‘เมียนมา’ ส่งออก 6 เดือนแรกปีนี้ ทะลุ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมียนมาทำรายได้จากการส่งออกในช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณ 2566-2567 อยู่ที่ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 22 ก.ย. พบว่าการส่งออกของเมียนมาจากภาครัฐฯ มีมูลค่ากว่า 2.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ภาคเอกชนทำรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 5.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ายอดการส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้และสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ไปยังตลาดจีน ไทย บังกลาเทศและอินเดีย

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/myanmar-earns-over-usd7-3b-in-export-in-nearly-six-months/

‘เมียนมา’ เผยสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ย. ส่งออกข้าวทะลุ 26,420 ตัน

ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมา 26,420 ตัน ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ย. และจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 9-15 ก.ย. เมียนมาส่งออกข้าวผ่านทางทะเล ปริมาณมากกว่า 14,610 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 8.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผ่านทางชายแดนเมียนมา-จีน ปริมาณกว่า 2,009 ตัน มูลค่า 0.898 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งสองเส้นทางได้ประมาณ 16,620 ตัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 8.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ตลาดส่งออกข้าวสำคัญของเมียนมา ได้แก่ ประเทศในเอเชีย 10,900 ตัน ตามมาด้วยสหภาพยุโรป 2,150 ตัน และประเทศแอฟริกา 1,560 ตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-over-26420-tonnes-of-rice-in-sept-2nd-week/#article-title

เวียดนามขึ้นแท่นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับสองของกัมพูชา

จีน เวียดนาม และไทย ส่งออกสินค้ามายังกัมพูชามูลค่ากว่า 11.5 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นประมาณกว่าร้อยละ 70.8 ของการนำเข้าทั้งหมดของกัมพูชาที่มีมูลค่ารวมกว่า 16.3 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ประเทศกัมพูชา โดยจีนเป็นผู้ส่งออกสินค้าลำดับแรกของกัมพูชา ด้วยมูลค่าการส่งออก 7.2 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.9 ของการนำเข้าทั้งหมด ลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบเป็นรายปี สำหรับการส่งออกของเวียดนามมายังกัมพูชาลดลงร้อยละ 11.7 เหลือมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นร้อยละ 15 ของการนำเข้าทั้งหมด ในขณะที่การส่งออกของไทยมายังกัมพูชาปรับตัวลดลงร้อยละ 25.8 เหลือมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ที่สัดส่วนร้อยละ 11.9 ของมูลค่าการนำเข้ากัมพูชา สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปี GDCE ได้รายงานเสริมว่ากัมพูชาได้ทำการส่งออกสินค้ามูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ ให้กับจีน เวียดนาม และไทย คิดเป็นร้อยละ 21.9 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาที่มูลค่า 15.7 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501367609/vietnam-second-biggest-exporter-of-cambodia/

“ศุภชัย” ฟันธง ปี 67 ส่งออกโตเด่น อานิสงค์เศรษฐกิจจีนพ้นปากเหว

ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) และอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงการส่งออกไทยว่า ปี 2567 เป็นปีที่การส่งออกจะดีกว่าปี 2566 ขณะที่การส่งออกปีนี้ต้องยอมรับว่าไม่น่าจะดีขึ้น สาเหตุหลักที่การส่งออกไทยปี 2567 จะดีขึ้นมาจากปัจจัยเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะฟื้นตัวเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจจีนปี 2566 ถือว่าแย่มากเพราะการส่งออกของจีนไม่ดี เช่นเดียวกันการนำเข้าที่จีนไม่ซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทยในปี 2567 แม้ว่าปีนี้ถือว่าไม่น่าดีขึ้นได้แต่อย่างไรก็ตาม ในภาพใหญ่ไทยควรทำการค้าขายในอาเซียนด้วยกันเองให้มากขึ้นและลดการพึ่งพาประเทศมหาอำนาจ นอกจากนี้ ประเด็นข้อตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ เป็นเรื่องที่ต้องตกลงกันในรายละเอียดให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเป็นเรื่องของการเจรจาต่อรอง และเมื่อได้เอฟทีเอแล้วก็ควรบริหารจัดการโดยให้กลุ่มที่ได้ประโยชน์จ่ายคืนส่วนต่างในรูปแบบภาษี หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมเพื่อนำไปดูแลกลุ่มที่เสียประโยชน์ สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 ตัวเลขการส่งออกของจีนปรับตัวลดลงร้อยละ 5.6 จากผลกระทบการค้ากับประเทศคู่ค้ารายใหญ่อย่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่ปรับตัวลงหนัก และยังฉุดให้ตัวเลขนำเข้าของจีนลดลงถึงร้อยละ 7.6 นำโดยสินค้าในกลุ่มจอแอลซีดีและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ดิ่งลงหนักถึงร้อยละ 27 อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปอาเซียนที่ขยายตัวขึ้นสามารถช่วยบรรเทาภาวะดังกล่าวลง โดยอาเซียนหันมานำเข้าสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรจากจีนมากขึ้น แทนที่สินค้าจากญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1091052

‘เมียนมา’ ส่งออกข้าวโพดจากรัฐฉานไปยังจีน เดือน ต.ค. กว่า 6 หมื่นตัน

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งเมียนมา (MCIA) ระบุว่าเมียนมาจะส่งออกข้าวโพดที่มาจากรัฐฉาน (Shan state) ไปยังตลาดจีนในเดือน ต.ค. อยู่ที่ 60,000 ตัน ผ่านการค้าข้ามพรมแดน ภายใต้โครงการเพาะปลูกฝิ่นทดแทนของรัฐบาลจีน ทั้งนี้ การค้าข้าวโพดระหว่างเมียนมาและจีนที่เป็นไปตามกฎหมาย เริ่มขึ้นเมื่อปี 2565 มีบริษัทเมียนมาจำนวนกว่า 112 แห่งที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกต่างประเทศ นอกจากนี้ นายอู มิน เค็ง ประธานสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งเมียนมา กล่าวว่าข้าวโพดมากกว่า 2 ล้านตัน จะส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าในฤดูเพาะปลูกข้าวโพด ปี 2566

