อุตสาหกรรมขนาดเล็กกว่า 2,300 แห่งจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในภูมิภาคและรัฐ

กรมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ภายใต้กระทรวงสหกรณ์และการพัฒนาชนบทเมียนมา กำลังดูแลกระบวนการลงทะเบียนสำหรับอุตสาหกรรมขนาดย่อม 13 ประเภทในภูมิภาคและรัฐ รวมถึงพื้นที่สภาเนปิดอว์ ซึ่งในปัจจุบัน 81 เปอร์เซ็นต์ของการลงทะเบียนเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน-เดือนมีนาคม ของปีงบประมาณ 2023-2024 มีการวางแผนการลงทะเบียนทั้งสิ้น 2,890 รายการ และปัจจุบันมีการลงทะเบียนแล้วเสร็จ 2,380 รายการ ในธุรกิจ 13 ประเภท ได้แก่ อาหาร เสื้อผ้า ที่พัก สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในครัวเรือน สิ่งพิมพ์ วัตถุดิบ แร่ธาตุ เครื่องจักรกลการเกษตร การขนส่ง อิเล็กทรอนิกส์ และกิจกรรมอุตสาหกรรมทั่วไป อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนและรับความช่วยเหลือด้านเทคนิคจากกรมอุตสาหกรรมขนาดย่อม รวมทั้งพวกเขาสามารถจัดตั้งกลุ่มที่คล้ายกันและมีลักษณะธุรกิจเดียวกันได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากรัฐเพื่อขยายธุรกิจ เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรม และนิทรรศการทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ และเข้าร่วมการแข่งขัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-2300-micro-industries-officially-registered-in-regions-and-states/#article-title

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเมียนมา รับคณะผู้แทนนำโดยเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย

นาย U Ko Ko Lwin รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งสหภาพ ให้การต้อนรับคณะผู้แทนที่นำโดยนายอิสคานเดอร์ อาซิซอฟ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำเมียนมาร์ ที่สำนักงานรัฐมนตรีสหภาพในกรุงเนปิดอว์เมื่อเช้าวานนี้ โดยในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีสหภาพและเอกอัครราชทูตได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจเกี่ยวกับการสร้างโรงกลั่นน้ำมันในเมียนมาร์ และวางแผนที่จะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในมาตรการทางธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์เพื่อเพิ่มการผลิต ในแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มความร่วมมือในภาคพลังงานระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moe-um-receives-delegation-led-by-ambassador-of-russian-federation/

‘ภาคเกษตรเวียดนาม’ ตั้งเป้าการเติบโต 3.2-4% ปี 67

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่าภาคเกษตรกรรมของเวียดนาม ได้ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2567 อยู่ที่ 3.2-4% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 54-55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระทรวงฯ ยังได้เป้าหมายที่จะนำความทันสมัยและเทคโนโลยีเข้าสู่พื้นที่ชนบท คิดเป็นสัดส่วน 80% ตามมาด้วยการพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ที่ครอบคลุมพื้นที่ป่า 42.02% และการเข้าถึงแหล่งน้ำของครัวเรือนมากกว่า 58% อีกทั้ง เวียดนามมุ่งมั่นที่จะปรับโครงสร้างของภาคเกษตรกรรม ส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีขั้นสูง เกษตรอัจฉริยะ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1639326/vn-s-agriculture-sector-targets-growth-between-3-2-4-in-2024.html

‘เวียดนาม’ คาดสินเชื่อคงค้างในระบบ ไตรมาส 1 โตกว่า 4.4%

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) คาดการณ์ว่าสินเชื่อคงค้างในระบบเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 4.4% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีมุมมองเชิงบวกตลอดทั้งปี โดยมีสินเชื่อเพิ่มขึ้น 14.2% สูงกว่า 40 จุด ที่คาดการณ์ก่อนหน้าที่ 13.8% ทั้งนี้ จากการสำรวจของหน่วยงาน พบว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ปรับตัวลดลง 30-40 จุด ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. และมองว่าเงินฝากจะเพิ่มขึ้น 2.6% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าหนี้เสียจะลดลง แต่จากผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่าอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อของกลุ่มธนาคาร ปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/total-outstanding-loans-expected-to-expand-4-4-in-q1/

MyRO ได้รับการลงทะเบียนโรงเก็บข้าว 193 แห่ง

ตามข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ขณะนี้ โกดังเก็บข้าว 193 แห่งได้รับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มการลงทะเบียนออนไลน์ของ Myanmar Rice Online (MyRO) ทั้งนี้ MRF ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการคลังสินค้าและผู้ค้าส่งลงทะเบียนบน MyRO ที่ www.myro.com.mm การลงทะเบียนนี้จำเป็นสำหรับการจัดซื้อข้าวเปลือกมากกว่า 5,000 ตะกร้า หรือข้าวมากกว่า 50 ตัน เป้าหมายคือเพื่อให้มั่นใจว่าราคาข้าวมีเสถียรภาพ สร้างแนวทางการส่งออกข้าวอย่างเป็นระบบ ชี้นำตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการปั่นราคา รักษาสต๊อกข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าส่งอย่างเป็นระบบ และพัฒนาระบบการเงินคลังสินค้า อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 คลังสินค้า 193 แห่งในย่างกุ้ง อิรวดี พะโค มัณฑะเลย์ และสะกาย รัฐยะไข่ และเขตสภาเนปิดอว์ ได้รับการจดทะเบียนแล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มกราคม กรมกิจการผู้บริโภคได้แจ้งให้ MRF สมาคมในเครือ สมาคมย่อยระดับภูมิภาค รัฐ เขต และเมือง ตลอดจนคณะกรรมการและคลังที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเรื่องการลงทะเบียนโดยทันที บริษัทและผู้ประกอบการรายบุคคลควรลงทะเบียนกับ MyRO ตามระเบียบข้อบังคับด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myro-receives-registration-of-193-rice-storage-facilities/#article-title

