โรงงานแปรรูปเหล็กแห่งใหม่เริ่มดำเนินในจังหวัดกำปงสปือของกัมพูชา

โรงงานแปรรูปเหล็กมูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรีไซเคิลเศษโลหะเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปจะเริ่มดำเนินการเร็วๆนี้เพื่อตอบสนองตลาดในประเทศและเพื่อลดการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ โดยโรงงานแห่งนี้เป็นของ Hong De Sheng (Cambodia) Steel Co., Ltd. ของจีน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกำปงสปือทำการรวบรวม รับซื้อเศษเหล็กภายในท้องถิ่นและนำเข้าเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป โดยอธิบดีการเหมืองแร่ของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน กล่าวให้การต้อนรับสำหรับการจัดตั้งโรงงานและกล่าวว่าปัจจุบันมีโรงงานแปรรูปเหล็กที่ใช้เศษโลหะในการผลิตเหล็ก แต่ไม่มีโรงงานใดที่ใช้เหล็กสกัดในประเทศเพื่อผลิตเหล็กถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม รวมถึงการสร้างการจ้างงานภายในท้องถิ่นอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50765262/steel-processing-plant-in-kampong-speu-province-set-to-commence-operations/

กัมพูชาวางแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

กัมพูชาส่งออกผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษสวายเรียง (SEZs) เพียงแห่งเดียวสูงถึง 124.87 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนสิงหาคม โดยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นกว่า 57 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ทำการส่งออก ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า จักรยานและชิ้นส่วนอะไหล่ โดยส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังตลาดสหรัฐฯและสหภาพยุโรป รวมถึงมูลค่าการส่งออกรวมกันในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 แห่งอยู่ที่ 680 ล้านดอลลาร์ในช่วง 8 เดือนแรกของปี ซึ่งกัมพูชาวางแผนในการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคการค้าและการท่องเที่ยว ในขณะที่การศึกษาโครงการทางด่วนพนมเปญสู่บาเว็ตอยู่ระหว่างติดตามหลังจาก China Railway International Group Co., Ltd. ได้ส่งผลการศึกษาทางเทคนิคไปยังรัฐบาลเพื่อทำการพิจารณาอนุมัติโครงการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50765345/boost-for-special-economic-zones/

สปป.ลาวยืนยันความมุ่งมั่นเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศจะยังอยู่ในสถานะ Least Developed Country

สปป.ลาวกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อดำเนินโครงการ Istanbul Program of Action (IPOA)  นายทองพันธ์ สะหวันเพ็ชรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระดับสูงประจำปี 2563 โดยมีคณะผู้แทนจาก 47 ประเทศ ประเทศหุ้นส่วนการพัฒนาเครือข่ายสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม   ในการประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินโครงการต่ายๆ รวมถึงความท้าทายใหม่จากผลกระทบของ COVID -19 ต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนซึ่งส่งผลให้สูญเสียรายได้จำนวนมากและส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คน สปป.ลาวเรียกร้องให้ประเทศหุ้นส่วนและสถาบันการเงินระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดต่อไป โดยเฉพาะในรูปแบบของ Official Development Assistance (ODA) ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อนโยบายระยะสั้นระยะกลางและระยะยาวซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนและธุรกิจจะได้รับการสนับสนุน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_reaffirms_184.php

กฎหมายมาตรา 132 ฉบับแก้ไขล่าสุดอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมได้

