“ตลาดรองเท้าเวียดนาม” โตแรง 2 เท่าในปี 2574

ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยการตลาด ระบุว่าตลาดรองเท้าในเวียดนาม คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 38.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2574 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของตัวเลขที่คาดการณ์ในปีนี้ โดยปัจจุบันเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกในแง่การส่งออกรองเท้า รองจากประเทศจีนเท่านั้น อีกทั้ง เวียดนามยังมีโรงงานผลิตรองเท้าราว 2,000 แห่งทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโฮจิมินห์ และเป็นที่น่าสังเกตว่าแบรนด์ระดับโลกหลายแห่ง อาทิเช่น ไนกี้ (Nike) และ อาดิดาส (Adidas) ได้ตัดสินใจที่จะสร้างโรงงานผลิตหลักอยู่ในเวียดนาม เนื่องจากความมีเสถียรภาพทางด้านการเมือง บรรยากาศการลงทุนและแรงงานที่มีอายุน้อยและค่าจ้างถูก นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการจูงใจด้านภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญ (FTA) รวมถึงข้อตกลง CPTPP ทำให้ยกระดับการส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก รวมทั้งแคนาดาและเม็กซิโก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-footwear-market-to-boom-by-2031-value-to-rise-double-to-us387-bln-post977804.vov

คนวงในเผยเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าในเวียดนาม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

นายเหงียน มาย ประธานสมาคมกลุ่มวิสาหกิจผู้ลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนาม กล่าวว่าการลงทุนในต่างประเทศของผู้ประกอบการเวียดนามอยู่ในทิศทางที่กำลังจะเติบโตและมีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในอนาคตข้างหน้า จากเดิมในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม ระบุว่าในปัจจุบันเวียดนามลงทุนไปยังต่างประเทศมากกว่า 21.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยจำนวน 1,584 โครงการ ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ประกอบการทุ่มเงินกว่า 347.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไหลเข้าไปยังโครงการใหม่จำนวน 80 โครงการ โดยส่วนใหญ่ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป นอกจากนี้ นาย Tran Du Lich ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ กล่าวว่าในขณะที่ธุรกิจต่างชาติกำลังเข้าซื้อกิจการบริษัทเวียดนาม องค์กรหลายแห่งในเวียดนามก็ย้ายไปซื้อบริษัทต่างชาติเพื่อขยายการเข้าถึงตลาดไปทั่วโลก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-overseas-investment-can-top-1-billion-usd-annually-insider/240166.vnp

“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด” ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 65 โต 7.5%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 เป็น 7.5% (เดิม 6.7%) และขยายตัวได้ 7.2% ในปี 2566 ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดย GDP ไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 13.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะขยายตัว 4% ถึงแม้ว่าทางธนาคารจะปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้ เหลือ 3.3% (เดิม 4.2%) แต่จะเร่งปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 5% ซึ่งภาวะเงินเฟ้อเป็นอุสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจของเวียดนาม ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่าธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว และคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 50 bps ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1345133/standard-chartered-raises-viet-nam-s-2022-gdp-growth-forecast-to-7-5.html

“เวียดนาม” คาดดัชนี CPI ปีนี้ ขยายตัว 3.27-3.51%

กระทรวงการคลัง และ คุณ Le Minh Khai รองนายกฯ กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันที่ 13 ต.ค. คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในปีนี้ ปรับตัวขึ้น 3.27%-3.51% ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) คาดว่าดัชนี CPI ในเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 3.94% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งหากพิจารณาตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 2.73% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากเศรษฐกิจเวียดนามเปิดกว้างมากขึ้นในปัจจุบันและเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศ ดังนั้นราคาสินค้าจำเป็นและบริการจึงปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ราคาเสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่มก็ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูมักจะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการสูงในช่วงเทศกาลเทด (Tet)

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/cpi-in-2022-forecast-to-expand-at-3-27-3-51-2070206.html

“เวียดนาม” เผย 9 เดือนแรกของปีนี้ ทุ่มเงินนำเข้าน้ำมันดิบ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เวียดนามนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 6.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 6.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.7% ในแง่ของปริมาณและ 131.% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หากพิจารณาเฉพาะในเดือนกันยายน พบว่ามีการนำเข้าน้ำมันดิบ 627,652 ตัน เพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว เวียดนามนำเข้ามากกว่า 627,000 ตัน เป็นมูลค่า 676 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าจะมีการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันดิบหลายแห่งได้ปรับลดขนาดองค์กร เนื่องจากเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันขาดแคลน ในขณะที่ภาคธุรกิจค้าน้ำมันร้องเรียนว่าการคำนวณอัตราคิดลดไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้ประกอบการค้าน้ำมันได้รับผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-spends-over-us68-billion-importing-petroleum-over-nine-months-post976490.vov

“เวียดนาม” ทุ่มเงินโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้ ระยะที่ 2 กว่า 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณราว 8.6 ล้านล้านดอง (259.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โครงการทางพิเศษ ระยะที่ 2 (2021-2025) สำหรับเส้นทางด่วนเหนือ-ใต้ของประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการทางพิเศษสายเหนือ-ใต้ ระยะที่ 2 คิดเป็นมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเงินมาจากงบประมาณของภาครัฐสำหรับแผนการลงทุนสาธารณะของปี 2564-2568 กว่า 1.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากงบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงปัจจุบันรัฐบาลได้จัดสรรเงินราว 47.2 ล้านล้านดอง (1.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับกระทรวงคมนาคมสำหรับการลงทุนภาครัฐในระยะกลาง (2021-2025)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/nearly-360-million-usd-allocated-for-northsouth-expressway-projects-phase-2/239834.vnp