ผู้ติดเชื้อภายในประเทศกัมพูชา ยังคงทรงตัวต่ำต่อเนื่อง

กัมพูชารายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 เคสใหม่จำนวน 267 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ต.ค. ) โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 116,407 ราย ซึ่งจำนวนเคสที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้การจำกัดการเดินทาง หรือมาตรการในการควบคุมการเดินทางต่าง ๆ ลดความเข้มข้นลง แต่มาตรการป้องกันสำหรับภาคธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปเพื่อป้องกันจำนวนเคสที่อาจจะเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน โดยภาคธุรกิจต่างหวังว่ารัฐบาลจะทบทวนข้อจำกัดในปัจจุบันและจะยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างลง เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50953754/10-days-after-pchum-cambodias-covid-19-cases-remain-steady-below-300-for-17-days-with-recoveries-outstripping-infections/

แอร์เอเชีย กรุ๊ป จับตากัมพูชาเปิดตัวสายการบินใหม่

บริษัท AirAsia Aviation Ltd. เปิดเผยว่า AirAsia Group กำลังพิจารณากัมพูชาในการขยายธุรกิจสายการบินแห่งใหม่ โดย AirAsia Aviation วางแผนจะรวมสายการบิน 4 สาย ในประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจ ระหว่างธุรกิจสายการบินและธุรกิจด้านดิจิทัลออกจากกันอย่างชัดเจน โดยวางแผนทบทวนตลาดใหม่ อาทิเช่น กัมพูชา เพื่อเชื่อมโยงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคต ซึ่งกัมพูชาถือเป็นประเทศที่ดึงดูดสายการบินเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศหลายแห่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับสายการบินใหม่ที่มีศักยภาพ โดยสถานการณ์ปริมาณผู้โดยสาร ณ สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ของกัมพูชาในกรุงพนมเปญ เสียมราฐ และสีหนุวิลล์ ลดลงกว่าร้อยละ 92.3 ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50953478/airasia-group-eyes-cambodia-with-brand-new-airline-venture/

ธุรกิจจะได้ผลประโยชน์จากการดำเนินการรถไฟลาว-จีน

การรถไฟลาว-จีนอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับการพัฒนาของสปป.ลาว แต่รัฐบาลต้องมีแผนที่ชัดเจนว่าจะเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากทางรถไฟมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ได้อย่างไร นางวาลี เวทสพงษ์ รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว กล่าวกับเวียงจันทน์ไทมส์เมื่อวันจันทร์ว่า “ทางรถไฟจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของสปป.ลาวและจะให้แรงผลักดันอย่างมากในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงของลาวและนานาประเทศเพื่อนบ้าน” ทั้งนี้ทางรถไฟจะส่งผลให้การท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนเติบโตทางรถไฟระยะทาง 422.4 กม. คาดว่าจะลดต้นทุนการขนส่งผ่านสปป.ลาวได้ร้อยละ 30-40 เมื่อเทียบกับการเดินทางทางถนน ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของลาวคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากปริมาณผู้โดยสารทางรถไฟที่เพิ่มขึ้นรวมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้า

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Businesses_204.php

‘เวียดนาม’ ชี้ยอดขายรถจักรยานยนต์ ไตรมาส 3 ดิ่งลง 46%

สมาคมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม (VAMM) มียอดขายรถจักรยานยนต์ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อยู่ที่ 367,037 คัน ลดลง 45.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสมาชิกของสมาคมผู้ผลิรถจักรยานยนต์เวียดนาม ได้แก่ บริษัท Honda, Piaggio, Suzuki, SYM และ Yamaha ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์กว่า 100 รุ่น โดยเฉพาะฮอนด้า เวียดนาม (Honda Vietnam) ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 81% ของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากที่สุด ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าหลังจากเติบโตราว 30% ในไตรมาสที่ 2 ยอดขายรถจักรยานยนต์ลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์จะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เมื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสได้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/motorbike-sales-slash-nearly-46-percent-in-q3/209896.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผย Q3 ธุรกิจผลิตน้ำมันและก๊าซ กำไรลดวูบ

แม้ว่าราคาน้ำมันจะกลับมาฟื้นตัว แต่ผลกำไรของธุรกิจน้ำมันและก๊าซลดลงในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นผลมาจากได้รับผลลกระทบของโควิด-19 บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง “PV Gas” โชว์กำไรในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก่อนหักภาษีและหลังหักภาษี ลดลง 11.5% และ 7% คิดเป็นมูลค่า 2.29 ล้านล้านดอง และ 1.86 ล้านล้านดอง ตามลำดับ ตัวแทนจากบริษัท กล่าวว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ความต้องการใช้ก๊าซของลูกค้าลดลง ในขณะเดียวกัน สถานการณ์การผลิตที่ซบเซา ทำให้อุปสงค์ในประเทศลดลง 35-40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในอนาตเร็วๆนี้ ลูกค้าจะลดการบริโภคก๊าซเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายก๊าซลดลง 40-50% ในขณะที่ปัญหาทางด้านการขนส่งและแรงงาน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/oil-and-gas-firms-suffer-drop-in-q3-profit-due-to-covid19-impacts/209912.vnp

 

