ความต้องการทองคำของเมียนมาลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

ราคาทองคำในประเทศทรงตัวที่ระดับ 1.22 ล้านต่อทองคำ 1 บาทเนื่องจากความต้องการที่ลดลงแม้ว่าทั่วโลกราคาทองคำจะเข้าใกล้ระดับ 1,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบทศวรรษ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ผู้ค้าทองคำและนักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดมากกว่าทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์ร่วงลงมาที่อยู่ที่ 1365จัต/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 1400 จัต/ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคมและมีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อในตลาด นักลงทุนทองคำจำนวนมากยังเลิกลงทุนในทองคำเนื่องจาก COVID-19 ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียงานและการตกต่ำของเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดทองคำของเมียนมาลดลงประมาณ 50% หลังจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-gold-demand-falls-back-lower-dollar-exchange-rate.html

สปป.ลาวกำหนดให้ผู้ที่เดินทางออกจาก สปป.ลาว จำเป็นต้องมีใบนับรองแพทย์

ผู้เดินทางออกจากสปป.ลาวทุกคนจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์สำหรับประเทศจุดหมายปลายทางเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19  คณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 แห่ง สปป.ลาว ได้กล่าวว่าผู้ที่เดินทางทุกคนจะต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อนเดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งผู้ที่ไม่มีใบรับรองแพทย์ที่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง อีกทั้งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมิดตะพาบกล่าวย้ำความสำคัญของใบรับรองแพทย์สำหรับนักเดินทาง จะมีจุดตรวจสุขภาพหลายแห่งและนักท่องเที่ยวจะต้องจัดทำเอกสารทางการแพทย์จากประเทศต้นทางของตน คนในสปป.ลาวสามารถขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉพาะแห่งในประเทศ อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไอ เจ็บคอหรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจหรือมีประวัติติดต่อกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะไม่ได้รับใบรับรองแพทย์ โรงพยาบาลมิดตะพาบ, โรงพยาบาลมโหสถ และสถาบันปาสเตอร์ ในเวียงจันทน์จะอำนวยความสะดวกทำการตรวจสุขภาพสำหรับ COVID-19 ทั้งนี้ใบรับรองแพทย์จะรับรองว่าผู้เดินทางไม่แสดงอาการคล้าย COVID และการตรวจเชื้อ COVID ผลเป็นลบ ซึ่งมาตรการป้องกันนี้จะใช้เวลานานในการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/internationalnews/18742-2020-07-08-03-07-20.html

การเพิ่มขึ้นของรายได้บริษัทประกันฯในกัมพูชา

รายงานของสมาคมประกันภัยกัมพูชา (IAC) รายงานว่าเบี้ยประกันขั้นต้นของในกัมพูชาเติบโตขึ้นร้อยละ 21.4 ในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายงานรายไตรมาสแสดงให้เห็นว่าเบี้ยประกันขั้นต้นสำหรับการประกันทั่วไปมีมูลค่าสูงถึง 32.76 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 26.98 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 ซึ่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์เตประกันภัย จำกัด กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นเพราะธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงก่อนที่จะมีการระบาดของ COVID-19 คิดเป็นรายได้จากการประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4 หรือ 7.14 ล้านดอลลาร์ จาก 5.25 ล้านดอลลาร์ ด้านรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 สู่ 5.9 ล้านดอลลาร์ ด้านอุบัติเหตุส่วนบุคคลและเบ็ดเตล็ดเพิ่มขึ้นร้อยละ 38

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742571/insurers-income-rising-for-now/

ADB อนุมัติเงินกู้ยืม 250 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชาเพื่อต่อสู้กับ COVID-19