ชาวต่างชาติจะสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมในสปป.ลาวได้ หลังจากเว็บไซต์ทางการของสปป.ลาวซึ่งเป็นเว็บไซต์ของรัฐบาลที่เผยแพร่กฎหมายว่าด้วยที่ดินฉบับล่าสุด (มาตรา 132) ซึ่งอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมได้ การตัดสินใจของรัฐบาลในการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมจะเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในสปป.ลาว หลังจากก่อนหน้านี้ประสบปัญหาในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคาดการณ์กันว่าการปรับปรุงกฎหมายใหม่นี้จะทำให้สปป.ลาวเป็นประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีนจะมีมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าควบคู่ไปกับการก่อสร้างและการดำเนินการของโครงการรถไฟสปป.ลาว – ​​จีน สปป.ลาวเป็นประเทศที่สงบสุขและตั้งอยู่ศูนย์กลางในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงการตัดสินใจของรัฐบาลในการแก้กฎหมายดังกล่าว จะทำให้สปป.ลาวเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนใหม่ที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศนี้มีพรมแดนติดกับจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Revised_184.php

การขอสินเชื่อของผู้บริโภคภายในประเทศกัมพูชาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

การขอสินเชื่อผู้บริโภคภายในประเทศลดลงกว่าร้อยละ 50 ในไตรมาสที่สองของปีเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในไตรมาสแรกตามข้อมูลล่าสุดของ Credit Bureau of Cambodia (CBC) โดย CBC เป็นผู้ให้บริการข้อมูลเครดิตโซลูชัน การวิเคราะห์และบริการรายงานเครดิตชั้นนำให้กับธนาคาร สถาบันการเงินรายย่อย บริษัทให้กู้ยืม ผู้ให้บริการสินเชื่อ และผู้บริโภคในกัมพูชา ซึ่งกล่าวว่าในไตรมาสที่สองของปีนี้ทั่วประเทศมีสัดส่วนการยื่นขอกู้สำหรับหนี้สินส่วนบุคคลลดลงถึงร้อยละ 50 บัตรเครดิตลดลงถึงร้อยละ 43 และการขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยลดลงกว่าร้อยละ 51 โดยหนี้สินส่วนบุคคลภายในประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 8.73 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีอัตราส่วนของการชำระคืนล่าช้า 30 วันหลังจากวันครบกำหนด ณ เดือนมิถุนายน 2020 อยู่ที่ร้อยละ 2.64 เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 โดย ณ วันที่ 30 ส.ค. ลูกค้า MFI ในกัมพูชามากกว่า 270,000 ราย ได้ยื่นขอปรับโครงสร้างสินเชื่อ ซึ่งเกือบ 260,000 ราย คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 94 ได้รับอนุญาตให้ปรับโครงสร้างสินเชื่อด้วยจำนวนเงินกู้รวมมากกว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764871/consumer-credit-applications-fall-by-a-significant-margin/

บริษัทต่างชาติตั้งสายการผลิตใหม่ในกัมพูชา ส่งผลต่อการจ้างงานในประเทศ

การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามายังกัมพูชามากขึ้นหลังจากบริษัทผู้ผลิตแห่งหนึ่งประกาศตั้งสายการผลิตใหม่ รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่มากกว่า 1,000 ตำแหน่งในจังหวัดกัมปงสปือ โดย GCH International Trade Co Ltd กล่าวว่าจะทำการลงทุนประมาณ 3.2 ล้านดอลลาร์ ในสายการผลิตกระเป๋าใหม่เพื่อผลิตสิ่งของประเภทต่างๆ รวมถึง Jin Xinsheng (Cambodia) Co Ltd ได้ประกาศว่ากำลังจะลงทุนอีกประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ ในโครงการใหม่ซึ่งจะผลิตกระดาษ แผ่นรองหมอนอิง และคาร์ดิแกน ตั้งอยู่ที่ National Road 4 ในพนมเปญ และคาดว่าจะสร้างงานประมาณ 198 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงหลั่งไหลเข้าสู่การตั้งสายการผลิตใหม่ในกัมพูชา แต่จำนวนงานที่สร้างขึ้นนั้นยังไม่สอดคล้องกับอัตราการจ้างงานที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ โดยการเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้โรงงานมากกว่า 400 แห่ง ต้องระงับการผลิตซึ่งส่งผลให้จำเป็นต้องปลดคนงานออกบางส่วน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50764902/new-manufacturing-firms-provide-much-needed-jobs/

