5 เดือนแรกของปีงบฯ 65 เมียนมามีรายได้จากการส่งออกข้าว พุ่งแตะ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เผย 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือนเมย.-เดือนส.ค.2565) ของปีงบประมาณ 2565-2566 เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักจำนวน 889,991 ตัน จากบริษัทผู้ส่งออกข้าวประมาณ 44 แห่ง ทำรายได้เข้าประเทศประมาณ 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 731,590 ตันส่งออกผ่านทางทะเล ไปยังประเทศในแอฟริกาและสหภาพยุโรป ในขณะที่กว่า 158,400 ตัน ส่งออกผ่านชายแดนไปยังจีน ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมาเมียนมาส่งออกข้าวไปยัง 20 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นจีน (108,269 ตัน) และฟิลิปปินส์ (95,019 ตัน) ขณะที่ราคาข้าวเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาข้าวเกรดพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นเป็น 60,000-90,000 จัตต่อถุง ส่วนราคาข้าวเกรดต่ำจะอยู่ระหว่าง 35,500-50,000 จัตต่อถุง ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาได้ส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-300-mln-from-rice-export-in-past-5-months/#article-title

สรท. คงเป้าส่งออก 6-8% ชี้ยังเสี่ยงจาก เงินเฟ้อ-พลังงาน-ค่าระวางเรือสูง อ้อนขอปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนจริง

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สรท. เปิดเผยว่าภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ค. 65 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 23,629 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 4.3% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 829,029 ล้านบาท ขยายตัว 17.0% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือน ก.ค.ขยายตัว 4.1%) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 27,289 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 23.9% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 968,940 ล้านบาท ขยายตัว 38.7% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือน ก.ค. 65 ขาดดุลเท่ากับ 3,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (139,911 ล้านบาท)

ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปีนี้ ได้แก่ 1.สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อโลกที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง  2.ราคาพลังงานทรงตัวในระดับสูง จากสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียที่ยังคงยืดเยื้อ 3.สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเลยังทรงตัวในระดับสูงและเริ่มมีการปรับลดลงในหลายเส้นทาง 4.ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน นอกจากนี้ สรท. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ขอให้ภาครัฐช่วยพิจารณา อนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถปรับราคาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับกลไกตลาด และต้นทุนการผลิตที่แท้จริงได้

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3546578

คาดการค้าทวิภาคี กัมพูชา-อังกฤษ เติบโตภายใต้โครงการใหม่

หลังอังกฤษตัดสินใจเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ Brexit ทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นที่จะต้องแทนที่ Generalized Scheme of Preferences (GSP) ด้วยโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Developing Countries Trading Scheme (DCTS) สำหรับกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา (LDC) ในการกระตุ้นภาคการค้าทวิภาคี ซึ่งจะทำการยกเว้นภาษีในอัตราร้อยละ 99 ให้กับประเทศในกลุ่ม LDC เพื่อเป็นการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่กำลังพัฒนา โดยกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์จากทั้งหมด 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มประเทศ LDC มีประชากรประมาณร้อยละ 13 ของประชากรโลก แต่มูลค้ากลับคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 1 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136142/cambodia-uk-trade-to-soar-under-new-scheme/

การค้า กัมพูชา-สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 45% แตะ 5,892 ล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,892 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 คิดเป็นมูลค่า 5,695 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 3 คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าเพื่อท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่กัมพูชานำเข้ายานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ (GSP) ที่ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคการส่งออกของกัมพูชา โดยในปี 2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134689/cambodia-us-trade-surges-45-to-5892-million/

การค้าทวิภาคีระหว่าง กัมพูชา-จีน พุ่งเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือน

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนแตะมูลค่า 6,971 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินกัมพูชา โดยเปิดเผยว่าในช่วงเดือน มกราคม-กรกฎาคม กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังจีนมูลค่า 701 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6,270 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ซึ่งส่วนใหญ่กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าวสาร มะม่วง กล้วย และมันสำปะหลังไปยังจีน ในขณะเดียวกันกัมพูชาทำการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรม วัตถุดิบ และวัสดุก่อสร้างจากจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501135128/cambodia-china-bilateral-trade-reaches-almost-7-billion-in-first-seven-months/