11 เดือนแรกของปีงบฯ 63-64 เมียนมา – สิงคโปร์ ดันยอดการค้ากว่า 2.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์นำเข้ากว่า 2,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ สิงคโปร์นำเข้ามากกว่า 2.770 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 63-64 โดยในปีงบประมาณ 60-61 การส่งออกของเมียนมาอยู่ที่ 753.495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,084.631 ล้านดอลลาร์ โดยมีปริมาณการค้า 3,838.126 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2561-2562 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 344.740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามูลค่า 3,162.511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปริมาณการค้า 3507.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 753.114 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามีมูลค่า 3,052.194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณการค้า 3,805.307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 63-68 เป็นโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างงานและโอกาสใหม่ๆ ให้กับชาวเมียนมา ซึ่งยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) ปี 2020-2025 จะสร้างโอกาสใหม่สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและผู้ส่งออกที่มีอยู่ในตลาดในประเทศและทั่วโลก

ที่มา: https://news-eleven.com/article/218047

ชู 11 มาตรฐานขานรับเปิดประเทศ ตั้งแต่เหยียบประเทศจนถึงกำจัดขยะ

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี  โดยใช้แนวทางกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งภาคเอกชนจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมมาตรฐาน SHA+ พร้อมรณรงค์มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ซึ่งที่ผ่านมา ชาวกรุงเทพฯ ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 100% และเข็มที่ 2 อีก 69.77% โดยน่าจะครบ 70% ภาย 1-2 วันนี้ตามเป้าหมาย จึงมีความพร้อมที่จะเปิดเมือง และกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และได้จัดทำมาตรฐานขั้นตอนการปฎิบัติงาน แบ่งเป็นมาตรฐาน 11 ด้าน ซึ่งหอการค้าไทยจะสื่อสารไปยังหอการค้าจังหวัดให้เตรียมความพร้อมต่อไป

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/387958/

 

การลงทุนด้านการเกษตร การท่องเที่ยวสามารถสร้างงานได้มากขึ้น

ภาคการเกษตรและการท่องเที่ยวมีศักยภาพมหาศาลในการส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมในสปป.ลาวทั้งในระยะกลางและระยะยาว ตามรายงานล่าสุดของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียรายงาน “การพัฒนาเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตอย่างครอบคลุมในลาวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองภาคส่วนนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังเกิดโรคระบาด ความเชื่อมโยงระหว่างการเกษตรกับการท่องเที่ยวสามารถส่งผลดีต่อทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการพัฒนาที่ยั่งยืน ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับปรุงการเกษตรให้ทันสมัยเพื่อการเติบโตและการลดความยากจน โดยกล่าวว่าการลงทุนในการวิจัย การพัฒนา และการขยายผลทางการเกษตร ด้านการท่องเที่ยวนักเศรษฐศาสตร์ แนะว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นเมื่อการระบาดใหญ่สงบลง เนื่องจากมีผู้คนรอเดินทางมากขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายมากขึ้น สปป.ลาวควรขยายการยกเว้นวีซ่านโยบายต่อประเทศที่มีรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวขาออกสูง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment_203_21.php

ชาวสวนมะเขือเทศอำเภอปหวิ่น-พยู ปลื้ม ได้ราคางาม

ชาวสวนมะเขือเทศอำเภอปหวิ่น-พยู เขตมะกเว ล้วนปลื้มราคามะเชื่อเทศที่เพิ่มขึ้น ในปัจจุบันราคาจำหน่ายที่ 1,500 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ปีนี้เกษตรกรล้วนมีพอใจเพราะได้ผลผลิตที่ดีหลังมีฝนตกและน้ำบาดาลที่เพียงพอ โดยเกษตรกรในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะปลูกมะเขือเทศ พริก หัวหอม มะระ ฟักทอง แตงโม มะเขือยาว ถั่วฝักยาว ผักโขม หัวไช้เท้า (Daikon) และผักเคว (Kayl)  ซึ่งเป็นรายได้หลักของครอบครัวเกษตรกร ขณะที่เดือนที่แล้ว ราคามะเขือเทศขายได้เพียง 400-500 จัตต่อ viss ซึ่งก่อนหน้านี้ เกษตรกรทำการเพาะปลูกด้วยวิธีดั้งเดิม แต่ตอนนี้หันไปเพาะปลูกด้วยวิธีและเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/pwintbyu-tomato-growers-enjoy-fairer-prices/

‘เวียดนาม’ คาดบรรลุเป้าส่งออกข้าวปีนี้

เวียดนามคาดว่าในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกข้าว 6.3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากอุปสงค์ทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นและราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น ตามรายงานของสถิติกรมศุลกากร เปิดเผยว่าในเดือน ก.ย. เวียดนามส่งออกข้าว 593,600 ตัน เป็นมูลค่า 293.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% ในแง่ของปริมาณ และ 20.5% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ นาย Nguyen Quoc Toan อธิบดีกรมการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ชี้ว่าการส่งออกข้าวเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ย. ถึงแม้ว่าจะคงมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ นอกจากนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาข้าวหัก 5% อยู่ที่ประมาณ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน แซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ เช่น ไทย อินเดียและปากีสถาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1059961/viet-nam-likely-to-achieve-rice-export-target-this-year.html