ระบบชลประทานอยู่ระหว่างการซ่อมแซมในสะหวันนะเขต

ในปี 2020 พื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 51,000 เฮกตาร์ได้รับความเสียหายใน 13 อำเภอของสะหวันนะเขต หลังจากเกิดฝนตกหนักรุนแรงและยังส่งผลให้น้ำท่วมสร้างความเสียหายให้กับช่องทางชลประทาน ซึ่งกระทบต่อหมายความว่าผลผลิตของเกษตรกรลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวซึ่งเป็นสินค้าหลักในการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป จากปัญหดังกล่าวทำให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาและซ่อมแซ่มชลประทานอย่างเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการชลประทานข้าว 498 เฮกตาร์ในฤดูแล้ง รวมทั้งพืชผลอื่นๆ อีก 91 เฮกตาร์ที่ปลูกในเมืองไกสอนพรหมวิหาร ทั้งนี้โครงการได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ต้นปี 63 จนปัจจุบันแล้วเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 93.35 ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากเงินกู้มากกว่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย โครงการคาดว่าจะสามารถสูบน้ำเข้านาได้ในช่วงต้นปีนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Repair03.php

‘นครเกิ่นเทอ’ เคาะงบลงทุน 1.2 ล้านล้านดอง เหตุปรับปรุง 5 แยกใหญ่

จากการประชุมสภาองค์การบริหารจังหวัดเกิ่นเทอ (Can Tho) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นาย Nguyen Thuc Hien ยื่นเสนอขอใช้งบประมาณ 1.2 ล้านล้านดอง เพื่อยกระดับโครงการและขยายพื้นที่ของ 5 ทางแยกใหญ่ในตัวเมืองเกิ่นเทอ โดยโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564-2568 ในเฟสแรก เมืองจะขยายพื้นที่ทางแยกเหล่านี้ ได้แก่ (1) Mau Than-Ba Thang Hai-Tran Hung Dao, (2) Mau Than-Nguyen Van Cu-Vo Van Kiet, (3) Nguyen Van Linh-Nguyen Van Cu, (4) Nguyen Van Linh-Ba Thang Hai และ (5) Nguyen Van Linh-Ba Muoi Thang Tu

ทั้งนี้ หากมีระยะต่อไป เมืองเกิ่นเทอจะพิจารณาสร้างสะพายลอยหรืออุโมงค์ กรณีปริมาณการจราจรเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/can-tho-to-spend-vnd1-2-trillion-upgrading-five-congested-intersections/

ไทยควรเชื่อมต่อทางรถไฟสายลาว-จีน โดยด่วน

รัฐบาลไทยกำลังได้รับคำแนะนำให้เร่งพัฒนาเครือข่ายรถไฟที่เชื่อมโยงระบบรถไฟของไทยกับรถไฟลาว-จีน ซึ่งเชื่อมต่อคุนหมิงในมณฑลยูนนานของจีนกับเวียงจันทน์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสปป.ลาว ดนุชา พิชยานันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า “รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการข้อตกลงกับประเทศลาวและจีน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อระหว่างระบบรถไฟของไทยกับการรถไฟลาว-จีน” ทางรถไฟเป็นโครงการเชื่อมต่อระหว่างแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ที่จีนเสนอและกลยุทธ์ของลาวในการเปลี่ยนตนเองจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้เป็นศูนย์กลางทางบก เมื่อเริ่มเปิดใช้บริการคาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและการค้าของการรถไฟลาว-จีนอย่างมาก นอกจากนี้การเชื่อมโยงทางรถไฟจะดึงดูดการลงทุนจากจีนและประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และเหมืองแร่ นายดานูชา เสนอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการตามข้อตกลงไตรภาคีเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ไร้รอยต่อระหว่างไทยกับการรถไฟจีน-ลาว การเชื่อมโยงทางรถไฟที่ดีขึ้นหรือราบรื่นจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการขยายการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทย ลาว และจีน”

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2224707/calls-to-speed-up-link-to-laos-china-line

อาเซียน เจรจาอินเดียผลักดันการเชื่อมต่อระหว่างกันมากขึ้น

ผู้นำอาเซียนและอินเดียตกลงที่จะขยายความร่วมมือเพื่อขยายการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน ระหว่างกัน บรรดาผู้นำเห็นพ้องที่จะผลักดันให้สร้างทางด่วนเชื่อมอินเดียกับเมียนมาร์และไทย นำไปสู่ความเชื่อมโยงกับลาว กัมพูชา และเวียดนาม ในที่ประชุมยังมีการรายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการอาเซียน-อินเดียสำหรับปี 2564-2568 และกรอบความร่วมมืออื่นๆ ที่ตกลงร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามร่วมกันในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจดิจิทัล  ด้านการลงทุนผู้เข้าร่วมประชุมเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ที่ประชุมรับรองแผนปฏิบัติการใหม่ของอาเซียน-รัสเซียสำหรับปี 2564-2568

