‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ มองศก.เวียดนาม การฟื้นตัวหลังโควิด

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด รายงานผลการวิจัยระดับโลกในหัวข้อ “เวียดนาม – RCEP: โอกาสและความท้าทาย” พบว่าเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์หลักจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยข้อตกลงการค้าเสรีดังกล่าว คาดว่าจะยกเลิกภาษีสินค้าของประเทศสมาชิกลง 90% ภายในระยะเวลา 20 ปี ในขณะเดียวกันการเป็นสมาชิกในข้อตกลงจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการค้าของเวียดนามและเป็นส่วนช่วยสำคัญในการฟื้นตัวหลังโควิด-19 สินค้าส่งออกหลักที่ได้รับผลประโยชน์จากข้อตกลง RCEP ได้แก่ สินค้าไอที สิ่งทอ รองเท้า เกษตรกรรม ยานยนต์และอุปกรณ์สื่อสาร

นอกจากนี้ RCEP จะช่วยผลักดันภาคการส่งออกของเวียดนามและการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนแก่ผู้ผลิตเวียดนามและการเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1189946/standard-chartered-bank-regional-focus-to-support-viet-nams-post-covid-recovery.html

‘เวียดนาม’ เผย CPI เดือน เม.ย. 65 ขยายตัว 0.18%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเมษายน ขยายตัว 0.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าอุโภคบริโภคและบริการ จำนวน 11 รายการสินค้าที่ใช้ในการคำนวณดัชนี CPI พบว่าวัสดุก่อสร้างและที่อยู่อาศัย ขยายตัว 2.7%, ราคาก๊าซ เหล็กและวัสดุสำหรับการผลิตปูนซีเมนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบของสงครามยูเครน-รัสเซีย ในขณะเดียวกัน การบริการด้านวัฒนธรรม ความบันเทิงและการท่องเที่ยว และบริการด้านอาหารและการจัดเลี้ยง ขยายตัว 1.8% และ 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าการเติบโตในเดือนก่อนหน้า อันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการท่องเที่ยวและการเปิดเมือง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/cpi-inches-up-0-18-in-april/

เดือนเม.ย. 4 บริษัททุ่มเม็ดเงิน FDI ในภาคการผลิตของเมียนมา พุ่งแตะ 5.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) เผย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเดือนเม.ย. 2565 ของปีงบประมาณ 2565-2566 มี 4 บริษัทจีนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเข้ามาลงทุนในภาคการผลิตประมาณ 5.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้กับชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก แม้สถานประกอบการที่ใช้แรงงานจำนวนมากต้องได้รับผลกระทบของโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ขณะนี้อุตสาหกรรมกำลังกลับสู่สภาวะปกติหลังจากการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ใช้แรงงานในประเทศ  ที่ผ่านมาในช่วงงบประมาณย่อย (เดือนต.ค.2564-มี.ค.2565) เมียนมาสามารถดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากกว่า 647.127 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 49 บริษัทต่างชาติ ในจำนวนนี้ มี 40 บริษัท ที่ลงทุนในภาคการผลิต โดยมีเงินลงทุนโดยประมาณ 202.667 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/4-enterprises-pump-5-99-mln-of-fdi-into-manufacturing-sector-in-april/

การท่องเที่ยวเมียนมาคึกคัก เริ่มฟื้นตัวเป็นปกติ

หลังจาการคลี่คลายของการแพร่ระบาดโควิด-19  ภาคการท่องเที่ยวของเมียนมาเริ่มกลับมาคึกคักเป็นปกติอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด เทศกาลติงยาน (Thingyan) หรือสงกรานต์ของชาวเมียนมาในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางกันอย่างล้นหลาม ซึ่งก่อนช่วงเทศกาล และนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญมักจะนิยมเหมารถเพื่อการเดินทางมากกว่าใช้บริการโดยสารประจำทาง ส่งผลให้รถโดยสารต้องหันไปใช้สำหรับบรรทุกสินค้าในทุกๆ วัน แทน จากข้อมูลของผู้ขายสินค้าออนไลน์รายหนึ่ง พบว่า ค่าใช้จ่ายในการขนสินค้าใช้บริการขนส่งโดยรถโดยสารค่อนข้างมีราคาสูง โดยต้องชำระค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการจัดส่งสูงถึง 3,000 จัต ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสินค้า จากข้อมูลของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยว ในช่วงก่อนเทศกาลติงยาน ค่าตั๋วโดยสารรถประจำทางอยู่ที่ประมาณ 35,000 จัต จากนั้นลดลงเหลือ 25,000 จัตในช่วงเทศกาล ซึ่ง รัฐยะไข่ หาดซวงทา หาดงาปาลี เมืองพุกาม เมืองตองยี และทะเลสาบอินเลย์ เป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/domestic-tourism-back-in-operation-almost-as-usual/

