อินโดนีเซียซื้อข้าวจากเมียนมากว่า 590,000 ตัน ครองอันดับหนึ่งในรายชื่อผู้ซื้อ

ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) อินโดนีเซียกลายมาเป็นผู้นำเข้าข้าวของเมียนมารายใหญ่ที่สุด โดยมีปริมาณมากกว่า 593,000 ตันในช่วง 9 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2024-2025 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน อันดับสองรองลงมาคือ จีน ที่นำเข้าข้าวของเมียนมา มากกว่า 410,000 ตัน รองลงมาคือเบลเยียม 274,400 ตัน ฟิลิปปินส์ 131,000 ตัน เซเนกัล 96,600 ตัน ไอวอรีโคสต์ 46,900 ตัน โมซัมบิก 44,200 ตัน สเปน 30,000 ตัน แคเมอรูน 27,100 ตัน เนเธอร์แลนด์ 17,500 ตัน โปแลนด์ 17,400 ตัน ไอวอรีโคสต์ 13,900 ตัน และอิตาลี 13,300 ตัน ทั้งนี้ สถิติของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ระบุว่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาพุ่งแตะระดับกว่า 2 ล้านตันในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน 2024-2025 โดยมีมูลค่าประมาณ 948 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหพันธ์มีเป้าหมายที่จะส่งออกข้าวให้ได้ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2024-2025 (เมษายน-มีนาคม) อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์เมียนมาได้ร่วมมือกับหน่วยงานและสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งออกรายเดือนและต่อๆ ไป โดยขึ้นอยู่กับปริมาณการจัดหาข้าว ข้าวหัก พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด ยางพารา และการประมงจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถส่งออกข้าวได้ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2023-2024 สร้างรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ประธานสหพันธ์ข้าวเมียนมา กล่าวอีกว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางเมียนมาในการควบคุมรายได้จากการส่งออกทำให้การส่งออกข้าวเป็นอุปสรรค ส่งผลให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบทางการเงิน นอกจากนี้ สภาพอากาศเอลนีโญยังทำให้การส่งออกข้าวได้รับผลกระทบด้วย

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/indonesia-buys-over-590000-tonnes-of-myanmar-rice-tops-buyers-list/#article-title

‘เวียดนาม’ เผยครึ่งแรกของเดือน ม.ค.68 ส่งออกข้าวพุ่ง 2.7 แสนตัน

สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนมกราคม 2568 เวียดนามส่งออกข้าวมากกว่า 268,700 ตัน มูลค่า 165.7 ล้านดอลลาร์สหรัญ เพิ่มขึ้น 38.7% และ 23.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาราคาข้าวหัก 5% และราคาข้าวหัก 25% พบว่าราคาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 413 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และ 387 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงต้นปีจะมียอดการส่งออกที่ขยายตัว แต่ในภาพรวมของธุรกิจยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มของการส่งออกข้าวในปีนี้ เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าว ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันสูงขึ้น รวมถึงกดดันราคาข้าวให้ปรับตัวลดลง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/rice-exports-grow-in-volume-and-value-in-first-half-of-january-post1151338.vov

บังคลาเทศและเมียนมาลงนามสัญญาซื้อขายข้าว G2G ครั้งที่ 4

สัญญาข้าวระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 4 ระหว่างบังกลาเทศและเมียนมาได้ลงนามในเดือนธันวาคม 2567 โดยเรือลำแรกที่บรรทุกข้าว Aemahta คุณภาพดีของเมียนมาจำนวน 22,000 เมตริกตัน (ข้าวหัก 5 เปอร์เซ็นต์) ได้เดินทางมาถึงท่าเรือบังกลาเทศและเริ่มขนถ่ายข้าวออกไป ตามรายงานของสหพันธ์ข้าวเมียนมา บังกลาเทศและเมียนมาได้ร่วมมือกันในภาคส่วนข้าวตั้งแต่ปี 2560 สัญญาแรกคือ 100,000 เมตริกตันในปี 2560 สัญญาที่สองคือ 100,000 เมตริกตันเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2564 สัญญาที่สามคือ 200,000 เมตริกตันในปีงบประมาณ 2565-2566 และนี่คือสัญญาที่สี่คือ 100,000 เมตริกตันและจะแล้วเสร็จระหว่างเ ดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ข้าวบนเรือ MV Golden Star จากท่าเรือย่างกุ้งมาถึงท่าเรือเมื่อเวลา 22.12 น. ของวันพฤหัสบดี และจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือหมายเลข 9 ของ GCB ในเช้าวันศุกร์ (17 มกราคม) Seven Seas Shipping Lines ซึ่งเป็นตัวแทนจัดส่งของเรือ MV Golden Star ยืนยันการมาถึงดังกล่าวตามมาตรฐานธุรกิจที่โพสต์ในบังกลาเทศเมื่อวันจันทร์ ฝั่งเมียนมา ซึ่งการส่งออกดำเนินการโดยบริษัทส่งออก 35 แห่งซึ่งนำโดยสหพันธ์ข้าวเมียนมา สำหรับฝั่งบังคลาเทศ การซื้อและการจัดจำหน่ายดำเนินการโดยกรมอาหาร

