คนละครึ่งเฟส 6 รับสิทธิ์ของขวัญปีใหม่นายกฯ เริ่มเมื่อไหร่

คนละครึ่งเฟส 6 หลังจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงทุกหน่วยงาน ถึงการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับประชาชน โดยโครงการดังกล่าว ต้องสามารถดำเนินการให้มีผลในทางปฏิบัติต่อส่วนรวมได้ทันในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และประกาศเตือนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน คาดว่าโครงการดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและสอดคล้องในภาพรวมก่อน

ที่มา: https://www.thansettakij.com/business/economy/544850

กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชาจ่อทบทวนร่างกฎหมายภาษีอากรฉบับใหม่

กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกำลังเร่งทบทวนร่างกฎหมายภาษีอากรฉบับใหม่ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ภายใต้ข้อมูลเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญาและบทบัญญัติที่สอดคล้องกับกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกรมภาษีอากร (GDT) ได้เสร็จสิ้นในกระบวนการร่างกฎหมาย และได้ส่งไปยังกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเพื่อทำการตรวจสอบเป็นขั้นตอนถัดไป ซึ่งร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่มีเป้าหมายเพื่อให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงของเศรษฐกิจระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ในขณะเดียวกันจำต้องทำการปรับข้อกฎหมายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ที่ได้ประกาศใช้ไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน GDT สามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 2,680 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายนของปีนี้ หรือคิดเป็นร้อยละ 95 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปีงบประมาณ 2022

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501173213/ministry-of-economy-reviewing-draft-new-tax-law/

คาดยอดขายรถจักรยานยนต์ในกัมพูชาแตะ 190 ล้านดอลลาร์ ในปี 2026

ยอดขายรถจักรยานยนต์ภายในประเทศกัมพูชาคาดว่าจะแตะที่มูลค่า 141.30 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2022 และมีแนวโน้มที่อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) สูงถึงร้อยละ 7.67 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลทำให้มูลค่าตลาดในปี 2026 ของตลาดรถจักรยานยนต์ขยายตัวไปถึงระดับ 189.90 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันความต้องการรถจักรยานยนต์กระจุกตัวอยู่ในโซนชนบทของกัมพูชา เนื่องจากครอบครองเป็นเจ้าของได้ง่ายและเอื้อต่อการดำเนินชีวิต รวมถึงมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ ในขณะที่การประมาณการของภาครัฐบาลกัมพูชา ได้รายงานว่าปัจจุบันกัมพูชามีปริมาณรถยนต์อยู่ที่ 920,000 คัน และรถจักรยานยนต์ 5.2 ล้านคัน นับตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปัจจุบัน

ตามการรายงานของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501173402/motorcycle-sales-in-fast-lane-may-touch-190m-in-2026/

สปป.ลาว ได้รับยกย่องว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในปี 66

Wanderlust นิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำของสหราชอาณาจักร ได้ยกให้สปป.ลาว เป็นหนึ่งใน 20 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของเดือนมกราคม 2566 โดยอยู่ในอันดับ 6 ของกลุ่มประเทศอาเซียน ในขณะที่เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 8 โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่าง สี่พันดอนหรือที่รู้จักในชื่อสี่พันเกาะ น้ำตกคอนพะเพ็ง และเมืองปากเซ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามแนวริมแม่น้ำโขง ทั้งนี้ในเดือนมกราคม สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของลาว เช่น เชียงขวาง พงสาลี และหัวพัน เหมาะแก่การเดินทางมาเยือนเป็นอย่างยิ่ง โดยนักท่องเที่ยวมักเชื่อว่าอาเซียนเป็นประเทศเป็นเขตร้อน แต่ในสถานที่เหล่านี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าและตื่นขึ้นมาพบกับทะเลหมอก รวมไปถึงภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/10/24/laos-touted-as-one-of-the-best-places-to-visit-in-2023/

14 ต.ค. 65 ค้าต่างประเทศเมียนมา พุ่ง ! 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การค้าระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 14 ตุลาคม 2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 พุ่งขึ้นถึง 18.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 15.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการส่งออก 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ในขณะที่การนำเข้า 9.147 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการค้าทางทะเล 13.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และชายแดน 4.344 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญคือ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้า ได้แก่ สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-surges-to-over-18-bln-as-of-14-october/#article-title