สะพานมิตรภาพลาว-ไทยเปิดอีกครั้ง ด้านสปป.ลาวแอร์ไลน์วางแผนเที่ยวบินเพิ่ม

จุดผ่านแดนหลักของสปป.ลาวที่สะพานมิตรภาพลาว-ไทยแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างเวียงจันทน์กับจังหวัดหนองคายในประเทศไทย ได้เปิดขึ้นอีกครั้งหลังจากถูกปิดมานานกว่าสองปีเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของ Covid-19 ด้วยการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง ชาวต่างชาติและคนไร้สัญชาติสามารถเข้าและออกจากลาวได้อย่างอิสระในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมี 100 คนข้ามสะพานมายังประเทศไทย ขณะที่อีกเกือบ 300 คนเข้าสู่ลาว ด้านสายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างเวียงจันทน์และกรุงเทพฯ เป็น 2-3 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม รัฐบาลได้เรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบธุรกิจ และทุกภาคส่วนในสังคม เตรียมพร้อมต้อนรับและให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten87_Lao_thai_y22.php

กัมพูชาส่งออกข้าวแตะ 516 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวน 221,138 ตัน และข้าวเปลือกอีกจำนวน 1,648,474 ตัน โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 516.21 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2022 ตามการเปิดเผยของสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ส่งออกไปยังปลายทาง 54 แห่ง โดยกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังจีนจำนวน 115,255 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.12 ของการส่งออก มูลค่า 62.74 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ส่งออกไปยังยุโรปจำนวน 68,555 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 31 มูลค่า 51 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการส่งออกไปยังประเทศอาเซียนมีจำนวน 21,876 ตันหรือร้อยละ 9.89 มูลค่า 13.90 ล้านดอลลาร์ และการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ อีกมูลค่า 11.74 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นปริมาณ 15,452 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.99 ในส่วนของข้าวเปลือกส่งออกไปยังเวียดนามมากที่สุด สร้างรายได้ประมาณ 376.64 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501071306/cambodia-rice-exports-rise-to-516-million-in-four-months/

สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในกัมพูชาปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสแรก

สินเชื่อผู้บริโภคภายในกัมพูชาปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก เนื่องจากจำนวนบัญชีสินเชื่อและยอดสินเชื่อมีการเติบโตในเชิงบวก โดยการขอสินเชื่อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากสำนักสินเชื่อกัมพูชา (CBC) ซึ่ง CBC กล่าวว่าจำนวนบัญชีสินเชื่อทั้งหมดโดยภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.68 คิดเป็นจำนวนบัญชีประมาณ 1.39 ล้านบัญชี โดยมียอดค้างชำระเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.08 คิดเป็นมูลค่า 12.50 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นไตรมาส ในขณะเดียวกัน การขอสินเชื่อผู้บริโภคโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งในส่วนของการขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสก่อน ในขณะที่บัตรเครดิตและการจำนองเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และร้อยละ 24 ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501071305/consumer-credit-performance-improves-in-first-quarter/

‘เวียดนาม’ เผยรัฐบาลกู้เงิน 54 ล้านล้านดอง ม.ค.-เม.ย.

สำนักงานบริหารหนี้ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ภาระหนี้ของรัฐบาลรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 54 ล้านล้านดอง เงินกู้สำหรับใช้เป็นงบประมาณของรัฐบาล วงเงินมากกว่า 51.3 ล้านล้านดอง (7.9% ของเป้าหมายรัฐบาล) ในขณะที่เงินกู้จากแหล่งอื่นๆ 2.5 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ เฉพาะในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว รัฐบาลชำระหนี้ไปแล้วกว่า 12.6 ล้านล้านดอง รวมไปถึงการชำระเงินกู้ในประเทศ 9 ล้านล้านดอง และชำระเงินเงินกู้จากต่างประเทศ 3.6 ล้านล้านดอง ทำให้เดือนม.ค.-เม.ย. รัฐบาลได้ชำระหนี้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 91.6 ล้านล้านด่อง ซึ่งเป็นการชำระหนี้โดยตรงของรัฐบาลที่มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 84 ล้านล้านด่อง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/govt-borrows-vnd54-trillion-from-jan-apr/

 

‘ภาคส่งออก’ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม

ตามรายงานทางสถิติการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนเมษายน 2565 มีมูลค่า 33.26 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 32.19 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.5% ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามเกินดุลการค้า 2.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ Maybank Investment Securities (MIB) รายงานว่าภาคเศรษฐกิจหลักของการส่งออกเวียดนามส่วนใหญ่มีการเติบโตเชิงบวก โดยน้ำมันดิบพุ่ง 204% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และการล็อกดาวน์อย่างเข็มงวดของประเทศจีน ไม่สร้างผลกระทบต่อการส่งออกของเวียดนาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกิจการต่างๆ ส่งออกสินค้าคงเหลือตามการฟื้นตัวของอุปสงค์

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/export-sector-is-bright-spot-for-vietnam-economy/

 

เดือนเม.ย.65 เมียนมา ส่งออกสินค้าเกษตรลดลงเล็กน้อย

เดือนเม.ย. ของปีงบประมาณ 2565-2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร อยู่ที่ 325.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย 11.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 337.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สาเหตุจากการปิดชายแดนและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบศุลกากรของจีน ซึ่งทำการปิดชายแดนทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับชายแดนมูเซในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงจีนได้ทดลองเปิดด่านจินซันเฉาะ (Kyinsankyawt) เพื่อทำการซื้อขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 64 เป็นต้นมา ทั้งนี้สินค้าเกษตรส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกาเป็นหลัก โดยในช่วงงบประมาณย่อย (เดือนต.ค.64 ถึง เดือนมี.ค.65) การส่งออกสินค้าเกษตรมีมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/agricultural-export-value-sees-slight-decline-in-april/#article-title