‘เวียดนาม’ ชี้การส่งออก กุญแจสำคัญเร่งผลักดันเศรษฐกิจโต

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 63 อยู่ที่ 2.9% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินนโยบายโด่ย​ เหม่ย “Doi Moi” แต่นับว่ายังเป็นสถานการณ์ที่ดีเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง หดตัว 4% ทั้งนี้ ในช่วง Q3/63 – Q2/64 ภาวะเศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ด้วยอัตราการเติบโตที่ 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ การระบาดของเชื้อโรค ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจ หดตัวที่ 6.2% อีกทั้ง ปัจจัยที่ทำให้เป็นแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่าเมื่อแยกตัวชี้วัดของอุปสงค์ในประเทศจะเห็นได้ว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ชี้ว่าการบริโภตหดตัวอย่างมาก การลงทุนหยุดชะงัก ในขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตราการขยายตัวที่ 24%ดถอยรุนแรงภาวะเแต่เริ่มดำเนินการน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1070812/exports-of-goods-an-important-momentum-for-growth.html

‘จุรินทร์’ถกทูตจีนเร่งเปิดด่าน ผลักดันการส่งออกผลไม้-ไก่-รังนก-ข้าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์เปิดเผยว่า ได้ขอให้จีนเปิดด่าน 2 ด่าน ที่ปิดไปในช่วงโควิด-19 คือ1.ด่านโมฮาน ที่เป็นด่านทางบก เริ่มต้นจากเชียงของทางเหนือของไทย ผ่านบ่อเต็นไปเข้าจีนทางยูนนาน ตอนใต้2.เส้นทางผ่านแม่น้ำโขง จากท่าเรือเชียงแสนของไทยไปเข้ายูนนาน ที่ด่านกวนเหล่ย หรือท่าเรือกวนเหล่ยโดยอยากให้เร่งกลับมาเปิดโดยเร็ว พร้อมขอเพิ่มเงื่อนไข คือ 1.สำหรับด่านกวนเหล่ยขอให้จีนอนุญาตนำเข้าผลไม้ 2.การนำเข้าไก่จากไทย โดยไทยมีโรงงานส่งออกไก่ไปจีน 22 โรง แต่ปิดไป 9 โรง ช่วงโควิด-19 จึงขอเร่งตรวจโรงงานส่งออกไก่ 9 โรงงาน ผ่านระบบออนไลน์รวม ขณะที่การนำเข้ารังนก ปัจจุบันนำเข้าจากไทยแค่ 2 บริษัท จึงขอให้จีนเร่งมาตรวจโรงงานเพิ่ม ส่วนเรื่องข้าวนั้นมี MOU อยู่ 1 ล้านตัน ซึ่งจีนได้นำเข้าแล้ว 7.2 แสนตัน ค้างอยู่ 2.8 แสนตัน จึงขอช่วยเร่งดำเนินการ

ที่มา: https://www.naewna.com/business/612927

 

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของสินค้ากัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกของกัมพูชาในปี 2021 แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าผลิตภัณฑ์บางอย่างจะผลิตโดยไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) ซึ่งรายงานจากกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังระบุว่าการส่งออกรวมของกัมพูชามีมูลค่า 14.6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 42 ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่า 6,219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปีที่แล้ว การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6,921 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีก่อนหน้า ในจำนวนนี้คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 6.577 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50952218/us-remains-the-biggest-market-for-exporters/

ส่งออกกัมพูชาในช่วง 8 เดือน ยังคงขยายตัว

ปริมาณการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยังคงเป็นบวก แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยปริมาณการค้าอยู่ที่ 25,610 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน มกราคม-สิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นการส่งออกมูลค่ารวม 11,010 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20.4 โดยการนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 14,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการขยายตัวของการส่งออกในช่วง 8 เดือน ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกเสื้อผ้า จักรยาน และสินค้าส่งออกอื่นๆ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ยาง หนังขนสัตว์ อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนไฟฟ้า สายไฟและสายเคเบิล กล้วย น้ำตาล รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50949168/total-trade-volume-in-the-first-eight-months-of-this-year-remains-positive/

