ราคาน้ำตาลในเมียนมาพุ่งสูงขึ้น คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดใหม่

ตามรายงานของผู้ค้าน้ำตาล ระบุว่าในวันที่ 14 และ 16 มีนาคม ราคาน้ำตาลในตลาดย่างกุ้งเพิ่มขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีรายงานการพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันที่ 16 มีนาคม โดยแตะระดับ 4,550 จ๊าดต่อviss ซึ่งอัตราการขายส่งรายวันในตลาดย่างกุ้งในวันที่ 16 มีนาคมจะอยู่ที่ 4,340 จ๊าดต่อviss แต่ก็เพิ่มขึ้นเป็น 4,550 จ๊าดต่อviss ในช่วงเย็น แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี วิถีราคาน้ำตาลแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ปัจจัยด้านต้นทุนการขนส่งจากมัณฑะเลย์ไปย่างกุ้งก็ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน โดยในย่างกุ้ง ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นจาก 3,930 จ๊าดต่อviss ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 4,400 จ๊าดต่อviss ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งการคาดการณ์บ่งชี้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงปลายเดือนมีนาคม ก่อนถึงเทศกาลติงยาน นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าถึงแม้ราคาขายปลีกน้ำตาลจะสูงขึ้นแต่ราคาน้ำตาลทรายขาวในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยคาดว่าราคาขายปลีกน้ำตาลจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป โดยอาจถึง 5,000 จ๊าดต่อviss ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเทียบเท่ากับราคาน้ำตาลโตนด

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sugar-prices-surge-expected-to-reach-new-highs/

รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบโรงงานเครื่องจักรกลการเกษตร Myanma ในเมือง Kyaukse

ดร. ชาร์ลี ตัน รัฐมนตรีสหภาพอุตสาหกรรม พร้อมด้วยอู เมียว ออง หัวหน้าคณะรัฐมนตรีประจำเขตมัณฑะเลย์ และพรรคการเมือง ได้ตรวจสอบโรงงานเครื่องจักรกลการเกษตรเมียนมา ในเมืองจ็อกเซ เขตมัณฑะเลย์ โดยผู้จัดการโรงงานได้อธิบายกระบวนการวิจัยและพัฒนาเครื่องย้ายปลูกข้าว ด้านรัฐมนตรีสหภาพย้ำถึงความสำคัญของอุปกรณ์การเกษตรเนื่องจากเมียนมาเป็นประเทศเกษตรกรรม การผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดกลางสามารถช่วยลดการนำเข้าเครื่องจักร ซึ่งช่วยประหยัดการใช้เงินตราต่างประเทศได้  อย่างไรก็ดี เขายังกล่าวถึงความพยายามของเขตอุตสาหกรรมมัณฑะเลย์ในการผลิตเครื่องหีบฝ้ายแบบลูกกลิ้งคู่สำหรับแยกสำลีออกจากเมล็ด แม้ว่าประเทศจะมีการผลิตฝ้ายอย่างเพียงพอ แต่เครื่องจักรที่ไม่เพียงพอก็ขัดขวางศักยภาพในการเป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตฝ้าย นอกจากนี้ รัฐมนตรีสหภาพฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของโรงงานฝ้ายในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น เส้นด้ายและเสื้อผ้า นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำถึงศักยภาพในการผลิตน้ำมันบริโภคจากเมล็ดฝ้าย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moi-um-inspects-myanma-agricultural-machinery-factory-in-kyaukse/#article-title

สายการบินลาวแอร์ไลน์เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ แขวงหัวพันและแขวงหลวงน้ำทา

สายการบินลาวกำหนดเที่ยวบินรายวันจากเวียงจันทน์ไปยังแขวงหัวพัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 และเพิ่มเที่ยวบินไปยังแขวงหลวงน้ำทา เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน เริ่มในวันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของสายการบินลาว บอกกับหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ว่า ในอดีตสายการบินเคยให้บริการ 2 เที่ยวบินต่อวันไปและกลับจากหลวงน้ำทา แต่ปัจจุบันถูกตัดเหลือเพียง 1 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ลาวแอร์ไลน์จะกำหนดเที่ยวบินไปหลวงน้ำทา 2 เที่ยวเช่นเดิม นอกจากนี้ จำนวนเที่ยวบินระหว่างเวียงจันทน์ไปแขวงหัวพันจะเพิ่มขึ้นจาก 5 เที่ยวบินเป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ก่อนที่สนามบินหนองขางจะเปิดใช้งานผู้คนส่วนใหญ่ในแขวงหัวพันเดินทางไปมาโดยใช้รถยนต์ซึ่งเป็นการเดินทางที่ยาวนาน เพราะภูมิประเทศเป็นภูเขา แต่สนามบินแห่งใหม่นี้จะทำให้การเดินทางไปแขวงหัวพันสะดวกขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นจากปีที่แล้วที่มีนักท่องเที่ยว 45,000 คนมาเยือนแขวงหัวพัน สร้างรายได้มากกว่า 32 พันล้านกีบ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_55_Lao_Airlines_y24.php

CDC อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 173 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านดอลลาร์

ดร.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดใหม่ ได้อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 173 โครงการ โดยสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ด้วยเงินลงทุนรวม 4.150 พันล้านดอลลาร์ ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 170,000 ตำแหน่ง ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวเสริมว่ารัฐบาลกำลังเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและสิ่งจูงใจ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม และเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน ผ่านการมีส่วนร่วมกับภาคเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501456774/173-new-investment-projects-worth-4b-registered-with-the-cdc-says-pm/