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/bangladesh-myanmar-ink-fourth-g-to-g-rice-contract/

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวไปยังสิงคโปร์ พุ่ง 25.45%

เวียดนามยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ในตลาดสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าการส่งออก 128.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 28.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 และคิดเป็นสัดส่วน 28.25% ของตลาดข้าวสิงคโปร์ ทั้งนี้ อินเดียและไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุด ทำรายได้จากการส่งออกราว 148.19 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (32.48%) และ 137.75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (30.19%) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาผู้ส่งออกรายใหญ่ 3 ราย รวมกัน คิดเป็นสัดส่วน 90.93% ของตลาดข้าวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ จากการประเมินชนิดของข้าวเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าข้าวเวียดนามหลายชนิดมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ ข้าวเหนียว (14.25 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.6 เท่า) ข้าวหัก (2.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 113.63%) และข้าวกล้อง (44.89 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 65.73%) อย่างไรก็ดี ข้าวขาว เป็นกลุ่มข้าวหลักของเวียดนามในตลาดสิงคโปร์ แต่มีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.24% คิดเป็นมูลค่า 64.67 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-rice-exports-to-singapore-post-strong-growth-post143582.html

ผู้บริหาร MRF หารือเรื่องการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ขายในโครงการข้าวราคาประหยัด

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) จัดการประชุมประสานงานการทำงานที่ Mingala Hall ของสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา (UMFCCI) เพื่อกระตุ้นให้ผู้ขายเข้าร่วมโครงการราคาที่เอื้อมถึงได้ ซึ่งขายข้าวในราคาอ้างอิงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม อย่างไรก็ดี การประชุมดังกล่าวเน้นย้ำถึงการประสานงานระหว่างโรงสีข้าว ผู้ค้า และผู้บริหารของสหพันธ์ข้าวเมียนมาเพื่อขายข้าวในราคาอ้างอิงในตลาดขายส่ง และการหารืออย่างต่อเนื่องเพื่อขายข้าวในราคาอ้างอิงในตลาดค้าปลีก นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการจัดหาข้าว Ayeyawady Pawsan และ Shwebo Pawsan ให้เพียงพอในตลาดย่างกุ้ง เนปิดอว์ และมัณฑะเลย์ โดยมีการวัดและคุณภาพที่เหมาะสม การซื้อข้าวเปลือกในราคาพื้นฐานตามราคาข้าว การจัดประชุมประสานงานเพื่อกำหนดราคาอ้างอิงทุกเดือนในสัปดาห์ที่สาม และการลงทะเบียนคลังสินค้าบน MyRO

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mrf-executives-discuss-boosting-seller-participation-in-affordable-rice-scheme/#article-title

‘เวียดนาม’ เผยครึ่งปีแรก ราคาส่งออกข้าวพุ่ง

จากข้อมูลของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าราคาข้าวของเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดต่างประเทศหลายแห่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ราคาเมล็ดพันธุ์ในตลาดบรูไนและสหรัฐฯ อยู่ที่ 959 และ 868 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลเป็นที่น่าสังเกตได้ว่าการส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังฝรั่งเศสในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นอย่างมาก อยู่ที่ 18,200 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 19.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วงเวลาเดียวกัน เวียดนามส่งออกข้าวไปยังตลาดอียู 46,000 ตัน ทำรายได้สูงถึง 41.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 118% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นอกจากนี้ สำนักงานการค้า ประจำสหภาพยุโรป ระบุว่าพันธุ์ข้าวหอมชนิดพิเศษของเวียดนาม ได้แก่ ST25, ST24, Nang Hoa และ OM ได้รับความนิยมในตลาดอียู เนื่องจากคุณภาพที่โดดเด่น ทำให้มีราคาสูง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-rice-export-prices-stay-high-in-h1-post289782.vnp

