“ศก.กลางคืน” แรงขับเคลื่อนการท่องเที่ยวใหม่ของเวียดนาม

นาย Huynh Van Son บริษัท Saigon Sea Star กล่าวว่าเมื่อธุรกิจเปิดตลาดกลางคืนเกาะฟู้ก๊วก (Phu Quoc) จังหวัดเคียนเกียง (Kien Giang) ได้เห็นถึงผลประโยชน์ของชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับจากการเปิดตลาดกลางคืนและเกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ดีของชาวบ้าน โดยจากข้อมูลในปี 2562 พบว่าตลาดกลางคืนฟู้ก๊วกสามารถดึงดูดผู้คนเฉลี่ย 3,500 คนต่อคืน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ส่งผลให้ตลาดกลางคืนฟู้ก๊วกทำเงินได้มากกว่า 10 พันล้านดองต่อวัน (435,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ นาย Nguyen Quoc Ky ประธานคณะกรรมการบริษัท Vietravel Holdings กล่าวว่าจากการที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ด้านการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง และด้วยสัดส่วนการใช้จ่ายตอนกลางคืน คิดเป็น 70% ของการใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ดี เวียดนามยังขาดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในตอนกลางคืน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/night-economy-new-driving-force-for-vietnam-tourism-2112043.html

ตลาดอสังหาฯเวียดนาม ดึงดูดนักลงทุนเกาหลีใต้

คุณแอนดรูว์ ลี (Andrew Lee) ผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ “ซาวิลส์” ประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามมีโครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นจากนักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลี (ROK) เมื่อเร็วๆนี้ เนื่องจากนักลงทุนดังกล่าวแสวงหาโอกาสที่จะขยายกิจการ ผลสำรวจล่าสุดโดย Savills Vietnam ระบุว่านอกเหนือภาคอุตสาหกรรม ตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จำนวนมากจากเกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนการลงทุนของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และตัวเลขการลงทุน ณ สิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2563 ทั้งนี้ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ 3 อันดับแรกในเวียดนาม

ที่มา: https://en.vietnamplus.vn/vietnams-real-estate-market-attractive-to-rok-investors-consultancy-company/231159.vnp

กัมพูชาตั้งเป้า ดึงทุนจีนพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์

ประธานสมาคมผู้ประเมินราคาและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แห่งกัมพูชา (CVEA) กล่าวว่า นักลงทุนชาวจีนกำลังมองหาการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่จะลงทุนในจังหวัดพระสีหนุ พนมเปญ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ซึ่งคาดว่าจะมีการวางแผนจัดตั้งโครงการการลงทุนเพิ่มเติมภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ในจีนยังไม่ดีขึ้นมากนัก ซึ่งประธาน CVEA ย้ำว่าหากพิจารณาจากสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ในตลาดกัมพูชา พบว่าปัจจุบันมีการเข้าซื้อที่ดิน และคอนโดมิเนียม เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนในท้องถิ่น ในขณะที่ตั้งแต่กัมพูชาได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การลงทุนของจีนในภาคการก่อสร้างลดลงกว่าร้อยละ 50 จึงทำให้ทางการกัมพูชาวางแผนที่จะเร่งดึงดูดนักลงทุนจากจีนกลับมาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501076977/cambodias-real-estate-sector-main-target-for-chinese-investment/

ยอดขายที่ดินเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา คาดลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เหตุพึ่ง FDI เป็นหลัก

การขายที่ดินในเขตอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เป็นหลัก และการขายที่ดินในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (SEZ) คาดว่าจะลดน้อยลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัท ติละวา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด คาดว่าปีนี้จะเป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดและความสำเร็จของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ อาจขึ้นอยู่กับการลงทุนภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแผนก่อนหน้านี้ในการขยายร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งถูกเลื่อนออกไป เพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 และปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://news-eleven.com/article/223258

‘เวียดนาม’ เผยวัคซีนพาสปอร์ต ช่วยภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มีวัคซีนพาสปอร์ต ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ชีวิตควบคู่กับวิกฤตโควิด-19 และช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์และรีสอร์ท คุณ Nguyễn Quốc Anh รองผู้อำนวยทั่วไปของเว็บสื่อกลางอสังหาฯ เวียดนาม “Batdongsan.com.vn” กล่าวว่าตลาดอสังหาฯ ยังคงประสบปัญหามากมาย ด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรกในการช่วยตลาดอสังหาฯ และรีสอร์ท คือการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่าหากมีการเปิดใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต” แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้วประสบความสำเร็จขึ้นมา จะเป็นแรงผลักดันภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อีกมาก เนื่องจากบริษัทต่างชาติจำเป็นต้องนำผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาทำงานในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1064087/vaccine-passports-could-help-resort-real-estate-sector.html

 

