้องตามกฎหมายของไม้และการเสริมสร้างอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ของสปป.ลาว ความร่วมมือทางการเงินของ FLEGT จะติดตามผลการดำเนินการและถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการข้อผูกพันของเยอรมันในสปป.ลาวอย่างใกล้ชิด ภาคป่าไม้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจสปป.ลาวโดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปไม้และเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและลดความยากจน  ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ที่มีใบอนุญาต FLEGT จะถือว่าถูกกฎหมายหากได้รับการตรวจสอบตามข้อกำหนดของ FLEGT โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมแปรรูปไม้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ  

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_32.php

แขวงเซกองจะเปิดจุดผ่านแดนระหว่างประเทศแห่งแรกกับเวียดนาม

แขวงเซกองจะเปิดจุดผ่านแดนระหว่างสปป.ลาว-กับเวียดนามแห่งแรกในเดือนหน้าเพื่อบรรเทาการเคลื่อนย้ายสินค้าและผู้คนระหว่างสองประเทศ นายเลอลักษณ์ ศิวิไล ผู้ว่าราชการแขวงกล่าวว่า   รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามได้ตกลงที่จะยกระดับจุดผ่านแดน Dakta-ok-Nam Giang ที่มีอยู่ระหว่าง แขวงเซกองชายแดนสปป.ลาวและจังหวัด Quang Nam ชายแดนเวียดนาม จุดผ่านชายแดนดังกล่าวเป็นช่องทางที่สำคัญในการขนส่งสินค้าเพื่อทำการค้าระหว่างสองประเทศรวมถึงการเข้ามาของประชากรของทั้งสองประเทศ การยกระดับจุดผ่านแดนดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศภายใต้บริบทของสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 โครงการดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการอยู่บรรเทาการค้าของสองประเทศให้ยังคงเติบโตได้อีกครั้ง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xekong31.php

สปป.ลาวสร้างเมืองใหม่ในเวียงจันทน์

ทางการเวียงจันทน์กำลังดำเนินการสร้างเมืองใหม่ซึ่งจะเมืองที่ 10 ในนครเวียงจันทร์ ซึ่งเมืองใหม่จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองปากงึ่มและเมืองชัยธานี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียงจันทน์ โดยจะมีหมู่บ้าน 24 แห่งรวมทั้งหมู่บ้าน 5 แห่งที่มีอยู่แล้วในเมืองปากงึ่ม และอีก 3 แห่งในเมืองชัยธานี งานพัฒนาเมืองเริ่มในปี 61 และขณะนี้ทางการกำลังเตรียมสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น อาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์กล่าวว่าเมืองใหม่นี้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบชนบทมีพื้นที่ป่าและเนินเขาตลอดจนแม่น้ำ ยังมีตาดซอยวอย ซึ่งเป็นน้ำตกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และพื้นที่ใกล้เคียงของเมืองปากงึ่มเป็นที่ตั้งของน้ำกัดยอละปา ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน การก่อสร้างเมืองใหม่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียงจันทน์ในปี 68 และแผนการพัฒนาชานเมืองให้เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัย เมืองชัยธานีมีขนาดใหญ่และมีหมู่บ้านมากกว่า 100 แห่งซึ่งมีครัวเรือนกว่า 43,900 ครัวเรือน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างชนบทจึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการเกษตรและการท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองใหม่จะให้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองชัยธานี และช่วยบรรเทาความแออัดของประชากรอีกด้วย

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/10/laos-to-create-new-district-in-vientiane