ไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชาอนุมัติสินเชื่อ 817 ล้านดอลลาร์ เพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

สมาคมไมโครไฟแนนซ์ของกัมพูชา (MFIs) อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ 817 ล้านดอลลาร์สำหรับลูกค้ามากกว่า 180,000 ราย จากจำนวนลูกค้าเกือบ 200,000 ราย ที่ร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมตามรายงานของไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา (CMA) โดยโฆษกของ CMA กล่าวว่าในปัจจุบันมีเพียง 4 ภาคธุรกิจที่ได้รับอนุมัติให้ปรับโครงสร้างสินเชื่อ รวมถึงการท่องเที่ยว, การก่อสร้าง, การขนส่งและอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งสมาคมกำลังพิจารณาเพิ่มการเกษตรเป็นภาคที่ห้าในการปล่อยสินเชื่อ โดยธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) ออกคำสั่งในเดือนมีนาคมให้กับทุกธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างการชำระคืนเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดภาระของลูกหนี้ที่ต้องเผชิญกับรายได้ลดลงอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งขอให้สถาบันการเงินลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับเครดิตและยกเลิกค่าปรับจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50731293/microfinance-817-million-of-loans-approved-for-restructure/

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน คืบหน้าไปกว่า 90 %

นายบุญทองพิชิตผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองและหัวหน้าหน่วยต่อต้านการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลได้นำคณะผู้แทนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงโยธาธิการ เข้าตรวจความคีบหน้าในโครงการรถไฟลาว – ​​จีน Xiaa Qianwen CEO บริษัท รถไฟลาว – ​​จีนรายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง รถไฟลาว – ​​จีน ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ของงานโดยรวม ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่แล้วเสร็จจะประกอบด้วยอุโมงค์ 75 สะพาน 164 แห่ง โดยเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่เริ่มต้นจากห้วยน้ำเย็นอำเภอนาดีทอนนครหลวงเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ความยาวรวม 409 ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวยังมีโครงการอื่นๆที่จะช่วยส่งเสริมด้านคมนาคมของสปป.ลาว โดยโครงการต่างๆ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2564

ที่มา : http://www.pasaxon.org.la/pasaxon-detail.php?p_id=1537&act=politic1-detail

ข้อพิพาทระหว่างแรงงาน-ภาคธุรกิจ

คุณพงษ์ชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแรงงานและสวัสดิแถลงการณ์การถึงข้อพิพาทระหว่างแรงงานและภาคธุรกิจต่างๆในปัจจับนซึ่งมีหลายองค์กรที่ขัดคำสั่งประกาศภาครัฐเรื่องการยังคงต้องจ่ายค่าจ้างแก่แรงงานและหากธุรกิจไหนมีปัยหาด้านการเงินให้ติดธนาคารกลางเพื่อเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือทั้ง 2 ฝ่าย สภาอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของการประเมินว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะสูญเสียรายได้กว่า 350 ล้าน $ จากแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอดจนการปิดพรมแดนทั่วประเทศไม่ได้มีการเดินทางต่างประเทศเข้ามาในสปป.ลาว ผลที่ตามมาคือการตกงานของแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวนอกจากนี้ธุรกิจอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันโดยกว่าร้อยละ 97 เป็น SMEs คิดเป็น 16% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหากภาคธุรกิจต้องปิดตัวไปรวมถึงการตกงานของแรงงานในภาคธุรกิจต่างๆ

ที่มา : https://lao.voanews.com/a/outbreak-of-covid-19-caused-more-dispute-of-workers-layoff-in-laos/5452839.html

เวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัย 30 ล้านชิ้นไปยังอเมริกาเหนือ

เวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตในเวียดนาม 30 ล้านชิ้นไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านการบริการขนส่งเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแก่ประชาชนท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพที่ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเที่ยวบินแรกออกจากกรุงฮานอยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. และเปลี่ยนสายการบินที่ฮ่องกง ก่อนจะถึงอเมริกาเหนือ ต่อมาเที่ยวบินสองเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ทั้งนี้ ‘บริษัท ไอทีแอล โลจิสติกส์’ เป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ในเวียดนาม ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการหน้ากากที่ได้รับมาตรฐาน 3 พันล้านชิ้นและเวียดนามก็เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ ซึ่งในเดือนพ.ค. ทางบริษัทดังกล่าวได้จัดส่งอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) 1.5 ล้านชุดไปยังนิวยอร์ก,สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึง 16 เม.ย. เวียดนามส่งออกหน้ากาก 415.7 ล้านชิ้น ญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุด รองลงมาเกาหลีใต้ เยอรมัน สหรัฐฯและฮ่องกง ตามรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/30-million-made-in-vietnam-medical-masks-delivered-to-north-america-21162.html

จีนสั่งปูเพิ่มขึ้นจากเวียดนาม ในช่วง 4 เดือนแรกปี 2563

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม, สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) ระบุว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกปูของเวียดนามสูงถึง 44.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตลาดส่งออกรายใหญ่ของเวียดนาม ได้แก่ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและยุโรป ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีนที่มีการนำเข้าปูจากเวียดนาม ติดอันดับที่ 4 ของผู้นำเข้าทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว มูลค่าส่งออกปูของเวียดนามไปยังจีนอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 394 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ มองว่าหลังจากควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส ตั้งแต่เดือนมี.ค. ทำให้ความต้องการอาหารทะเลของจีนกลับมาฟื้นตัว สินค้าอาหารทะเลของเวียดนามส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นที่ต้องการรักษาเสถียรภาพจากการนำเข้าสินค้าเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงแรกของปีนี้ ซึ่งในเดือนพ.ค. เวียดนามส่งออกไปยังญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ตามมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ในเดือนเม.ย.