“เวียดนาม” คาดผู้โดยสารกว่า 100 ล้านคนในปี 2565

คุณ Dinh Viet Thang ผู้อํานวยการของสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศเวียดนาม (CAAV) คาดมีผู้โดยสาร 100 ล้านคนในปีนี้ หากเทียบกับก่อนเกิดโรคระบาดอยู่ที่ 120 ล้านคนในปี 2562 โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามต้อนรับผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 81 ล้านคน เป็นผลมาจากตลาดในประเทศเติบโตแข็งแกร่ง ในขณะที่ตลาดต่างประเทศฟื้นตัวได้เพียง 50% ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นอุปสรรคในการกลับมาเปิดเที่ยวบินใหม่อีกครั้งของตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาดจีน ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มกลับมาเปิดเที่ยวบิน อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและไต้หวัน แต่ความต้องการเดินทางยังคงชะลอตัว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-airports-expected-to-serve-100-mln-passengers-in-2022/240622.vnp

“เวียดนาม” เติบโตเร็วสุดในอาเซียน คาด GDP ปีนี้เพิ่มขึ้น 8%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ว่า Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนาม มั่นใจว่าการเติบโตของเวียดนามจะเกินความคาดหมายในปีนี้ และยังคงรักษาตำแหน่งเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ในปี 2566  โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเพิ่มขึ้น 8% ในปี 2565 ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ย 7.3% ที่ประเมินไว้ในแบบสำรวจของ Bloomberg และขยายตัว 6.5% ในปีต่อไป ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อการประชุมสภาแห่งชาติช่วงฤดูใบไม้ร่วง นายกรัฐมนตรีเวียดนามอธิบายว่าการคาดการณ์ปี 2566 นั้นสมเหตุสมผล เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากมากมายที่เศรษฐกิจเผชิญท่ามกลางแนวโน้มทั่วโลกที่แย่ลง ผลการดำเนินงานของ GDP ในปีปัจจุบันจะเพิ่มความท้าทายสำหรับการเติบโตในปีหน้าด้วยฐานที่สูงขึ้น

ที่มา : https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/vietnam-gdp-20102022

หอการค้ายุโรป ชี้สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในเวียดนามชะลอตัว

สมาคมหอการค้ายุโรปในเวียดนาม (EuroCham)  เผยผลสำรวจดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ (Business Climate Index: BCI) พบว่าผู้ประกอบการยุโรปในเวียดนามส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นการดำเนินในธุรกิจ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 62.2 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่โดยรวมเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ผลการสำรวจโดย YouGov Decision Lab ระบุว่าถึงแม้เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ของปี 65 จะเติบโตเป็นระดับสูงสุดที่ 13.67% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ดัชนี BCI ยังคงปรับตัวลดลงไตรมาสที่สองติดต่อกัน สาเหตุสำคัญมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจากความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในยูเครน แรงกดดันเงินเฟ้อ ภาวะการขาดแคลนแรงงานทั่วโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) และความมุ่งมั่นร่วมกันของสหภาพยุโรปในการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้กิจการเวียดนามและยุโรปมีศักยภาพในการเติบโตอย่างสูง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/european-firms-confidence-in-vietnams-business-environment-slightly-declines-but-still-strong/240394.vnp

นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสปป.ลาวกว่าล้านคน

ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน ปี 2565 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสปป.ลาว มากกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากพิจารณาตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสปป.ลาว อยู่ที่ 644,756 คน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากประเทศไทยและเวียดนาม นับว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกจากการที่สปป.ลาว ยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางในเดือนพฤษภาคม หลัง COVID-19

ทั้งนี้ หน่วยงานการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าในปีนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวของสปป.ลาว ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ อยู่ที่ 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2022/10/20/over-a-million-tourists-visit-laos-this-year/

CRF คาดสถานการณ์น้ำท่วม ไม่กระทบกับผลผลิตข้าวในกัมพูชา

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) คาดการณ์ถึงสถานการณ์การผลิตข้าวในกัมพูชา หลังประสบกับปัญหาทางด้านอุทกภัยน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่เพาะปลูกข้าวไปแล้ว 200,000 เฮกตาร์ โดยในปัจจุบันกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งหมดอยู่ที่ 2.5 ล้านเฮกตาร์ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 8 ของพื้นที่เพาะปลูก แต่ถึงอย่างไรทางสมาพันธ์ข้าวกัมพูชายังคงมองว่าผลกระทบยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบจากน้ำท่วมจะคลี่คลายในอีกไม่ช้า ในขณะที่ภาครัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านความร่วมมือกับ CRF ในการขยายตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร่งสนับสนุนตลาดที่มีอยู่อย่างจีนและสหภาพยุโรป ที่มีความต้องการข้าวของกัมพูชาสูง ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้วกว่า 449,325 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามรายงานของ CRF สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 287 ล้านดอลลาร์ โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งได้ทำการนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชาปริมาณกว่า 198,107 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 44.09 ของยอดการส่งออกข้าวทั้งหมดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501171338/rice-output-forecasts-unchanged-despite-floods-says-crf/