ค้าชายแดนเมียนมา-อินเดีย พุ่ง 110 ล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาและอินเดียอยู่ที่ 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 9 ก.ค.64 ของปีงบประมาณ 2563-2564 เพิ่มขึ้น 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งโดยการส่งออกของ 191.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้า 1.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะมีการปิดด่านชายแดน ซึ่งการค้าชายแดนส่วนใหญ่ผ่านชายแดนทามู และด่าน Reed ในรัฐชิน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 9 ก.ค.64 การค้าผ่านชายแดนทามูมีมูลค่ารวมกว่า 32.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออก 31.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้า 0.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการซื้อขายผ่านด่านชายแดน Reed อยู่ที่ 160.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่งออกมีมูลค่า 160.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้า 0.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้เมียนมาส่งออกถั่วเขียว ถั่วแระ ถั่วเขียว ถั่วลันเตา ขิง หญ้าฝรั่น ขมิ้น ใบกระวาน ผลิตภัณฑ์ประมง ผลไม้ ขณะเดียวกันสินค้านำเข้าได้แก่ ยา เค้กน้ำมัน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ เหล็ก เครื่องจักรก่อสร้างอื่นๆ และวัสดุก่อสร้าง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-india-border-trade-up-by-110-mln-as-of-9-july/

สหภาพยุโรปให้คำมั่นสัญญา 42.9 ล้านยูโรเพื่อจัดการกับผลกระทบของ Covid-19 ต่อการศึกษาและโภชนาการ

สหภาพยุโรป (EU) จะให้เงิน 42.9 ล้านยูโรแก่สปป.ลาว เพื่อจัดการกับผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่มีต่อการศึกษาและโภชนาการ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป เข้าเยี่ยมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Mr Bounchom Oubonpaseuth เพื่อแจ้งให้เขาทราบถึงผลในเชิงบวกของการประเมินโครงการสนับสนุนงบประมาณการศึกษาและโภชนาการของสหภาพยุโรป เงินทุนดังกล่าวจะจัดสรรเงิน 26.4 ล้านยูโร (318 พันล้านกีบ) สำหรับโครงการสนับสนุนงบประมาณการศึกษาและ 16.4 ล้านยูโร (197 พันล้านกีบ) สำหรับการสนับสนุนงบประมาณด้านโภชนาการสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านโภชนาการแห่งชาติ สปป. ลาว” การสนับสนุนนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณหรือภาระผูกพันทางการเงินแต่เป็นการช่วยให้รัฐบาลรับมือกับวิกฤตโควิด-19 และความต้องการของนักเรียนและประชากรที่อ่อนแอของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EU142.php

จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชา จ่อขึ้นแท่นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในประเทศ

จังหวัดพระสีหนุในกัมพูชาครองตำแหน่งจังหวัดยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศให้การยอมรับ โดยจังหวัดพระสีหนุได้ทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 532,380 คน เดินทางมายังจังหวัดชายฝั่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 117.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 59 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังจังหวัดตามแนวชายฝั่ง ส่วนกรุงพนมเปญซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงมากที่สุดที่ร้อยละ 36.8 โดยมีนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นจำนวน 374,196 คน รองลงมาคือเมืองเสียมราฐลดลงร้อยละ 30 ที่ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพียง 115,255 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50899216/preah-sihanouk-province-tops-domestic-tourism-destinations/

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศของกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 ในช่วงครึ่งปีแรก

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศที่เดินทางผ่านสนามบินนานาชาติสามแห่งในกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 คิดเป็นจำนวน 136,680 คน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี รายงานโดยท่าอากาศยานกัมพูชาบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่าท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) รองรับผู้โดยสารจำนวน 120,922 คน ลดลงร้อยละ 89.4 ในขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ (REP) ลดลงถึงร้อยละ 99.9 โดยมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 359 คน ส่วนสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ (KOS) รองรับผู้โดยสารเพียง 15,399 คน ลดลงร้อยละ 91.8 ซึ่งท่าอากาศยานกัมพูชารายงานเพิ่มเติมระบุว่าเที่ยวบินภายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 78.7 แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกกลับปรับตัวเติบโตในเชิงบวก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งในปี 2020 จำนวนผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินลดลงเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 81.3 คิดเป็นจำนวน 2.13 ล้านคนในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898857/air-passengers-drop-by-92-percent-in-first-half/

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาวคาดหวังให้สปป.ลาวได้วัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ

ดร.ปีเตอร์ เอ็ม เฮย์มอนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสปป.ลาว กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะมาถึงสปป.ลาวในอนาคต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสปป.ลาวจากไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการ COVAX Facility มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกัน การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะทำให้ประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนในสปป.ลาวเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจุบันสปปป.ลาวสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ของประชาทั้งหมดและหากได้รับวัคซีนเพิ่มเติมที่มีกำหนดรับในเดือนนี้ สปป.ลาวจะสามารถฉีดเข็มสองให้กับประชาชนได้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 50 ภายในปีนี้ การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในตามหลักทางการแพทย์นั้น จะทำให้สปป.ลาวสามารถจบปัญหากับโควิดเร็วและจะเร่งกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน การสนับสนุนวัคซีนผ่านโครงการดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้สปป.ลาวรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_US141.php