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_
Asean212.php

ADB อนุมัติเงินกู้ 40 ล้านดอลลาร์ ช่วย SME กัมพูชา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้ กลุ่มไมโคร วิสาหกิจขนาดกลางและวิสาหกิจขนาดย่อม (MSMEs) ของกัมพูชา เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะสนับสนุนภายใต้ความพยายามของรัฐบาล ในการปฏิรูปเพื่อเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินและการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของภาคการเงินในประเทศ ซึ่งในการนี้ถือเป็นระยะที่ 3 ของโครงการพัฒนาระบบการเงิน ที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้าตั้งแต่ปี 2016-2019 โดย ADB ระบุว่าการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการทางด้านการเงินสำหรับคนยากจนในกัมพูชามีอยู่อย่างจำกัด เนื่องจากมีความรู้ทางด้านการเงินต่ำ สะท้อนจากประชากรกลุ่มผู้ใหญ่ในประเทศที่มีบัญชีธนาคารอยู่เพียงร้อยละ 22 ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ MSMEs ก็ประสบกับปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเช่นกัน ซึ่ง ADB กล่าวเพิ่มเติมว่าความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินของกัมพูชาเพิ่มขึ้นในระยะที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50954353/adb-approves-40-million-to-help-small-companies-get-loans/

กัมพูชาวางแผนพัฒนาปรับปรุงถนนเรียบชายฝั่งจังหวัดแกบ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแกบตั้งเป้าที่จะปรับปรุงถนนเลียบชายฝั่งที่เชื่อมศาลากลางจังหวัดแกบไปยังพื้นที่อังกอร์ ทางตอนใต้ของจังหวัดแกบ โดยการก่อสร้างมีกำหนดที่จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งโครงการถนนเลียบชายฝั่งจะมีความยาวประมาณ 11.4 กิโลเมตร ใช้เงินกู้สัมปทานการก่อสร้างมูลค่า 10.5 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) โดยถนนเลียบชายฝั่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 2 ของ ADB ซึ่งทาง ADB ให้เงินกู้กัมพูชาจำนวน 30 ล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินโครงการ 3 โครงการในจังหวัดแกบ รวมถึงโครงการท่าเทียบเรือท่องเที่ยวบนเกาะทอนซาย และถนนเลียบชายฝั่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50950385/10-million-kep-coastal-road-to-start-in-november/

ADB อนุมัติเงินกู้เพื่อการปรับปรุงถนนแก่รัฐบาลกัมพูชา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) อนุมัติเงินกู้จำนวน 82 ล้านดอลลาร์ ให้กับรัฐบาลกัมพูชา เพื่อใช้ในการปรับปรุงถนนในเขตพื้นที่จังหวัด ไพรแวง และกันดาล โดยคาดว่าโครงการนี้จะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจอนุภาคกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่ง ADB ได้ให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นระยะที่ 2 ของโครงการปรับปรุงเครือข่ายถนน โดยความพยายามนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม และสนับสนุนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกข้ามพรมแดนระหว่างจังหวัด ไพรแวง และกันดาล ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้กำหนดแผนในการพัฒนาระดับชาติเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูง และมีมันคง โดยสามารถรองรับภาคการขนส่งภายในประเทศที่กำลังเผชิญอยู่กับความท้าทายในปัจจุบัน อาทิเช่น ถนนในชนบทส่วนใหญ่เป็นถนนราดยาง และมีเส้นทางอยู่จำกัด ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดด้านการขนส่ง รวมถึงเพื่อรองรับปัจจัยด้านการเติบโตของประชากรและการจ้างงานของประเทศภายในปี 2030

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50944155/adb-approves-82-million-loan-to-government-towards-road-improvement-projects/

รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนเวียงจันทน์-ฮานอย

รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนเชื่อมเวียงจันทน์กับฮานอย ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา 2 เส้นทาง โดยเส้นทางแรกจะวิ่งผ่านเวียงจันทน์-ปากซาน-เวียงทอง-Thanh Thuy-Hanoi เป็นระยะทาง 725 กิโลเมตร                    เป็นเส้นทางในประเทศลาว 355 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายโดยประมาณจะอยู่ที่ 5.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเส้นทางที่ 2 เป็นเส้นทางผ่านเวียงจันทน์-นาแพง-ไซสมบูรณ์-เชียงขวาง-ท่าลาว (จังหวัดหัวพัน)-ฮานอยระยะทาง 730 กม. เป็นเส้นทางในประเทศลาว 485 กม. ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเส้นทางนี้จะอยู่ที่ประมาณ 9.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสร้างทางด่วนแล้วเสร็จจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเปลี่ยนประเทศสปป.ลาวจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาค

 ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane_Hanoi_189.php

ท่าเรือพนมเปญ เสริมพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ในกัมพูชา

ท่าเรือพนมเปญ (PPAP) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ได้เปิดตัวโครงการส่วนต่อขยายท่าเทียบ ไปในวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา โดยได้ยกระดับความสามารถในการจัดการตู้คอนเทนเนอร์เป็น 400,000 TEU ต่อปี ซึ่งการก่อสร้างท่าเรือแห่งนี้ใช้งบประมาณอยู่ที่ 18.4 ล้านดอลลาร์ เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2019 และแล้วเสร็จภายในช่วงกลางปี 2021 โดยมีขนาดครอบคลุมพื้นที่ 2.75 เฮกตาร์ และเดิมมีความสามารถในการจัดการตู้คอนเทนเนอร์ 100,000 TEU ต่อปี ซึ่งเหตุผลที่จำเป็นต้องขยายเป็นเพราะว่าจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของปริมาณการใช้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ โดยในปี 2019 PPAP ได้รับตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 290,000 ตู้ มายังท่าเรือ และยังได้วางแผนโครงการขยายสถานีคอนเทนเนอร์ใหม่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ได้ 500,000 TEUs ต่อปี ภายในปี 2022

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50938651/phnom-penh-autonomous-port-upgrades-container-handling-capacity-to-400000-teus/

7 หุ้น โรงไฟฟ้าใหญ่ไทย กำลังเติบโตในเวียดนาม

โดย Maratronman I Wealthy Thai

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ เพราะขนาดเศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายใหญ่โตขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากประชากรที่เพิ่มตัวขึ้นปีละหลายล้านคน รวมถึงประชากรกำลังอยู่ในวัยคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นวัยที่มีส่วนจะช่วยผลักดันความก้าวหน้าของประเทศ

การลงทุนจากต่างประเทศทยอยการลงทุนเข้ามาในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากผู้ประกอบการค่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงใช้ประเทศเวียดนามเป็นฐานการผลิตโทรศัพท์มือถือ รวมถึงนักลงทุนจากสหรัฐที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนาม

ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเวียดนามเองนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องรังสรรค์โครงสร้างพื้นฐานประเทศไว้รองรับสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้ประเทศ และเศรษฐกิจเดินหน้าต่อแบบไม่ชะงัก แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่เวียดนามก็ไม่หวั่นตั้งเป้าปี 64 จีดีพีจะกลับมาเติบโตในระดับ 6.5% จากในปี 63 ที่โตแบบสะดุด

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ เพื่อรองรับการเติบโต และอุตสาหกรรมที่กำลังรุ่งเรืองคงจะหนีไม่พ้นโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า ซึ่งกระแสไฟฟ้ามีส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยเวียดนามคาดการณ์ว่าจะมีการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากถึง 80,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573

โดยแหล่งพลังงานหลักยังคงเป็นถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 30,000 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งและพลังงานลมก็คาดว่าจะมีการขยายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50,000 เมกะวัตต์ ซึ่งอัตราการเติบโตของการใช้พลังงานในปี 2021-2030 ยังอยู่ในระดับสูง จาก 8.6 % ในปี 2021-2025 และ 7.2 % ในปี 2026-2030 แผนพัฒนาพลังงานของเวียดนามคาดการณ์ว่าจะมีการใช้พลังงานสูงสุด 138,000 เมกะวัตต์ ในปี 2030 และ 302,000 เมกะวัตต์ ในปี 2045

เมื่อเห็นแผนการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศเวียดนามแบบนี้แล้ว นักลงทุนคงจะพอเดากันได้แล้วใช่มั้ยว่า มีบริษัทหลักทรัพย์ของไทยที่ไหนบ้าง ถ้าเดาไม่ออก งั้น Wealthy Thai จะเล่าให้ฟัง มีบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เข้าไปลงทุน มีทั้งสิ้น 7 บริษัท ประกอบด้วย

1.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

2.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

3.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH

4.บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP

5.บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG

6.บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER

7.บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL

ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/stock/stock-of-the-day/1496