“เวียดนาม” เผยครึ่งแรกเดือน ส.ค. ยอดการค้าระหว่างประเทศ พุ่ง 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การค้ารวมในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. 2565 มีมูลค่ามากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออก 15.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 7% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว โดยมีสินค้าส่งออก 5 รายการที่มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน (2.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมาเครื่องจักร เครื่องมือและอะไหล่, คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ, สิ่งทอและรองเท้า ในขณะเดียวกันเวียดนามนำเข้า 15.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. แต่ในภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงกลาง เดือน ส.ค. เวียดนามยังคงเกินดุลการค้า 1.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-laos-trade-advances-in-jan-jul/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ แต่เกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ พุ่งแตะมูลค่า 5.892 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 5.695 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 196 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134336/almost-6-billion-cambodia-us-trade-registered-in-first-seven-months/

กัมพูชาวอนจีนกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ

รัฐบาลกัมพูชากำหนดเป้าหมายการค้าทวิภาคีกับจีนใหม่หวังเพิ่มขึ้นเป็น 15 พันล้านดอลลาร์ กล่าวโดยนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ในระหว่างการพบปะกับ หวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ณ กรุงพนมเปญ ซึ่ง ฮุนเซน กล่าวว่า ปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและจีนปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยกัมพูชาร้องขอให้จีนช่วยสนับสนุนกัมพูชาโดยการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น ข้าว ลำไย และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆ เนื่องจากเริ่มมีความต้องการสูงขึ้นในตลาดจีน ซึ่งในปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่า 11.19 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนมีมูลค่าอยู่ที่ 1.51 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ทางการกัมพูชายังขอให้จีนเร่งเดินหน้าเพิ่มการลงทุนในกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันตามรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชาแสดงให้เห็นว่าจีนได้เข้ามาลงทุนในกัมพูชามูลค่าการลงทุนรวม 1.29 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และยังขอให้จีนเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างทั้งสองประเทศเพื่อช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501127588/cambodia-urges-china-to-step-up-bilateral-trade/

“เวียดนาม-สปป.ลาว” ยอดการค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 65 พุ่ง 20.6%

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศสปป.ลาว เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเวียดนามและสปป.ลาวในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่า 824 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากตัวเลขการค้าดังกล่าว มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว อยู่ที่ 309.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 6% ในขณะที่มูลค่าการนำเข้า 514.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 45.4% โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนามไปยังตลาดสปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันเบนซิน (30.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผักและผลไม้ (22.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าแร่และแร่ธาตุอื่นๆ, ปุ๋ย, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และยางพารา ตามลำดับ นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ทิศทางการส่งออกของเวียดนามไปยังสปป.ลาว ในเดือนก.ค. จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจสปป.ลาว มีเสถียรภาพชั่วคราว หลังจากรัฐบาลอนุมัติสินเชื่อซื้อน้ำมัน 200 ล้านลิตร

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-laos-trade-up-206-in-first-half/234336.vnp

Q1 ของปีงบ 65-66 ค้าระหว่างประเทศเมียนมา พุ่งแตะ 18.19%

ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง วันที่ 24 มิ.ย.2565 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565-2566  มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเมียนมาเพิ่มขึ้น 18.19% เมื่อเทียบปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 7.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกเพิ่มขึ้น 18.34 % ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 18.04 % แม้ว่าการค้าโดยรวมจะสูงขึ้น แต่การค้าชายแดนของประเทศลดลง 15.54 % มาอยู่ที่กว่า 1.719 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการค้าขายส่วนใหญ่ผ่านเส้นทางเดินเรือ ส่วนการค้าชายแดนจะทำการค้ากับจีน ไทย บังกลาเทศ และอินเดีย ทั้งนี้สินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การประมง แร่ธาตุและผลิตภัณฑ์จากป่า ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://english.news.cn/20220707/a1174db83ab2439296f539a3a2e35999/c.html