ตลาดโฮจิมินห์ดิ่ง เผชิญลูกค้าน้อยราย เหตุกลัวโควิดระบาด

จากการสำรวจของสำนักข่าว VnExpress เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบว่าตลาดส่วนใหญ่มีผู้ซื้อหรือผู้บริโภคเพียงไม่กี่รายที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย และตลาดดั้งเดิมอีก 40 แห่ง ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้บางส่วน โดยจำหน่ายเฉพาะอาหาร ทั้งนี้ ผู้บริหารตลาดรายหนึ่ง กล่าวว่าพ่อค้า/แม่ค้าหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคกลัวที่จะเข้ามาตลาด เนื่องจากอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ดี ร้านค้าหลายแห่งได้ปรับลดราคาผักผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ ผู้คนในเมืองโฮจิมินห์กว่า 13 ล้านคน เผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด มากกว่า 39,500 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 เม.ย. 2564)

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/hcmc-traditional-markets-lack-patrons-on-covid-fears-4328158.html

“ไนกี้” หวั่นโควิด-19 ระบาด ปิดโรงงานผลิตรองเท้าในเวียดนาม

บริษัทวิจัยตลาด ส่งสัญญาเตือนการปิดโรงงานผลิตรองเท้า 2 รายในเวียดนาม เนื่องจากเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการผลิตรองเท้าไนกี้ (Nike) โดยเวียดนามมีสัดส่วน 49% ของปริมาณการนำเข้าผ่านการขนส่งทางทะเล และเชื่อมโยงกับสินค้าของไนกี้และอื่นๆ ของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อีกทั้ง งบประมาณของบริษัท ไนกี้ ปี 2563 ได้ทำสัญญาจ้างในเวียดนาม เพื่อผลิตรองเท้าแบรนด์ราว 50% นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ ‘S&P Global Market Intelligence’ ชี้ให้เห็นว่า ‘Changshin Vietnam’ โรงงานผลิตรองเท้าจากเกาหลี และ ‘Pou Chen Corp’ ของไต้หวัน ประกาศหยุดการดำเนินกิจการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจทำให้ซัพพลายเชนเกิดหยุดชะงักลงที่บริษัททำธุรกิจด้วย

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/nike-could-run-out-of-vietnamese-sneakers-4328007.html

เกษตรกรปลื้ม พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ออกไข่ได้ราคาดี

ผู้เลี้ยงไก่จังหวัดหมื่นบู้ เขตมะกเว เปิดเผยว่ายอดขายไข่ไก่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น โดยราคาเพิ่มขึ้นตามคาดของไข่ เล็ก กลาง และใหญ่ เป็น 180, 200 และ 220 จัตต่อฟองจากเดิม 80, 100 และ 120 จัตต่อหนึ่งฟอง ในส่วนการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มีกาไรน้อยลงเนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องเจอกับปัญหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ล้มตาย จากสภาพอากาศแปรปรวน อีกทั้งราคาอาหารไก่ก็สูงขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ในแต่ละหมู่บ้านมีฟาร์มไก่ 3-4 แห่ง เป็นฟาร์มที่เลี้ยงในครัวเรือนในขณะที่บางรายเลี้ยงแบบเกษตรพันธสัญญาร่วมกับบริษัทต่างชาติ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/poultry-breeders-get-good-price-of-eggs/

กัมพูชาจัดเก็บภาษีในช่วงครึ่งปีแรกรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์

กรมจัดเก็บภาษีกัมพูชา (GDT) รวบรวมรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 ลดลงร้อยละ 10.60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 67.58 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี โดยกรมจัดเก็บภาษี (GDT) ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายการปฏิรูปเชิงลึกของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งานการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมาตรการสำคัญต่างๆ รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการจัดการการปฏิรูประบบภาษี การปรับปรุงระบบ e-filling การเสริมการจัดเก็บภาษี และอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าที่จะจัดเก็บภาษีอยู่ที่ประมาณ 2.243 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898476/over-1-5-billion-collected-in-tax-revenue-in-first-semester/

กัมพูชาอาจได้รับผลกระทบเชิงบวก หลังเวียดนามโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น

แผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดลองอันของเวียดนาม อาจมีส่วนช่วยทำให้การค้าข้ามพรมแดนของกัมพูชาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดลองอันกำลังจัดตั้งศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง 6 แห่ง เพื่อช่วยส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก และปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่น โดยศูนย์ทั้งหมดเชื่อมต่อกับถนน แม่น้ำ และทะเล ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการจัดส่งและการกระจายสินค้า ซึ่งจังหวัดลองอันตั้งอยู่ติดกับตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชาระหว่างนครโฮจิมินห์ทางตอนเหนือและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โดยทั้งกัมพูชาและเวียดนามได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะเพิ่มปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งในปัจจุบันการค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชามีมูลค่าสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 443 ในไตรมาสแรกของปี 2021 สู่มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยางพารา และพืชผลทางการเกษตร ส่วนการส่งออกของเวียดนามมายังกัมพูชาเติบโตเกือบร้อยละ 16 คิดเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็ก น้ำมันและก๊าซ รวมถึงเสื้อผ้าและรองเท้า เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898290/cambodia-may-gain-from-vietnam-investing-in-better-infrastructure/