‘เวียดนาม’ เผย 8 เดือนแรกปีนี้ ยอดส่งออกไปยังกัมพูชา พุ่ง 16.7%

ตัวเลขการส่งออกของเวียดนามไปยังกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 3.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เวียดนามขาดดุลการค้ากับกัมพูชา 354.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวียดนามขาดดุลการค้า คือการนำเข้าเพิ่มขึ้นของสินค้าสำคัญ 6 รายการจากกัมพูชา เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะเม็ดมะม่วงหิมพานต์และยางพาราที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุด ทั้งนี้ ยอดเงินทุนจดทะเบียนของเวียดนามในกัมพูชานั้น มีมูลค่ากว่า 2.85 พันล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนส่วนใหญ่จะเข้าไปในภาคเกษตรกรรม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเวียดนามเข้าไปลงทุนในกัมพูชา เนื่องจากค่าแรงงานถูก สภาพแวดล้อมที่ดินมีความเหมาะสม สภาพภูมิอากาศและแรงจูงใจ เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-exports-to-cambodia-up-167-percent-in-eight-months/208682.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผยยอดการส่งออกอาหารทะเลดิ่งลงฮวบ ท่ามกลางมาตรการเว้นระยะทางสังคม

สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ามาตรการเว้นระยะทางสังคมที่เข็มงวดในหัวเมืองและจังหวัดทางภาคใต้ 19 จังหวัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูปอาหารทะเล ทำให้ยอดการส่งออกอาหารทะเลลดลงอย่างมาก ตามข้อมูลของสมาคมฯ แสดงให้เห็นว่ายอดการส่งออกอาหารทะเลของเวียดนามไปยังตลาดหลักในเดือนสิงหาคม ได้แก่ สหรัฐฯ และยุโรป ลดลงราว 16-50% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะตลาดเนเธอแลนด์และเยอรมนี ลดลงประมาณ 50% และ 42% ตามลำดับ โดยมูลค่าการส่งออกอาหารทะเลทั้งสิ้น แตะ 588 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว ลดลงราว 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ นาย Le Van Quang ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท Minh Phu กล่าวว่าบริษัทอาหารทะเลในจังหวัดทางภาคใต้ดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและผลผลิตลดลง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/seafood-exports-drop-sharply-during-social-distancing/

8 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกรวมแตะหมื่นล้านดอลลาร์

ตัวเลขการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ลดลง รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งระบุว่ามูลค่าการส่งออกรวมของกัมพูชาอยู่ที่ 1.109 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดา ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และ กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาด การส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มปรับตัวลดลง ในขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก รองประธานหอการค้ากัมพูชา กล่าวเสริมว่า การค้ากับคู่ค้าต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มรวมถึงจักรยานที่กำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ด้วยข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งกัมพูชาคาดว่าจะได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้น ที่ถือเป็นการกระตุ้นการส่งออกและการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อป้อนห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50934036/eight-month-exports-valued-at-11-08-bn/

ค้าต่างประเทศเมียนมา ดิ่งฮวบ 6.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบฯ ปัจจุบัน

การค้าต่างประเทศของเมียนมามีมูลค่า 26.11 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 20 ส.ค. 64 ในปีงบประมาณปัจจุบัน 2563-2564 ซึ่งลดลง 6.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีมูลค่า 33.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว ในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา การส่งออกมีมูลค่ากว่า 13.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่การนำเข้าค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 13.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการส่งออกจีนอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่เมียนมาส่งออกสินค้ามากที่สุด โดยมีมูลค่า 3,985.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาคือไทย 673.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  และญี่ปุ่น 485.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นต้น โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่การนำเข้า ได้แก่ สินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmars-foreign-trade-declines-by-6-98-bln-this-fy/

กัมพูชาส่งออกไปยังสหรัฐฯขยายตัวร้อยละ 27 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 4,298 ล้านดอลลาร์ ไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากสำมะโนประชากรสหรัฐอเมริกา (USCB) ตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคมปีนี้ โดยกัมพูชาทำการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 235 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นการค้าทวิภาคีที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 สู่ 4,534 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า รวมถึงสินค้า อาทิเช่น รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ซึ่งกัมพูชาทำการนำเข้ารถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ โดยตอนนี้กัมพูชามี FTA ร่วมกับจีนและเกาหลีใต้แล้ว โดยเฉพาะ RCEP ที่คาดว่าจะดึงดูดการลงทุนมาสู่ประเทศมากขึ้นในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50929929/cambodias-seven-month-exports-to-us-surge-27-percent/

ส่งออกเพิ่มดันดัชนีผลผลิตอุตฯ โต 5.12%

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค. 64 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 91.41 เพิ่มขึ้น 5.12%เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจของคู่ค้าหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปที่มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นภาคการผลิตไทยจึงได้รับอานิสงส์ ส่วนอุตสาหกรรมสำคัญที่ ขยายตัว อาทิ รถยนต์และเครื่องยนต์ขยายตัว 31.49% ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 19.02% และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ขยายตัว 18.55% เป็นต้น ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 35.40% ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวสูงถึง 50.11% สะท้อนว่า ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป

ที่มา: https://www.naewna.com/business/598663