สปป.ลาว-ไทย ร่วมหารือเกี่ยวกับการก่อสร้าง ‘สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง’

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และไทย ได้ทำการเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานสำหรับใช้เป็นทางรถไฟข้ามแม่น้ำโขง ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว กับจังหวัดหนองคาย ประเทศไทย ซึ่งขยายเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนจากหนองคายไปยังสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเข้าถึงประเทศจีนได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ จากการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะส่งเสริมให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาวิธีการส่งเสริมปริมาณการค้า
ทวิภาคี โดยการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มีอยู่และทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น และมุ่งเป้าไปที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสปป.ลาว กับประเทศไทย โดยใช้เส้นทางรถไฟเป็นระบบขนส่งหลัก

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/4129819645d347a6a2b36f7d10d100ed/c.html

‘การเติบโตทางเศรษฐกิจ สปป.ลาว’ ช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมาเติบโตได้ 4.03%

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เผยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ปี 2564 ถึงกลางปี 2566 ขยายตัวได้ 4.03% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2566 จากที่คาดการณ์ไว้ 4.5% ปรับลดเหลือขยายตัว 4.2% เนื่องจากผลกระทบของค่าเงินกีบที่อ่อนค่ารุนแรงและปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ต่อหัวของประชากร สปป.ลาว ปีนี้มีแนวโน้มปรับลดลงมาอยู่ที่ 1,712 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สปป.ลาว มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 2,880 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ได้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ รัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยได้สั่งให้ธนาคารกลางใช้กลไกทั้งหมดในลักษณะบูรณาการเพื่อรักษาปริมาณเงิน M2 ในวงกว้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นการใช้สกุลเงินต่างประเทศกับการนำเข้าที่มีลำดับความสำคัญ ยกเลิกร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วไป ให้แลกเปลี่ยนได้เฉพาะกับธนาคารพาณิชย์

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/5e4ef2c249474f61b71121209ad22634/c.html#:~:text=VIENTIANE%2C%20Nov.%201%20(Xinhua,Lao%20Prime%20Minister%20Sonexay%20Siphandone.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากรแห่งสหภาพเมียนมา ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากร U Myint Kyaing ให้การต้อนรับสมาชิกสภาแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน และนาย Wang Xiaohong รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และคณะฯ ที่กรุงเนปิดอว์ วานนี้ โดย ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมืองเพื่อความมั่นคงและสันติภาพในพื้นที่ชายแดน ทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างสะดวกสบาย โดยจัดตั้งด่านชายแดนระหว่างจีน-เมียนมามากขึ้น รวมทั้งขยายความร่วมมือในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมือง จัดการประชุมระดับอธิบดีเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายเรื่องการสนับสนุนของจีนเพื่อตอบสนองความต้องการทางเทคโนโลยี และการสำรวจสำมะโนประชากรและครัวเรือนของเมียนมา และระบบ e-ID ที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศของ เมียนมา จีน ไทย และลาว เพื่อป้องกันการอพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการพนันออนไลน์ การฟื้นฟูเสถียรภาพอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมารซึ่งมีการสู้รบปะทุขึ้น และความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีฉันมิตรที่ยั่งยืนระหว่างเมียนมาและจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moip-union-minister-receives-chinese-delegation/

ราคายางพาราปรับตัวลดลงปลายตุลาคม

ราคายางพาราในตลาดยางของรัฐมอญ ซึ่งเป็นรัฐผลิตยางรายใหญ่ในเมียนมา ปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ โดย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ยางแผ่นรมควันขั้น 3 ราคาแตะระดับสูงสุดอยู่ที่ 1,790 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้งราคาอยู่ที่ 1,770 จ๊าดต่อปอนด์ ในขณะที่ราคาปัจจุบันของยางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้งราคาอยู่ที่ 1,560 จ๊าดต่อปอนด์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงสองสัปดาห์ ราคาปรับลดลงกว่า 210 จ๊าดต่อปอนด์ ซึ่งมีปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคายางพาราจาก อุปสงค์ของยางพาราทั่วโลก อุปทานของยางพาราในตลาดโลก และปริมาณการผลิตยางในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เมียนมามีเป้าหมายที่จะการส่งออกยางพาราให้ได้ 300,000 ตันในปีงบประมาณปัจจุบัน 2566-2567 อย่างไรก็ตาม การผลิตยางในปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่า 360,000 ตัน และมีการขนส่งยางมากกว่า 200,000 ตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ อินเดีย และ ญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-prices-on-decline-in-end-oct/#article-title