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้ยืมจำนวน 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยการเสริมสร้างระบบการดูแลสุขภาพของประเทศเพิ่มความช่วยเหลือทางสังคมแก่คนยากจนและผู้อ่อนแอ รวมถึงองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งธนาคารได้มอบเงินช่วยเหลือภายใต้โครงการสนับสนุนการตอบสนองและการใช้จ่าย (CARES) ต่อ COVID-19 ของ ADB โดยโปรแกรมดังกล่าวรวมถึงกรอบการมีส่วนร่วมของประเทศ จะทำให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลและ ADB จะดำเนินการเจรจานโยบายต่อไปเกี่ยวกับการดำเนินการและติดตามการตอบสนองต่อ COVID-19 ในกัมพูชา รวมถึงการปรึกษาหารือกับภาคเอกชนและองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งโปรแกรมนี้ยังเชื่อมโยงกับการสนับสนุนของ ADB ในการปฏิรูปการบริหารการคลังสาธารณะเพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแลและความโปร่งใส ไปจนถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการพัฒนางบประมาณและนโยบายการติดตามค่าใช้จ่ายและการตรวจสอบ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742799/adb-approves-250-million-loan-to-cambodia-to-combat-covid-19/

“ยูโอบี” เปิดผลสำรวจ “SMEs ในอาเซียน” ร้อยละ 88 รับรายได้หด 50%

ธนาคารยูโอบี เผยผลสำรวจ “ASEAN SME Transformation Study 2020” ชี้ธุรกิจเอสเอ็มอีในภูมิภาคอาเซียนต่างหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจช่วงสถานการณ์โควิด-19 กว่า 2 ใน 3 ของเอสเอ็มอี หรือประมาณร้อยละ 64 ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับแรก ประมาณร้อยละ 71 ขณะที่เอสเอ็มอีร้อยละ 88 รับรายได้ปี 63 หายกว่า 50% ธนาคารยูโอบี (UOB) ร่วมกับแอคเซนเจอร์ (Accenture) และดันแอนด์แบรดสตรีท (Dun & Bradstreet) ทำการสำรวจความคิดเห็นของธุรกิจเอสเอ็มอีในอาเซียนกว่า 1,000 ราย เพื่อทำความเข้าใจว่าธุรกิจเอสเอ็มอีปรับตัวอย่างไรต่อสภาพการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยการสำรวจยังพบว่าธุรกิจเอสเอ็มอียังพยายามที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยี แม้ว่ารายได้จากธุรกิจจะลดลงก็ตาม ซึ่ง 9 ใน 10 หรือร้อยละ 88 คาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2563 จะลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังวางแผนเพิ่มงบประมาณด้านเทคโนโลยี ซึ่งนั่นหมายความว่าเอสเอ็มอีกำลังมองข้ามความท้าทายในปัจจุบัน และพร้อมจะปรับใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-488140

INFOGRAPHIC : เวียดนามส่งออกผักผลไม้กลับมาขยายตัว

จากรายงานทางสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักงานศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการส่งออกผักและผลไม้ไปยังต่างประเทศกลับมาขยายตัวในเดือนมิถุนายน หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตที่หดตัวลง

ประเด็นสำคัญ

  • เดือนมกราคม 2563 (335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, -3.9%YoY)
  • เดือนกุมภาพันธ์ 2563 (200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, -12.6%YoY)
  • เดือนมีนาคม 2563 (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, -15.8%YoY)
  • เดือนเมษายน 2563 (390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, -15.6%YoY)
  • เดือนพฤษภาคม 2563 (350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, -1.4%YoY)
  • เดือนมิถุนายน 2563 (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, 8.4%YoY)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fruit-vegetable-exports-bounce-back/178193.vnp

ภาครัฐบาลและภาคเอกชนกัมพูชาเร่งปรับปรุงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ชายแดนระหว่างประเทศต้องปิดตัวลง การท่องเที่ยวภายในประเทศจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติในกัมพูชา โดยในการตอบสนองหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนได้รับการผลักดันเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการด้านการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการปฏิบัติด้านสุขอนามัยเพื่อสนับสนุนการเดินทางมายังกัมพูชาของนักท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงภาครัฐฯและภาคเอกชนมองว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั่วประเทศกำลังจะกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นหลายแห่ง โดยกำลังขอให้รัฐบาลเพิ่มโอกาสด้วยการสร้างแพ็คเกจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้น ผ่านการลงทุนโดยภาคเอกชนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742181/public-and-private-sector-needed-to-improve-eco-tourism-development/

