สมาคมยานยนต์เวียดนามเผยเดือนมิ.ย. ยอดขายรถยนต์ลดลง

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) รายงานสถิติเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 ว่าในเดือนมิ.ย. 2564 สมาชิกของสมาคมฯ มียอดขายยานยนต์ 23,587 คัน ลดลง 8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยรถยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 15,802 คัน ลดลง 10% จากเดือนพฤษภาคม, รถยนต์เชิงพาณิชย์ 7,131 คัน ลดลง 5% และรถยนต์เพื่อการใช้งานเป็นพิเศษอีก 654 คัน ลดลง 25% อย่างไรก็ดี โตโยต้า (Toyota) ครองแชมป์แบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด จำนวน 5,127 คัน รองลงมาเกีย (Kia) 3,290 คัน, มาสด้า (Mazda) 1,862 คัน, ฮอนด้า (Honda) 1,550 คัน และฟอร์ด (Ford) 1,284 คัน เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vama-members-see-fall-in-car-sales-in-june-873427.vov

กัมพูชารายงานถึงการจดทะเบียนโครงการการลงทุนใหม่ 79 โครงการ

กระทรวงอุตสาหกรรมและนวัตกรรมกัมพูชา กล่าวถึงการจดทะเบียนโครงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมรวม 79 โครงการ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันมีโรงงานกว่า 100 แห่งต้องปิดตัวลง ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศและโฆษกรัฐบาล กล่าวว่าโครงการการลงทุนใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงหน้ากาก เจลป้องกันแบคทีเรีย และ ชุด PPE โดยความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนก่อนหน้าไปแล้ว 87 โครงการ ด้วยเงินลงทุนรวม 3 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50892663/79-industrial-investment-projects-registered/

ทางการกัมพูชากำหนดนโยบายช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชา นำโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ได้กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างทันท่วงทีและตรงเป้าหมาย ท่ามกลางวิกฤตการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศกัมพูชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่าตัวแทนภาคเอกชนในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำนวน 6 ราย ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะ สำหรับความพยายามของภาครัฐ ในการป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 และจัดการผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจหลัก รวมไปถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลกัมพูชากำหนดมาตรการช่วยเหลือถึง 9 รอบ เพื่อบรรเทาภาระและความยากลำบากของธุรกิจภาคการท่องเที่ยว รวมถึงพนักงานในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 โดย ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 พนักงานในภาคการท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญประมาณร้อยละ 99.64 ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามแผนการกระจายวัคซีนต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50892721/major-tourism-associations-thank-pm-for-policies-that-help-cambodian-tourism-during-covid-19-crisis/

แก้วมังกรราคาดี สร้างรายได้งาม ให้เกษตรกร ตำบลงาเพ

ผลแก้วมังกรที่ปลูกในหมู่บ้านปิ่นอู ตำบลงะแพ อำเภอมี่นบู้ เขตมะกเว ด้วยระบบน้ำชลประทานให้ผลผลิตสูงเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทำรายได้ให้กับครัวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เกษตรกรเริ่มปลูกแก้วมังกรในเดือนม.ค.2560 แก้วมังกรมีอายุมากกว่าห้าปี ออกผลภายหลังการปลูก 6 เดือน ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะปลูก สามารถเก็บเกี่ยวถึงเจ็ดครั้งต่อปี เมื่อปีที่ผ่านมามีผลผลิตแก้วมังกรประมาณ 10,000 ลูกส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังเขตมะกเว และย่างกุ้ง ราคาจะอยู่ในช่วง 400 – 750 จัต สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเกตรกร

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/dragon-fruit-selling-well-in-ngaphe-township/

สปป.ลาวกำลังพึ่งพาจีนมากขึ้นสำหรับโครงการขนส่งที่สำคัญ

โครงการทางหลวงจำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนกำลังดำเนินการอยู่ในประเทศลาวเชื่อกันว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ของจีน ซึ่งเป็นโครงการเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงยุโรปทั้งทางบกและทางทะเล แต่ความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นเงินทุนในโครงการอาจทำให้ลาวกลายเป็น “กับดักหนี้” หากไม่สามารถชำระคืนเจ้าหนี้ชาวจีนได้ ถึงแม้สปป.ลาวซุ่มเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ปัจจุบันสปป.ลาวกำลังมีโครงการทางด่วน 578 กม. มูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับการเสนอโดยสถาบัน Henan Provincial Communications Planning and Design Institute ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาของจีนที่รู้จักกันในชื่อ HNRBI ทางด่วนใหม่จะลดเวลาการเดินทางจากเวียงจันทน์ไปยังปากเซลงเสริมความแข็งแกร่งในการเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ในต่างประเทศ 2 เมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปทางใต้ ได้แก่ กรุงเทพฯ และศูนย์กลางการค้าของหากโครงการเดินหน้าและแล้วเสร็จจะช่วยให้จีนเข้าถึงคาบสมุทรอินโดจีนได้ง่ายขึ้นรวมถึงสปป.ลาวจะไดเป็นประเทศที่เชื่อมโยงการขนส่งที่สำคัญระดับภูมิภาคยกระดับเศรษฐกิจในอนาคต