‘เวียดนาม’ เผยอสังหาฯ คงเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ

ตั้งแต่เดือน ม.ค.-สิ.ค. ภาคอสังหาริมทรัพย์มีเงินทุนจดทะเบียนรวมราว 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และยังคงติดอันดับที่ 3 ในสาขา 18 ภาคเศรษฐกิจสำคัญเป็นที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินทุนดังกล่าวจะต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าสิ่งนี้สมเหตุสมผล เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้นักลงทุนตัดสินใจที่จะลงทุนได้ยาก อย่างไรก็ตาม กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมยังเป็นจุดไฮไลท์สำคัญ ด้วยมีการตั้งเขตอุตสาหกรรมใหม่และโครงการอุตสาหกรรมสำคัญที่เริ่มดำเนินการแล้ว ทั้งนี้ นาย Dinh Trong Thinh นักเศรษฐศาสตร์เวียดนาม กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของเม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าไปยังภาคอสังหาฯ เป็นผลมาจากความมีเสถียรภาพทางการเมือง การเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวก อัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ ตลอดจนไม่มีความผันผวนของตลาดการเงินและความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/real-estate-remains-attractive-to-foreign-investors/207490.vnp

เวียดนามคาดตลาดอสังหาฯ กลับมาฟื้นตัว เมื่อควบคุมการระบาดได้

การระบาดใหญ่ของไวรัวโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่ผู้เชั่ยวชาญหลายท่านมองว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น และหวังว่าจะฟื้นตัวเมื่อสามารถควบคุมการระบาดได้ คุณ Sử Ngọc Khương ผู้จัดการอาวุโสของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Savills Vietnam กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กำลังซื้อของภาคอสังหาฯ ลดลง และนักลงทุนระมักระวังกันมากขึ้น ทั้งนี้ คุณ Nguyễn Van Đính รองผู้อำนวยการสมาคมอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม กล่าวว่าการขาดแคลนของอุปทาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาอพารต์เมนต์สูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การฉีดวัคซีน ถ้าควบคุมการระบาดได้สำเร็จ การลงทุนจะไหลเข้าเศรษฐกิจเอง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/980408/real-estate-market-expected-to-recover-when-virus-is-under-control.html

ภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนต่างชาติลดลงอย่างมาก โดย www.Realestate.com.kh กล่าวว่าตลาดได้เปลี่ยนจากผู้ซื้อชาวต่างประเทศและชาวกัมพูชากลุ่มชนชั้นกลางไปจนถึงระดับสูงไปสู่กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำมากขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 ราย ซึ่งเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ (ร้อยละ 47) กล่าวว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงวิกฤตโควิด-19 เกือบร้อยละ 60 โดยราคากลับมาอยู่ในช่วงที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ในส่วนของตลาดการเช่าอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนนำไปสู่ราคาค่าเช่าลดลงมาเหลือ 2 ใน 3 ของราคาค่าเช่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875164/real-estate-sector-turning-away-from-foreign-buyers-survey-finds/

ภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้น แม้อยู่ในสถานการณ์ของโควิด-19

สถานการณ์ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศกัมพูชาดูสดใสขึ้น แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงในบางภาคส่วนของอุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง จากความต้องการภายในประเทศ โดยนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่าหากกัมพูชาต้องการที่จะสร้างความได้เปรียบเพื่อยกระดับภาคอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ รวมถึงมีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงไปในทุกพื้นที่ทั่วกัมพูชา เช่น การพัฒนาถนนและเส้นทางทางด่วนที่เชื่อมต่อจุดสำคัญที่น่าสนใจ นอกจากนี้การพัฒนาอย่างรวดเร็วของวงแหวนรอบที่สามรอบกรุงพนมเปญ ถือว่าเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่สำคัญของการพัฒนาที่เกิดขึ้น สะท้อนจากราคาที่ดินในเขตพื้นที่ที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นที่สนใจของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชายังคงมีโอกาสเติบโตได้ในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50841583/real-estate-investments-looking-up/

กัมพูชาคาดโครงการรูปแบบ Mixed-Use จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตภาคอสังหาฯ

ภาคการก่อสร้างคาดว่าจะเติบโตในปีนี้ตามการคาดการณ์ของทางการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาคารแบบผสมผสาน (Mixed-Use) โดยภาคการก่อสร้างหดตัวในปีที่แล้ว มีส่วนทำให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกัมพูชาหดตัวตามไปด้วย ซึ่งหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.3 ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เนื่องจากภาคการก่อสร้างที่ถือเป็นเสาหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงฯ คาดว่าโครงการภาคอสังหารมทรัพย์ต่างๆจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2021 และมีส่วนช่วยในการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณร้อยละ 3.3 ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50825395/mixed-use-buildings-forecast-to-drive-construction-growth/