‘อาลีบาบา’ เผยโอกาสในการส่งออกสดใสของผู้ประกอบการ SMEs เวียดนาม

Alibaba.com แพลตฟอร์ม B2B เปิดเผยรายงานในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวียดนาม ปี 2565” โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่อยู่ในภาคการส่งออก แสดงให้เห็นถึงโอกาสการส่งออกที่สดใสของผู้ประกอบการ SMEs เวียดนามที่ควรมุ่งการขยายธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา อาทิเช่น ผลผลิตเกษตร ผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ที่อยู่อาศัยและสวน เป็นต้น ทั้งนี้ หากแบ่งผลิตภัณฑ์ หมวดผลผลิตเกษตร พบว่าน้ำมันสำหรับประกอบอาหารเป็นสินค้าที่มีความสำคัญสูงสุด เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 300 คนเฉลี่ยต่อวัน โดยอินเดีย เลบานอน อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกาและจีน เป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด ในขณะที่ หมวดผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล พบว่าการต่อผมและวิกถือมีสัดส่วนการบริโภคมากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ใช้เฉลี่ยมากกว่า 3,500 รายต่อวัน อีกทั้ง หมวดที่อยู่อาศัยและการทำสวน พบว่าอุปกรณ์ครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เป็นสินค้าขายดีที่สุดและยังเป็นสินค้าสำคัญที่ตอบสนองความต้องการของตลาดสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ บราซิลและรัสเซีย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/alibaba-unveils-promising-export-opportunities-for-vietnamese-smes-post919238.vov

‘ธนาคารดิจิทัลเวียดนาม’ ระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากข้อมูลรายงานของ TechInAsia เปิดเผยว่าธนาคารดิจิทัลเวียดนาม “Timo” ประกาศระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนระดับโลกอย่าง Square Peg ตลอดจนซิสโก้และจังเกิล เวนเจอร์ส (Jungle Ventures) , Granite Oak, Phoenix Holdings และนักลงทุนอิสระรายอื่นๆ ยังได้เข้าร่วมในการระดมทุนครั้งนี้

ทั้งนี้ การระดมทุนดังกล่าว ธนาคาร Timo จะนำเงินไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีและมุ่นเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านสำหรับตลาดเวียดนาม นอกจากนี้ ตามรายงานของ McKinsey & Company ชี้ว่าผู้ใช้บริการจากบริษัทฟืนเทคในเวียดนาม เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2560 เป็น 56% ในปี 2564 ซึ่งความนิยมของการใช้ E-wallets และ Fintech ในเวียดนามนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/sci-tech-environment/vietnamese-digital-banking-startup-gets-20-million-usd-809687.html

‘รัฐบาลเวียดนาม’ เล็งชงปรับลด VAT จาก 10% เหลือ 8% ในปี 65

หลังจากดำเนินมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ มูลค่ากว่า 350 ล้านล้านดอง (15 พันล้านเหรียญสหรัฐ) รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ (VAT) เหลือ 8% ในปี 2565 (ลดลง 2% จากอัตราปัจจุบัน) เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. นายโฮ ดึก ฟอก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเวียดนาม กล่าวว่าการที่รัฐบาลดำเนินการปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่าภาษีเงินได้ เนื่องจากการลดภาษี VAT จะช่วยธุรกิจทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะผู้ที่รายงานผลกำไรเท่านั้น โดยบริษัทส่วนใหญ่ได้รับการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ยกเว้นสาขาโทรคมนาคม การธนาคารและการเงิน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่และปิโตรเคมี และอื่นๆ

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์และผู้ประกอบการ แสดงความกังวลว่าการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 2% อาจไม่สามารถกระตุ้นการบริโภคและกิจกรรมทางธุรกิจได้ในปีนี้ ตลอดจนผลการบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.พ. นับว่าเป็นการเสียโอกาสที่จะกระตุ้นการบริโภคก่อนที่จะถึงเทศกาลตรุษเวียดนาม (Lunar New Year)

ที่มา : https://www.nationthailand.com/international/40011214

Vietnam Economic Factsheet : Q4/2564

FACTSHEET VIETNAM Q4.64

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ขยายตัว 5.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากการหดตัว 6.02% ในไตรมาส 3 I เศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ หลังทางการเริ่มต้นยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางในเดือน ต.ค.

