รองนายกฯ เวียดนาม ตั้งเป้า GDP โต 6.5%

การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 15 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นาย เล วัน แถ่ง (Le Van Thanh) รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่าเศรษฐกิจเวียดนามปี 2565 ให้โตได้ตามเป้าหมาย 6-6.5% ถือเป็นเป็นความท้าทายครั้งใหญ่จากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ในปัจจุบันเวียดนามมุ่งรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระดับมหภาคและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แสดงได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.1% นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินงานตามมติของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและมุ่งป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตลอดจนขอความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อและเพิ่มรายรับงบประมาณของภาครัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/growth-target-of-65-remains-big-challenge-deputy-pm-post945860.vov

‘เวียดนาม’ ชี้ไตรมาส 3 เศรษฐกิจส่งสัญญาปัญหาเงินเฟ้อ

Trần Toàn Thắng หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราห์เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นสถานการณ์ความตึงเครียดมากที่สุดในการรับมือปัญหาเงินเฟ้อ ภายในงานเสวนาเศรษฐกิจเวียดนามแห่งปี 2022 ซึ่งจากรายงานได้เน้นย้ำถึงกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันกับปัญหาต่างๆ ในปีนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อและต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ถือได้ว่าสร้างผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจเวียดนามอีกด้วย ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างประเทศจีนที่คงเข็มงวดนโยบาย “Zero COVID” กลายเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1194073/q3-set-to-be-tough-period-for-inflation.html

‘ข้าวเวียดนาม’ เร่งสร้างการรับรู้แบรนด์สินค้า

Nguyễn Thị Thu Thủy รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าอาเซียนถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีขนาดตลาดที่ใหญ่สำหรับข้าวเวียดนามและกิจการควรมีกลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาดขนาด 700 ล้านประชากร ซึ่งมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน โดยในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกข้าวเวียดนามที่ใหญ่ที่สุด มีปริมาณกว่า 2.45 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 509.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2564 ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของผู้ส่งออกโลก รองจากอินเดียและจีน แต่อินโดนีเซียก็ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพแก่ข้าวเวียดนาม นอกจากนี้ Cao Xuân Thắng เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการค้าเวียดนามประจำสิงคโปร์ กล่าวว่าเวียดนามเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 ของสิงคโปร์ รองจากไทยและอินเดีย และได้แนะนำให้ผู้ประกอบการปรับปรุงคุณภาพข้าวและส่งเสริมการรับรู้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันกับไทยและอินเดีย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/business-beat/1194075/vietnamese-rice-must-increase-brand-recognition-in-asean.html

‘เวียดนาม’ ยัน! คุมหนี้สาธารณะได้

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเวียดนามสามารถควบคุมระดับหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงฯ มองว่าการปรับเพิ่มวงเงินกู้ของหนี้สาธารณะ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม และดำเนินการรักษาระดับหนี้สาธารณะที่ควบคุมได้ในระยะกลาง-ยาว ทั้งนี้ จากตัวเลขทางด้านสถิติของสำนักงานการบริหารหนี้ แสดงให้เห็นว่าหนี้สาธารณะของเวียดนามลดลงจาก 63.7% ของ GDP ในปี 2560 มาแตะอยู่ที่ 55.9% ในปี 2563

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1193544/vn-manages-to-control-public-debt.html

 

‘เวียดนาม’ คว้าโอกาสหนุนสตาร์ทอัพ ผนึกพันธมิตรสหรัฐฯ

นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้กล่าวในที่ประชุมทางด้านนวัตกรรมและสตาร์ทอัพที่สถาบัน Asia Society ในเมืองซานฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ชี้แจ้งว่าเวียดนามตั้งตาที่จะร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสหรัฐอเมริกาเพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการกระจายห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ เวียดนามมองว่าวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะต่อไปและยังได้เสนอกลยุทธ์ 3 ประการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน หน่วยงานและทรัพยากรมนุษย์ เพื่อที่จะส่งเสริมการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรัฐบาลเร่งปรับปรุงหน่วยงานและนโยบาย ตลอดจนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรมนุษย์ เพื่อจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมายังเวียดนามมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://en.baochinhphu.vn/viet-nam-looks-forward-to-stronger-startup-partnership-with-us-111220518103925907.htm

‘เวียดนาม’ ยกเลิกเรียกเก็บภาษีเหล็กนำเข้าจากจีนและเกาหลีใต้

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ประกาศยกเลิกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับการนำเข้าเหล็กเคลือบโลหะจากสาธารณรัฐเกาหลีและจีน หลังจากจัดเก็บภาษีเป็นระยะเวลา 5 ปี ตามรายงานของกระทรวงฯ เปิดเผยว่ากระทรวงได้เปิดการสอบสวนว่ามีการทุ่มตลาดในเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ตามที่มีการเรียกร้องจากผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งการสอบสวนเป็นไปตามระเบียบขององค์การค้าโลก (WTO) เป็นผลให้กระทรวงฯ รวบรวมเอกสารและข้อมูลต่างๆ จากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปประเมินผลกระทบของการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบโลหะ และการทุ่มตลาดของผู้ผลิตและผู้ส่งออกเกาหลีใต้และจีน ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าหลังจากเรียกเก็บภาษีมาเป็นระยะเวลา 5 ปี ภาคการผลิตเหล็กในประเทศไม่ได้รับผลกระทบสูงมากเหมือนแต่ก่อนและมีความเป็นไปได้ว่าจะนำเข้าเหล็กจากเกาหลีใต้และจีนในอนาคต

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-removes-anti-dumping-duties-on-steel-imports-from-china-rok-post944578.vov