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-to-export-60000-tonnes-of-corn-from-shan-state-to-china-in-oct/#article-title

8 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกไปยังอินเดียขยายตัว 39%

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) รายงานสถานการณ์การส่งออกของกัมพูชาไปยังอินเดียในช่วง ม.ค.-ส.ค. ขยายตัวกว่าร้อยละ 38.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่ารวมกว่า 161.35 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันอินเดียถือเป็นประเทศจุดหมายปลายทางสำคัญของกัมพูชาในการส่งออก ซึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าไปยังอินเดียคิดเป็นร้อยละ 1 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสำคัญอย่างจีนก็เห็นถึงการเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 16.8 ไปยังเวียดนามขยายตัวร้อยละ 26.1 แต่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงมีส่วนแบ่งการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดที่ร้อยละ 38.9 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนามและจีน ที่ร้อยละ 11.8 และร้อยละ 6 ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าของกัมพูชาจากอินเดียปรับตัวลดลงร้อยละ 15.1 ที่มูลค่า 145.56 ล้านดอลลาร์ ทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับอินเดียกว่า 15.78 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501363964/cambodias-exports-to-india-rise-by-39-percent-in-jan-aug/

‘แคนาดา’ ตลาดศักยภาพของข้าวเวียดนาม

หน่วยกิจการพรมแดนแคนาดา (CBSA) รายงานว่าภายหลังจากข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ทีมีผลบังคับใช้แล้ว ส่งผลให้การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น 60% หรือเกือบ 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561-2565 และช่วยให้เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 5 ของกลุ่มผู้ส่งออกข้าวไปยังตลาดแถบอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ คุณ Dinh Trung Dung ผู้อำนวยการของบริษัท Vietnam CanadaTrading Ltd กล่าวว่าแคนาดานับเป็นตลาดบริโภคข้าวขนาดใหญ่ โดยมีความต้องการประมาณ 5 แสนตันต่อปี อย่างไรก็ดี ตลาดแห่งนี้มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในเรื่องคุณภาพของสินค้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1593988/canada-a-potential-market-for-viet-nam-s-rice-insiders.html

‘เมียนมา’ เผย 5 เดือนปี 66 ทำรายได้จากการส่งออกน้ำผึ้ง ทะลุ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์และการชลประทานของเมียนมา (MOALI) ได้กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าเมียนมาทำรายได้จากการส่งออกน้ำผึ้งมากกว่า 1 พันตัน คิดเป็นมูลค่าราว 1.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนของปี 2566 (เม.ย.-ส.ค.) โดยตลาดส่งออกหลักของน้ำผึ้งเมียนมา ได้แก่ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ในขณะที่สหรัฐฯ ไทยและจีนก็สั่งน้ำผึ้งจากเมียนมาเช่นเดียวกัน

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/myanmar-earns-over-usd1m-from-honey-export-within-five-months/

กัมพูชาตั้งเป้าส่งออกข้าวสารไปยังจีนขยายตัว 20%

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า กัมพูชากำลังวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวสารไปยังจีนอีกร้อยละ 20 โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมพบปะกับแรงงาน รวมถึงโรงงาน 18 แห่ง ในจังหวัดตาแก้ว ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่อาวุโสจากทุกกระทรวงเข้าร่วมงาน ด้านนายกฯ ยังได้รายงานอีกว่าหลังการเดินทางไปเยือนจีน ทางการกัมพูชาได้หารือกับญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียน หวังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงดึงดูดการลงทุนและเปิดโอกาสทางการค้ากับประเทศต่างๆ ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนถือเป็นประโยชน์ต่อกัมพูชาเป็นอย่างมากด้วยการได้รับโครงการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมากที่สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นกัมพูชาหลายแสนตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าการส่งออกของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม ซึ่งหลังจากการได้ร้องขอในการเพิ่มโควต้าการส่งออกข้าวของกัมพูชา ทางการได้ร้องขอให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ส่งออกข้าวร่วมมือกันส่งเสริมการส่งออกข้าวและเพิ่มมาตรฐานให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501363031/cambodia-plans-to-increase-export-of-milled-rice-to-china-by-20/

‘เวียดนาม’ เผยส่งออกไม้ โต 14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2566

Nguyen Chanh Phuong รองประธานสมาคมหัตถกรรมและอุตสาหกรรมไม้นครโฮจิมินห์ (HAWA) กล่าวว่าการส่งออกไม้ของเวียดนามมีแนวโน้มจะทำรายได้สูงถึง 14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากประเมินตั้งแต่ต้นปีนี้ เห็นได้ว่าการส่งออกไม้และเฟอร์นิเจอร์ทำด้วยไม้ยังคงซบเซา โดยคำสั่งซื้อของธุรกิจส่วนใหญ่มีปริมาณน้อย ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ทำรายได้เพียง 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่เดือน พ.ค. ธุรกิจเวียดนามนำเข้าวัตถุดิบไม้จำนวนมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 5-10% ต่อเดือน ส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจได้เตรียมรับกับคำสั่งซื้อช่วงสิ้นปี

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-wood-export-likely-to-hit-us145-billion-in-2023-post1045768.vov