ด้านการผลิต : ภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ขยายตัว 3.16%, ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง 5.61% และภาคบริการ 5.42%

ด้านการใช้จ่าย : การอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน ขยายตัว 3.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว, การสะสมทุน ขยายตัว 3.37%, การส่งออกสินค้าและบริการ ขยายตัว 14.28% และการนำเข้าสินค้าและบริการ ขยายตัว 11.36%

ธนาคารกลางสปป.ลาว เวียดนาม ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนข้อมูล

รถไฟบรรทุกสินค้าที่บรรทุกสินค้าไฮเทคได้ออกเดินทางจากซูโจวในมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีนไปยังเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เป็นรถไฟบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศขบวนแรกจากภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีไปยังลาว เป็นจุดเริ่ใต้นที่ดีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นวันที่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคมีผลบังคับใช้ รถไฟบรรทุกสินค้าครบครันด้วยจอ LCD และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตโดยบริษัทไฮเทคในซูโจวและเมืองอื่นๆ ของมณฑลเจียงซู โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านหยวน (7.77 ล้านดอลลาร์) รถไฟจะมาถึงเวียงจันทน์ในอีกเจ็ดวัน โดยสินค้าจะถูกส่งไปยังประเทศเวียดนาม มาเลเซีย ไทย และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเดินขบวนของรถไฟตามโครงการรถไฟจีน-สปป.ลาวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และแนะนำผลิตภัณฑ์จีนเพิ่มเติมให้กับประเทศสมาชิก RCEP โดยจะเดินทางระหว่างจีนและลาวสัปดาห์ละครั้ง

ที่มา:http://regional.chinadaily.com.cn/SuzhouNewDistrict/2022-01/14/c_699112.htm

จับตาศักยภาพ! ยุโรปขึ้นแท่นผู้นำเข้าข้าว ‘เวียดนาม’

ตามรายงานจาก VietNam Investment Review เปิดเผยว่าความต้องการข้าวจากประเทศในแถบเอเชียเพิ่มสูงขึ้น ตลาดสหภาพยุโรป (EU) จึงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงแก่ผู้ส่งออกข้าวของเวียดนาม โดยในปี 2564 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังยุโรป ปริมาณกว่า 60,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1% ในแง่ของปริมาณ และ 20% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกข้าวหอมมะลิราว 40,000 ตัน มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 ช่วยให้ราคาธัญพืชของเวียดนามปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 10-20 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องมาจากจากความต้องการเพิ่มขึ้น เหตุโควิด-19 ระบาด นอกจากนี้ ตามรายงานของสำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) ชี้ว่ากลุ่มซัพพลายเออร์ข้าวรายใหญ่ 10 อันดับแรกของกลุ่มนี้ ข้าวจากเวียดนามมีราคาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่ 20.3% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 781 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1115829/eu-remains-highly-potential-importer-of-vietnamese-rice.html

‘เวียดนาม’ เผยคนตกงานนับล้าน รายได้ดิ่งเหว ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในปี 2564 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของแรงงานในเวียดนาม อยู่ที่ 5.7 ล้านดอง ลดลง 32,000 ดองเมื่อเทียบกับปี 2563 ตามการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะการจ้างงานในปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับปี 2564 แรงงานที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีจำนวน 50.5 ล้านคน ลดลง 791,600 คน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 ม.ค. แรงงานที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปในไตรมาสที่ 4/64 มีจำนวน 50.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านคนเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 1.4 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากได้รับการฉีดวัคซีนได้อย่างครอบคลุมและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้เห็นสัญญาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของแรงงานเวียดนามในไตรมาสที่ 4/64 อยู่ที่ 5.3 ล้านคน ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของคนงานชาย 6.6 ล้านดอง สูงกว่าคนงานหญิง 1.4 เท่า (4.7 ล้านดอง)

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/business/millions-of-people-unemployed-lowest-income-in-years-809417.html