นิงห์บิงห์เล็งก่อสร้างโรงงานยานยนต์ 137 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การก่อสร้างโรงงานประกอบยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิต คาดว่าจะใช้เงินทุนราว 137.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในจังหวัดนิงห์บิงห์ (Ninh Bình) ซึ่งได้รับเงินทุนจากบริษัท Thanh Cong Group รวมถึงโรงงานผลิตของ Hyundai Thanh Cong แห่งที่ 2 มีกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี ขนาดพื้นที่ครอบคลุม 50 เฮกตาร์อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม Gian Khau ทั้งนี้ นาย Dinh Van Dien ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดนิงห์บิงห์ กล่าวว่าการขยายธุรกิจของบริษัทดังกล่าว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจัวหวัดในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/772558/ninh-binh-eyes-137m-automobile-factory.html

สนง.สถิติแห่งชาติ คาด GDP เวียดนาม ปี 63 โต 2-3%

นาย Nguyen Bich Lam ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) กล่าวว่าในปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามเติบโตร้อยละ 2-3 ซึ่งตรงกับที่กระทรวงวางแผนและการลงทุนคาดการณ์ไว้และใกล้เคียงกับทางธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.8 เมื่อต้นเดือนนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะกลับมาฟื้นตัวที่ร้อยละ 6.3 ในปีหน้า ชณะที่ การคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ยึดจากผลการดำเนินงานธุรกิจและการผลิตในเดือนสิ.ค.และในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รวมถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการรับมือโควิด-19 และการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐและสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ เวียดนามคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ที่จะช่วยให้ภาคเกษตร ประมงและอุตสาหกรรมเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-to-grow-23-percent-this-year-former-gso-director/186314.vnp

มูลค่าการค้าเมียนมาสูงขึ้นแม้ COVID-19 ระบาด

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผย ณ เดือนสิงหาคม 63 หนึ่งเดือนก่อนปิดปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศสูงถึง 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 การส่งออกแตะที่ 16.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้า 17.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขาดดุลการค้าประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกส่วนใหญ่ประกอบด้วยสินค้าสำเร็จรูปและสินค้าสำหรับการ ผลิต ตามด้วยผลิตผลทางการเกษตรทรัพยากรและแร่ธาตุที่ขุดได้ การนำเข้าประกอบด้วยสินค้าทุน เช่น อุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักร ตลอดจนวัตถุดิบและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ประเทศคู่ค้าอันดับต้น ๆ ได้แก่ จีน ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย เกาหลี และเวียดนาม เมื่อเร็วๆ นี้ การค้าชายแดนได้รับผลกระทบ เช่น การค้าที่ท่าขี้เหล็กของรัฐฉานชายแดนระหว่างเมียนมาและไทยเพิ่งปิดไปส่วนไทยอนุญาตให้รถจากเมียนมาเพียง 6 คันเข้าอำเภอแม่สายของไทยได้ การค้าระหว่างเมียนมาและจีนยังต้องหยุดชะงักหลังจากชายแดนหลุ่ยลี่ (Ruili) ถูกปิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 63 หลังตรวจพบ COVID-19 หลุ่ยลี่เป็นจุดผ่านแดนสำคัญระหว่างจีนและเมียนมาใกล้กับมูเซของรัฐฉาน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-trade-volumes-rise-despite-covid-19.html

เล็งขยายลดภาษีน้ำมันเครื่องบินอีก6เดือน

สรรพสามิตเปิดทางลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเหลือ 20 สตางค์ต่อลิตร อีก 6 เดือน กรณีการพิจารณาขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสายการบินโลวคอสต์ว่า ล่าสุดผู้บริหารสายการบินโลวคอสต์ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการในการขยายเวลาการยกเว้นภาษีดังกล่าวออกไป จากที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนก.ย.2563 อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตเห็นว่าหากการปรับลดภาษีจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และมีส่วนช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2563 ภาษีน้ำมันอยู่ที่ 20 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมลิตรละ 4.762 บาท

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/633556