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Spotlight/Belt-and-Road/Laos-deepens-reliance-on-China-for-key-transport-projects

โครงการก่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวจังหวัดกำปอตของกัมพูชาล่าช้ากว่ากำหนด

รายงานของกระทรวงโยธาธิการและคมนาคมกัมพูชาระบุว่า โครงการก่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวของจังหวัดกำปอตล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วร้อยละ 74 จากเดิมที่มีกำหนดแล้วเสร็จและดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2020 โดยรัฐบาลกัมพูชาได้ทำการกำหนดวันเสร็จสิ้นใหม่หลังจากทำการประเมินตามสถานการณ์เป็นปี 2022 ซึ่งโครงการนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ 4 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ในเขต Toek Chhou ห่างจากเมืองกำปอตไปทางใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียจำนวนวงเงินกู้ 9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้น ท่าเรือจะทำหน้าที่เป็นประตูสำคัญสำหรับรับเรือสำราญที่เชื่อมต่อประเทศไทยและเวียดนามมายังกำปอต ตลอดจนเป็นตัวอย่างของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50891686/kampot-provinces-tourism-seaport-construction-falls-further-behind-schedule/

กัมพูชาและจีนกำหนดให้สัตยาบัน FTA เต็มรูปแบบในต้นปีหน้า

ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัมพูชาและจีนมีแนวโน้มที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า หลังจากได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของรัฐสภา โดยกระทรวงพาณิชย์จะส่งร่างกฎหมายให้รัฐสภาได้พิจารณาอนุมัติในลำดับถัดไป ซึ่ง รมว.พาณิชย์ ได้จัดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับประธานคณะกรรมการรัฐสภาชุดที่ 9 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้ทบทวนร่างกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ภายในต้นปี 2022 ซึ่งทั้งสองประเทศได้ลงนาม FTA ในเดือนตุลาคม 2020 หลังจากการเจรจาเกิดขึ้นหนึ่งปี โดยมีวัตถุประสงค์ที่เน้นการเข้าถึงตลาดสำหรับพืชผัก ผลไม้ และสินค้าเกษตรอื่นๆ ตลอดจนสินค้าเกี่ยวกับงานฝีมือ และสินค้าอื่นๆ ที่กัมพูชามีความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์และมาตรฐานด้านสุขอนามัยของจีน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทางกลับกันการนำเข้าจากจีนของกัมพูชาเพิ่มขึ้นเช่นกันร้อยละ 21 จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม วัตถุดิบ และวัสดุก่อสร้างของกัมพูชาที่กำลังขยายตัว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50891934/full-ratification-of-free-trade-deal-with-china-is-now-expected-early-next-year/

เชื่อนักลงทุนเข้าใจไทยล็อคดาวน์ดีกว่าปล่อยลากยาว

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน เผย มาตรการยกระดับควบคุมพื้นที่สูงสุด 10 จังหวัดที่เริ่มวันที่ 12 ก.ค. ของรัฐบาล เชื่อว่า จะกระทบระยะสั้นเท่านั้น และในสายตานักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงสถานการณ์เป็นอย่างดี ซึ่งหากไทยยังปล่อยให้มีการแพร่ระบาดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากกว่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการด้านวัคซีนทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการจัดหา แผนการกระจาย ให้ถึงมือประชาชนและครอบคลุมจำนวนประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคู่ไปด้วย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/47803/

VinFast ค่ายรถยนต์เวียดนาม ประกาศลุยเปิดสาขาในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป

‘VinFast’ ค่ายรถยนต์เวียดนาม เตรียมเปิดสาขาอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนีและเนเธอแลนด์ และก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลก โดยตามแผนของบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะสองรุ่น ได้แก่ VF e35 และ VF e36 ไปยังทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและโครงภายนอกที่น่าดึงดูดและอำนวยความสะดวกในระดับสูง พร้อมกับมีมาตรฐานความปลอดภัยของ NHTSA และ EURO NCAP ทั้งนี้ สหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นตลาดสำคัญที่จะขยายธุรกิจของบริษัทและวางรากฐานการดำเนินธุรกิจในประเทศเหล่านี้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/991133/vinfast-officially-begins-operations-in-north-america-and-europe.html

เวียดนามเผยผลสำรวจชี้ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ 78% มองว่ามั่งคงและดีขึ้นในไตรมาสที่ 3

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปส่วนใหญ่ 39.2% มองว่าทิศทางของการทำธุรกิจและการผลิตจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รองลงมา 38.6% อยู่ในระดับไม่เปลี่ยนแปลง และ 22.2% อาจประสบปัญหามากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติ ชี้ว่าการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 2 อยู่ในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากกิจกรรมการผลิตและการทำธุรกิจค่อยๆกลับมาฟื้นตัว ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 11.45% เมื่อเทียบเป็นรายปี และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ภาคอุคสาหกรรมเติบโตประมาณ 8.91% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ดี ตามข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย. จำนวนแรงงานที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรม ลดลง 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-78-pct-of-manufacturing-processing-firms-expect-stable-better-performance-in-q3/204495.vnp