Qatar Airways พร้อมกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงเชื่อมกรุงพรมเปญ

สายการบิน Qatar Airways พร้อมกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงมายังกรุงพนมเปญ เชื่อมไปยังนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม โดยเริ่มให้บริการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.) กล่าวโดย Vu Thi Thanh Huong ผู้จัดการสายการบิน Qatar Airways ประจำประเทศเวียดนามและกัมพูชา เชื่อว่าจะเป็นการเปิดโอกาสด้านการเดินทางใหม่ๆ ให้กับผู้โดยสาร ขณะที่ Cyril Girot ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสนามบินกัมพูชา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ VINCI Airports ผู้ให้บริการสนามบินเอกชนชั้นนำของโลก ได้กล่าวเสริมว่า สนามบินในกรุงพนมเปญพร้อมที่จะสร้างเครือข่ายจุดหมายปลายทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชื่อมต่อไปยังสนามบินนานาชาติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สนามบินในกัมพูชามีการเดินทางผ่านทางอากาศเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 162 โดยมีผู้โดยสารขาเข้าถึง 3.7 ล้านคน รายงานโดยสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ ซึ่งสถิติสำคัญนี้ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอุตสาหกรรมการบินพลเรือนของประเทศที่ในช่วงก่อนหน้าเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384054/qatar-airways-resumes-phnom-penh-flight/

ทางการกัมพูชาเตรียมเปิดตัวสะพานพระมณีวงศ์ ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

โครงการก่อสร้างสะพานพระมณีวงศ์ พร้อมเปิดให้บริการก่อนกำหนด ซึ่งในเฟสแรกกำหนดวันเสร็จสิ้นไว้ก่อนช่วงวันขึ้นปีใหม่กัมพูชา (KNY) กล่าวโดย Khuong Sreng ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ สำหรับสะพานแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกรุงพนมเปญ โดยคาดว่าจะช่วยลดการติดขัดทางจราจรภายในเขตเมืองได้เป็นอย่างมาก รวมถึงสร้างความสะดวกในการเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติ ขณะที่การก่อสร้างนำโดยบรรษัทการลงทุนข้ามชาติแห่งกัมพูชา (OCIC) เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2022 ด้วยเม็ดเงินลงทุน 37 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันเมืองพนมเปญมีประชากรเกือบ 2.3 ล้านคน และคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคน ภายในปี 2035 ซึ่งจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทางการกัมพูชาจึงจำเป็นต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงถนน เพื่อเป็นการรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ กัมพูชายังได้รายงานถึงจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 11.3 ต่อปี (5 ปีที่ผ่านมา) ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในพนมเปญ ตามระบบการจัดการทะเบียนรถยนต์ของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501384056/37-million-monivong-flyover-to-open-ahead-of-schedule-by-kny/

‘เวียดนาม’ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ต.ค.66 กว่า 15,000 ราย

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าเดือนตุลาคม 2566 มีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 15,435 ราย เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าทุนจดทะเบียน 126 ล้านล้านดอง ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงตุลาคม 2566 เวียดนามมีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวนรวมทั้งสิ้น 131,800 ราย ด้วยทุนจดทะเบียน 1.2 ล้านล้านล้านดอง ถึงแม้ว่าจะสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนธุรกิจใหม่เพิ่มสูงขึ้น 4.7% อย่างไรก็ดีหากพิจารณาทุนจดทะเบียนกลับลดลง 12%

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-has-over-15000-new-market-entrants-in-oct/

‘เวียดนาม’ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทะลุ 10 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือนติดต่อกัน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังเวียดนามในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีจำนวนกว่า 2.9 ล้านคน รองลงมาชาวจีน 1.3 ล้านคน สหรัฐฯ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย มาเลเซียและอื่นๆ ตามลำดับ

นอกจากนี้  นักท่องเที่ยวชาวไทย นับเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีการเติบโตมากที่สุดในตลาดการท่องเที่ยวเวียดนาม โดยเฉพาะในเดือน ต.ค.66 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังเวียดนาม จำนวน 41,000 คน เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/intl-visitor-arrivals-improve-sharply/