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/china-increases-crab-purchase-from-vietnam-in-first-four-months-2020-21170.html

RTAD พร้อมดำเนินการลงทะเบียนยานพาหนะ

สำนักงานฝ่ายบริหารการขนส่งทางถนน (RTAD) จะดำเนินการจดทะเบียนรถยนต์ต่อจากวันนี้สำหรับลูกค้าที่ทำการจองทางออนไลน์ที่สำนักงานเซาท์เดกอนก ลูกค้าสามารถนำรถยนต์มาตรวจสอที่บสำนักงาน ในช่วงฤดูฝนพื้นถนนรอบสำนักงานไม่สามารถใช้สัญจรได้ แต่ตอนนี้การบำรุงรักษาถนนเสร็จสมบูรณ์สำนักงานจะกลับมาใช้งานได้เป็นปกติ ค่าปรับที่เกินกำหนดจะผ่อนผันตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนถึง 31 กรกฎาคมสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนที่ถูกต้องตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563 ค่าปรับสำหรับการต่ออายุใบขับขี่จะลดลงขึ้นอยู่กับวันหมดอายุ ส่วนการสอบการขับขี่ใหม่นั้นยังคงถูกระงับไว้ก่อน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/rtad-resumes-vehicle-registrations.html

บิ๊กตู เข้มทุกกระทรวงใช้งบประมาณตรงตามเป้า

นายกฯ สั่งทุกหัวหน้าส่วนราชการบริหารงบช่วงที่เหลือ พร้อมสั่งสำนักงบประมาณ ทบทวนรายละเอียดคำขอปี 64 ต้องปรับงบหรือเติมงบอะไรมาเพิ่ม เพื่อประคองประเทศ โดยขอให้เร่งรัดขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการและการใช้จ่ายงบประมาณในช่วงไตรมาส ที่ 3 – 4 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดตามแผนปฏิบัติราชการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 63 โดยขอให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นหลักคิด ในการกำหนดแผนงานและโครงการ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและ เจ้าหน้าที่ เพื่อให้พร้อมต่อการทำงานที่ต้องอาศัยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/778732

ญี่ปุ่นให้เงินมากกว่า 123 พันล้านกีบสำหรับการตอบสนองต่อ Covid-19

รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนกว่า 123 พันล้านคิป (1.5 พันล้านเยน) สำหรับการซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อสนับสนุนในการรับมือกับการระบาดของโควิด -19 เงินทุน 1.5 พันล้านเยน (US $ 13.7 ล้าน) จะถูกนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับรัฐบาลสปป.ลาว การลงนามในครั้งนี้ญี่ปุ่นมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนสปป.ลาวในความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิด“ ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ซึ่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ให้ไว้ภายใต้โครงการนี้คาดว่าจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วสปป.ลาวโดยเฉพาะในชุมชนท้องถิ่นที่ระบบการดูแลสุขภาพยังไม่มีประสิทธิภาพ การแพร่กระจายทั่วโลกของ Covid-19 ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจและผู้คนของทุกประเทศรวมถึงสปป.ลาวและญี่ปุ่น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความพยายามร่วมกันเพื่อลดผลกระทบของโรคร้ายแรงนี้ทั้งในด้านเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_108.php

เวียดนามเผยส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 18.9% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

ปริมาณส่งออกข้าวของเวียดนามในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 2.9 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 ในเขิงปริมาณ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 ในเชิงมูลค่า จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MOIT) ระบุว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวในปีนี้ เวียดนามมีโอกาสสูงที่แซงไทย เนื่องจากเวียดนามมีความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคามากกว่าไทย ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวเวียดนามรายใหญ่ที่สุด จำนวน 902,100 ตัน และมูลค่า 401.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 และ 26.0 ตามลำดับ จากข้อมูลข้างต้นนั้น เป็นผลมาจากเวียดนามกลับมาส่งออกข้าวอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นมา ราคาธัญพืชเวียดนามปรับตัวสูงขึ้นระดับสูงสุด แตะเฉลี่ยอยู่ที่ 527 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงราคาข้าวในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 485 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://vnexplorer.net/vietnams-rice-export-revenue-increased-18-9-in-the-first-five-months-a202047999.html

‘เวียดนาม’ติดท็อป 15 ประเทศเกษตรกรรมชั้นนำโลก

เวียดนามตั้งเป้ายกระดับภาคเกษตรกรรมให้เป็น 1 ใน 15 ประเทศที่มีการพัฒนาด้านการเกษตรระดับโลก ภายในปี 2573 ด้วยการเป็นผู้นำด้านการแปรรูปอาหาร 10 อันดับแรกกของทั่วโลก ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวถูกดำเนินงานภายใต้คำสั่งรัฐบาลเวียดนามที่ No25/CT-TTg โดยมีการกำหนดภารกิจและแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ป่าไม้ ประมง รวมถึงเครื่องจักรกลทางการเกษตรในสัปดาห์นี้ ในขณะเดียวกัน คำสั่งรัฐบาลยังตั้งเป้าให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์การเกษตรชั้นนำของโลกและการแปรรูปเชิงลึก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เหวียนซวนฟุก ขอความร่วมมือสำนักงานรัฐมนตรี คณะกรรมการประชาชนในท้องถิ่นให้ดำเนินงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อมุ่งเน้นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปและเครื่องจักรกลเกษตร นอกจากนี้ ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนท (MARD) เร่งพิจารณาในการปรับปรุงแผนฉบับก่อนเกี่ยวกับเครื่องจักรกลเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อบูรณาการเข้ากับแผนพัฒนาระดับชาติ จังหวัดและท้องถิ่น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-agriculture-to-be-worlds-top-15-most-developed/174497.vnp