รัฐบาล สปป.ลาว-เกาหลีใต้ ขยายความร่วมมือทวิภาคี

รัฐบาล สปป.ลาว และเกาหลีใต้ ได้หารือถึงแนวทางการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดยปัจจุบันเกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่ 4 ในแง่ของการลงทุนจากต่างประเทศใน สปป.ลาว โดยปีที่แล้ว บริษัทเกาหลีดำเนินโครงการลงทุนและธุรกิจกว่า 312 โครงการในลาว โดยมีเงินลงทุนรวมประมาณ 758 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายชุง บยองวอน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ และคณะเดินทางถึงเวียงจันทน์ เพื่อเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ โดยนายโพไซ เคยคำพิทูน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ให้การต้อนรับคณะผู้แทนเกาหลีใต้อย่างอบอุ่น โดยกล่าวว่าการเยือนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์และความร่วมมือลาว-เกาหลีใต้ รัฐบาลทั้งสองวางแผนที่จะสานต่อความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การป้องกันและการรักษาสันติภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรื่องทางสังคมวัฒนธรรม แรงงาน กิจการกงสุล และการศึกษา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_12_Laos_y24.php

จีน-กัมพูชา ลงนาม MoU จัดตั้งโครงการผลิตยางรถยนต์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

ทางการกัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการผลิตยางและยางรถยนต์ร่วมกัน ตามคำแถลงของสภาพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน ณ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมยางและยางแห่งชาติของจีน (NERCRAT) ของรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา Sun Chanthol ซึ่งทุกฝ่ายตั้งเป้าที่จะร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการสำคัญๆ หลายโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501423710/china-and-cambodia-sign-1billion-rubber-tire-projects-agreement/

กลุ่มบริษัทร่วมดันภาคการท่องเที่ยวสีหนุวิลล์ งบประมาณกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์

กลุ่มบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ร่วมกันประกาศการลงทุนในโครงการพัฒนาภาคท่องเที่ยว ในนาม ‘Sihanoukville Royal Heritage Village’ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 1.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะตั้งอยู่ในชุมชน Bet Trang อำเภอ Prey Nob จังหวัดสีหนุวิลล์ โดยบริษัท 5 แห่ง ได้แก่ Pitou และ LJ โดยเป็นบริษัทพัฒนาในกัมพูชาร่วมมือกับ บริษัท Amarta Pura จากอินโดนีเซีย บริษัท DCI จากสาธารณรัฐเกาหลี และ บริษัท KWK จากสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ณ กรุงพนมเปญ ขณะที่โครงการก่อสร้างหมู่บ้านดังกล่าวจะครอบคลุมพื้นที่ 22.5 เฮกตาร์ ในเฟสแรก ภายใต้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากเกาหลีและสิงคโปร์ จากนั้นจะเตรียมพื้นที่อีกกว่า 200 เฮกตาร์ในอนาคต เพื่อทำการขยายสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในระยะเวลา 10 ปี โดยหากโครงการแล้วเสร็จจะมีทั้งโรงแรม คาสิโน สนามกอล์ฟ ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาลนานาชาติ มหาวิทยาลัยนานาชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501423441/1-8-billion-tourism-development-plan-slated-for-sihanoukville/

‘องค์กรระดับโลก’ ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลแถลงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามว่ามีทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2566 ขยายตัว 3.32%, ไตรมาสที่ 2/66 ขยายตัว 4.14%, ไตรมาสที่ 3/66 (5.33%) และไตรมาสที่ 4/66 (6.72%) การเติบโตทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ ส่งผลให้เวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตในระดับสูง และองค์กรระดับโลกหลายแห่งชื่มชมกับความสำเร็จและโอกาสทางด้านเศรษฐกิจของเวียดนามอย่างมาก

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับประมาณการเศรษฐกิจเวียดนาม คาดว่าจะขยายตัว 6.7% ในปีนี้ เนื่องจากยอดการค้าปลีกและการผลิตของภาคอุตฯ ยังคงแข็งแกร่ง การส่งออกและการนำเข้าที่กลับมาฟื้นตัว ถึงแม้ว่าการค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังคงมีความไม่แน่นอน

ในขณะเดียวกัน Fitch Rating องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถือของโลก คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามจะอยู่ที่ 7% โดยมีสัญญาณเชิงบวกหลายประการ อาทิ มีข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคและโลก การไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุนของเวียดนาม เป็นต้น

ที่มา : https://vir.com.vn/global-banks-high-on-gdp-prospects-108328.html

‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ มีแนวโน้มขยายตัว 6.48% หนุนนำนวัตกรรมและปฏิรูปขับเคลื่อนประเทศ

สถาบันกลางเพื่อการจัดการเศรษฐกิจ (CIEM) เปิดเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 6.48% ในปี 2567 ที่ได้รับแรงหนุนจากนวัตกรรม การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการปฏิรูปหน่วยงานหรือสถาบัน โดยทางสถาบัน CIEM ได้นำแบบจำลองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไว้ 2 สถานการณ์ ในสถานการณ์แรกจะเป็นการที่เศรษฐกิจโลกค่อยๆกลับมาฟื้นตัวที่ 2.9% และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ตลอดจนการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.13% ตามมาด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ 3.9% การส่งออก 4.02% และเกินดุลการค้า 5.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่สถานการณ์ที่สอง คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ 3.2% เศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.48% ตามมาด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ 3.72% และการส่งออก 5.19%

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1639269/2024-gdp-growth-might-reach-6-48-driven-by-innovation-reforms.html