กัมพูชาอนุมัติเงินลงทุน 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก

ตามรายงานของกระทรวงการจัดการที่ดินการวางผังเมืองและการก่อสร้าง ระบุว่ามีโครงการก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติราว 2,522 โครงการ กำลังดำเนินการอยู่ทั่วประเทศรวมเป็นเงินลงทุน 3.842 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงหกเดือนแรกของปี โดยมูลค่าของโครงการก่อสร้างที่ได้รับอนุมัติเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.26 เมื่อเถียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลที่เผยแพร่จากกระทรวงการจัดการที่ดินกล่าวว่าประมาณ 2,097 โครงการ เป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในขณะที่มีโครงการก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้า 45 โครงการ โดยภาคการก่อสร้างสร้างงานได้ 170,059 ตำแหน่งทั่วประเทศ ซึ่งประธานสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินและตัวแทนภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชา (CVEA) กล่าวว่าสถานการณ์และกิจกรรมของภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภาคการก่อสร้างคาดหวังว่าจะยังคงเติบโตเหมือนปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50742206/3-8-bln-in-capital-investment-approved-during-the-first-six-months-of-the-year/

ผู้นำสปป.ลาวและเวียดนามหารือถึงความร่วมมือหลังเกิดโรคระบาด Covid-19

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเดินทางไปยังดานัง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 5-6 ก.ค โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองกล่าวชื่นชมมิตรภาพพิเศษที่ยาวนานความเป็นปึกแผ่นและความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสปป.ลาวกล่าวความยินดีที่ได้เดินทางไปเยือนเวียดนามอีกครั้งหลังจากที่ประเทศประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของ Covid-19 และแสดงความยินดีกับเวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 36 และสนับสนุนบทบาทของตนในฐานะประธานอาเซียน อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวแสดงความยินดีกับสปป.ลาวในความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของ Covid-19 และแสดงความมั่นใจว่าอีกไม่นานสปป.ลาวจะฟื้นตัวจากผลของการระบาดใหญ่ และทั้งสองกล่าวถึงความร่วมมือในอนาคตอันใกล้ในด้านการค้า การบริการและการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ร่วมถึงการวางแผนที่จะเปิดเส้นทางการบินใหม่โดยเร็วที่สุด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งดำเนินการตามข้อตกลงที่มีการลงนามและเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในด้านการป้องกันความมั่นคง สิ่งแวดล้อม การค้าการลงทุนและการเงิน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่มีความสำคัญร่วมกันและตกลงที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดต่อไปภายใต้กรอบของเวทีต่าง ๆ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/07/07/lao-and-vietnamese-leaders-discuss-post-pandemic-cooperation/

UNFPA ให้การสนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงในสปป.ลาว

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) มอบเงินช่วยเหลือซึ่งประกอบด้วยรายการด้านสุขอนามัยและสิทธิต่างๆสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในช่วงการระบาดของ Covid-19 รวมทั้งเสบียงอาหารที่จำเป็นอีกด้วย UNFPA ทำงานอย่างแข็งขันในการสนับสนุนพันธมิตรของรัฐบาลรวมถึงการขยายพันธมิตรและความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อร่วมมือในการปรับปรุงสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง สปป.ลาวได้ร่วมมือกับ UNFPA โดยการเป็นหุ้นส่วนมุ่งเน้นไปที่ค่านิยมการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันและการสนับสนุนในการปกป้องผู้หญิงและเด็กหญิงจากความรุนแรงรวมถึงสนับสนุนสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นโภชนาการที่เพียงพอและการศึกษาที่เหมาะสมแก่ผู้หญิงและเด็กภายใต้กรอบสัญญาดังกล่าวนอกจากจะเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคมแล้วในอีกแง่การร่วมมือดังกล่าวจะนำซึ่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2020/06/07/unfpa-lends-support-to-women-and-girls-in-laos