ฮุน มาเนต เผยยอดส่งออกกัมพูชาเติบโต 16.57% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ถึง กุมภาพันธ์ 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าร้อยละ 16.57 ที่มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยถ้อยแถลงนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในโอกาสที่เป็นประธานการประชุมสภาคลัง (Council of Ministers) ณ พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2024 ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า ข้าว ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ รองเท้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ จีน เวียดนาม สหรัฐฯ ไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย แคนาดา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ โดยการเติบโตของมูลค่าการส่งออกแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกัมพูชาเริ่มขยายตัว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501456766/pm-in-the-past-six-months-cambodia-exported-11-8-billion/

‘วินฟาสต์’ ปักหมุดร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม จะเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. นับเป็นครั้งแรกของค่ายรถยนต์ชื่อดังของเวียดนามที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเอเชียตะวันออกเฉีนงใต้ มีรถยนต์หลายรุ่น ได้แก่ รถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดเล็ก (Mini e-SUV), VF 3, VF 5, VF e34, VF 6, VF 7, VF 8 และ VF 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม E-SUV รวมถึง VF Wild รถกระบะไฟฟ้า

ทั้งนี้ Ms. Vu Dang Yen Hang ผู้อำนวยการทั่วไปของ VinFast ประจำประเทศไทย กล่าวว่าการเปิดตัวแบรนด์ VinFast ในประเทศไทย จะเป็นก้าวสำคัญทางกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับการแสดงตัวตนของบริษัทที่จะเป็นศูนย์กลางรถยนต์ที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://dtinews.dantri.com.vn/en/news/018/88023/vinfast-to-attend-45th-bangkok-international-motor-show.html

เมียนมา รัสเซีย หารือแผนสร้างโรงงานน้ำมันบริโภค

ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเมียนมา ระบุ ขณะนี้เมียนมาและรัสเซียอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงานน้ำมันบริโภค คาดว่าจะผลิตน้ำมันได้ 35,000 ตันต่อปี จากพืชน้ำมันต่างๆ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ดร. Charlie Than รัฐมนตรีสหภาพอุตสาหกรรม และตัวแทนจาก Russian NPP A – Engineering LLC Company ได้พบและหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านผลิตผลทางการเกษตรและพืชน้ำมัน โดยมีการเสวนาเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโรงงานผลิตน้ำมันพืชที่จะผลิตน้ำมันจากพืชน้ำมันได้ 35,000 ตันต่อปี การผลิตอาหารสัตว์และเม็ดเชื้อเพลิงจากผลพลอยได้จากการบดพืชน้ำมัน การเพาะปลูกพืช การแปรรูปและการฝึกอบรมการบรรจุหีบห่อ การติดตั้ง เครื่องจักรในสายการผลิต กระบวนการทดสอบและติดตาม อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนทั้งสองยังได้หารือเกี่ยวกับการยกระดับกระบวนการผลิตน้ำมันบริโภคให้สอดคล้องกับมาตรฐานและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยระหว่างประเทศ ตลอดจนข้อกำหนดทางเทคโนโลยีสำหรับโรงกลั่นและการจัดหาเครื่องจักรของโรงกลั่นน้ำมันบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-russia-discuss-plans-to-build-edible-oil-factory/#article-title

การค้าต่างประเทศของเมียนมาทะลุ 27 พันล้านดอลลาร์ใน 11 เดือน

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ การค้าภายนอกของเมียนมากับพันธมิตรต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่า 27.758 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 1 มีนาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยที การส่งออกของเมียนมามีมูลค่ามากกว่า 13.378 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 14.379 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566 ถึง 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 อย่างไรก็ดี มูลค่าการค้าทางทะเลของเมียนมาในปีงบประมาณนี้เกินกว่า 20.55 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การค้าชายแดนมีมูลค่า 7.207 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขการค้าในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาลดลงกว่า 3.605 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้วที่มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 31.36 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-surpasses-us27b-in-11-months/

‘วินฟาสต์’ ประกาศความร่วมมือกับจ๊อสพอง รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในแอฟริกา

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม ได้ประกาศลงนามข้อตกลงการจัดจำหน่ายกับกลุ่มบริษัทจ๊อสพอง (Jospong Group of Companies) หนึ่งในบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลายในสาธารณรัฐกานา เพื่อจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศและกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก รวมถึงวางแผนที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานชาร์จไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถรถยนต์ไฟฟ้า โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทที่จะเสนอโซลูชั่นการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันทางบริษัทสามารถเข้าถึงศักยภาพตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในแอฟริกาได้อีกด้วย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vinfast-announces-partnership-with-first-ev-distributor-in-africa-post1083008.vov

สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 5 มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้

สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 5 ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างแขวงบอลิคำไซ ในประเทศลาว กับจังหวัดบึงกาฬของประเทศไทย มีความคืบหน้าตามกำหนด และสะพานดังกล่าวจะเปิดให้สัญจรได้ในปลายปีนี้ โดยสะพานแห่งนี้มีความยาว 1,350 เมตร และจะช่วยส่งเสริมการเดินทางระหว่างลาวและไทย กระตุ้นให้เกิดการค้ากับประเทศอื่นๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฝั่ง สปป.ลาว กล่าวว่า สะพานจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567 และงานดังกล่าวคืบหน้าไปอย่างราบรื่นหลังจากการประเมินการก่อสร้างแล้วเสร็จมากกว่า 80% ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นจากเงินกู้จำนวน 1.38 พันล้านบาท จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย (NEDA) ได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาล สปป.ลาว โดยโครงการก่อสร้าง ประกอบด้วย การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 535 เมตร และการก่อสร้างถนนทางเข้าอาคารตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร และโครงสร้างอื่นๆ ในฝั่ง สปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_54_Fifth_y24.php