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวครึ่งปีแรก 67 ทะลุ 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และมูลค่า 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32%YoY ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวของเวียดนามในชวงครึ่งปีแรก พบว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าว 3.48 ล้านเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.5%YoY และผลผลิตข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.7 ตันต่อเฮกตาร์ ส่งผลให้ผลผลิตรวมอยู่ที่ 23.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.6%YoY ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ 670 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศกัมพูชาและอินเดีย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-298-billion-usd-from-rice-exports-in-h1-post289412.vnp

สมาพันธ์ข้าวเมียนมาขยายโครงการข้าวราคาถูกไปยังภูมิภาค/รัฐอื่นๆ

ตามประกาศของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน โครงการข้าวราคาไม่แพงของสหพันธ์ข้าวเมียนมาจะเข้าถึงภูมิภาคและรัฐต่างๆ มากขึ้น ปัจจุบัน MRF จำหน่ายข้าวพันธุ์ Shwebo Pawsan, Ayeyawady Pawsan และ Aemahta ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ในภูมิภาค เนปิดอว์, ย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์, พะโค และ Ayeyawady โดยการประสานงานกับโรงสีข้าว ร้านขายข้าว และคลังน้ำมัน โดยโครงการราคาถูกครอบคลุมร้านค้า 58 แห่งในย่างกุ้ง 120 แห่งในมัณฑะเลย์ และ 96 แห่งในเนปิดอว์ ทั้งนี้ ยังมีบริการจัดส่งตรงถึงบ้านที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม ในเมืองเนปิดอว์ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ฯ จะจัดให้มีสถาบันทางสังคม ศาสนา หน่วยงานราชการ โรงงาน และร้านอาหาร รับซื้อข้าวในราคาที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน เป็นต้นไป ซุปเปอร์มาร์เก็ต มินิมาร์ท และศูนย์การค้า จะกลับมาเปิดจำหน่ายข้าวพันธุ์ Shwebo Pawsan, Ayeyawady Pawsan และ Aemahta แบบแพ็คบริโภค (ถุงเล็ก กล่อง ภาชนะ) ในราคาต่ำกว่าอัตราเดิม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mrf-extends-affordable-rice-scheme-to-other-regions-states/

FAO คาดการณ์ราคาข้าวที่น่าดึงดูดจะกระตุ้นผลผลิตข้าวในกัมพูชา

องค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.9 จากปีก่อนหน้า แตะสถิติสูงสุดที่ 534.9 ล้านตัน ในฤดูกาล 2024/25 โดยรายงานดังกล่าวถูกกว่าไว้ใน World Food Outlook ฉบับล่าสุด ซึ่ง FAO ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียคาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยผลผลิตข้าวโดยรวมของภูมิภาคจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 หรือคิดเป็นปริมาณรวมกว่า 478.9 ล้านตัน เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อการปลูกข้าวและการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม คาดว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวจะขยายตัวเพื่อตอบสนองต่อราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับในประเทศไทยโอกาสที่ผลผลิตจะฟื้นตัวเต็มที่นั้นถูกกระทบโดยความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในการปลูกข้าว เนื่องจากความแห้งแล้งในช่วงต้นฤดู รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงการสนับสนุนของรัฐบาลที่ประกาศออกมา ด้านกัมพูชากลับมีแนวโน้มการส่งออกที่สดใส โดย FAO คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 หรือคิดเป็น 7.9 ล้านตันในปีนี้ ทำให้กัมพูชาเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดอันดับ 10 ของโลก หลังจากแซงหน้าบราซิลและญี่ปุ่นในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501506357/fao-expects-attractive-prices-to-boost-rice-output-in-cambodia/

กัมพูชาส่งออกมูลค่ารวมเกือบ 220 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

สหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา (CRF) เปิดเผยในรายงานว่า 5 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาสามารถส่งออกข้าวได้ปริมาณรวมกว่า 302,592 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปริมาณ 278,184 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากมูลค่า 191 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยัง 63 ประเทศ ผ่านบริษัทผู้ส่งออก 48 แห่ง ซึ่งจีนถือเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ที่ปริมาณการนำเข้ารวม 73,322 ตัน คิดเป็นมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์ สำหรับการส่งออกข้าวไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 26 ประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 136,528 ตัน คิดเป็นมูลค่า 104 ล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ มีปริมาณ 65,412 ตัน คิดเป็นมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์ และยังมีการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ อีกราว 27,330 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.9 ล้านดอลลาร์ ด้านสหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวทั้งปี 2023 ไว้ที่ 750,000 ตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตัน ภายในปี 2025

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501502343/cambodia-nets-close-to-220-million-from-rice-exports-in-first-five-months/