เวียดนามเผยส่งออกมะม่วงไปยังสหรัฐ พุ่ง 2 เท่า

จากรายงานของหน่วยงานการค้าต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่ามูลค่าการนำเข้ามะม่วงของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ ราคานำเข้าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,064.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้สดและผลไม้แช่แข็ง ทั้งนี้ ในแง่ของปริมาณ พบว่าเวียดนามเป็นตลาดนำเข้ารายใหญ่ที่สุด อันดับที่ 12 ของสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.3 ของยอดมูลค่าทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเวียดนามจำเป็นต้องติดตามเรื่องกฎระเบียบที่เข็มงวดเกี่ยวกับการทำฟาร์ม การบรรจุหีบห่อและแหล่งกำเนิดสินค้า นอกจากนี้ การส่งออกมะม่วงของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นนั้น นับว่าเป็นไปได้ยากมากในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ส่งผลการส่งออกทั่วโลกลดลง โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อผลผลิตทางการเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ อันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.7 ของการส่งออกรวม รองลงมา จีน สหภาพยุโรปและอาเซียน

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnams-mangoes-export-volumnes-to-us-doubles-25849.html

มะม่วงไทยดาวเด่น ส่งออกอาเซียนโต 143% หนุนใช้ FTA สร้างแต้มต่อ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า มะม่วงสดของไทยเป็นหนึ่งในสินค้าดาวเด่นมาแรง ทำยอดส่งออกขยายตัวได้ดี แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค. 2563) กว่า 5.7 ตัน มูลค่าถึง 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 4%โดยส่งออกไปตลาดอาเซียนขยายตัวโดดเด่นสุด มีสัดส่วนอยู่ที่ 37.5% ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่า 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 143% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ตลาดส่งออกหลัก เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และ สปป.ลาว เป็นต้น และยังมีจีนที่นิยมมะม่วงสดจากไทยเพิ่มขึ้น มีมูลค่าส่งออกถึง 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 71% และฮ่องกง ขยายตัวถึง 196% นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรมกล่าวเพิ่มเติมถึงจุดเด่นของมะม่วงไทย “ไทยเป็นแหล่งปลูกมะม่วงพันธุ์ดี มีคุณภาพ และรสชาติดี จึงเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ ประกอบกับแนวโน้มความต้องการมะม่วงสดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยจะขยายตลาดการส่งออกได้เพิ่มขึ้น” นอกจากนี้ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งคือข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ช่วยส่งเสริมการค้าให้ขยายตัวโดยปัจจุบันประเทศคู่เอฟทีเอของไทย 15 ประเทศได้แก่ สมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม เมียนมา และมาเลเซีย) จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู เหลือเพียง 3 ประเทศ ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าจากไทย ได้แก่ สปป.ลาว และกัมพูชา เก็บภาษีนำเข้า 5% และเกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้า 24%  

ที่มา : http://www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=10473&index

เอฟทีเอดันยอดส่งออกมะม่วงเข้าตลาดอาเซียน 5 เดือนแรก 2563 ทะลุ 143%

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า มะม่วงสดของไทยเป็นหนึ่งในสินค้าดาวเด่นมาแรง ทำยอดส่งออกขยายตัวได้ดี แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค. 2563) ไทยส่งออกมะม่วงสดปริมาณกว่า 5.7 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2562 โดยส่งออกไปตลาดอาเซียนขยายตัวโดดเด่นสุด มีสัดส่วนอยู่ที่ 37.5% ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่า 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 143% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ตลาดส่งออกหลัก เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และ สปป.ลาว เป็นต้น และยังมีจีนที่นิยมมะม่วงสดจากไทยเพิ่มขึ้น มีมูลค่าส่งออกถึง 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 71% และฮ่องกง ขยายตัวถึง 196% ทั้งนี้ ไทยเป็นแหล่งปลูกมะม่วงพันธุ์ดี มีคุณภาพ และรสชาติดี จึงเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ ประกอบกับแนวโน้มความต้องการมะม่วงสดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยจะขยายตลาดการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (15 ประเทศ) นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การเพาะปลูก การบรรจุหีบห่อ การมีใบรับรองสุขอนามัยพืช รวมทั้งระมัดระวังการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศเข้มงวดและผู้บริโภคนิยมผลไม้ปลอดสารพิษหรือเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-491759

สถานการณ์ราคามะม่วงในกัมพูชา ณ ปัจจุบัน

กระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันการลดลงของราคาของมะม่วง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ตามที่กระทรวงระบุ ซึ่งกระทรวงกล่าวว่าในขณะที่รัฐบาลกัมพูชากำลังต่อสู้กับการแพร่กระจายของ Coronavirus โรคระบาดไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลทำให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง เพื่อป้องกันการลดลงของราคามะม่วงกระทรวงได้ประกาศมาตรการรวมถึงการกระตุ้นให้หน่วยงานด้านการเกษตรในจังหวัดต่างๆร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเกษตรทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกร ซึ่งกระทรวงยังกระตุ้นให้หน่วยงานระดับจังหวัดเตรียมการฝึกอบรมด้านเทคนิคให้กับเกษตรกรและเชื่อมโยงพวกเขาสู่ตลาดโดยการทำสัญญา ราคามะม่วงในปัจจุบันลดลงอย่างรวดเร็วและเราไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันราคาของมะม่วงอยู่ที่ 320 riels ต่อกิโลกรัมลดลงจาก 800 riels ในปี 2019 กระทรวงกล่าวว่าในปัจจุบัน บริษัท มะม่วงซื้อมะม่วงประมาณ 20 ถึง 30 ตันทุกวันโดยบริษัทผู้แปรรูปในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50712431/mango-prices-must-stay-same/

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 5.8 หมื่นตันในปี 2562

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 58,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2562 ซึ่งรายงานโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและโฆษกของกระทรวงพาณิชย์เมื่อเร็วๆนี้ โดยตลาดสำหรับการส่งออกมะม่วงในปี 2562 ยังคงดำเนินต่อไป ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญ เช่นสหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก เบลเยียม ออสเตรเลียเป็นต้น ที่เป็นตลาดศักยภาพในสินค้ามะม่วงของกัมพูชา ซึ่งถูกส่งออกทั้งโดยตรงและผ่านประเทศเพื่อนบ้านทั้งในรูปแบบมะม่วงสดและแยมมะม่วง โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาที่จะขยายตลาดต่างประเทศสำหรับมะม่วงของกัมพูชาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690166/over-58000-tonnes-of-cambodian-mangoes-exported-in-2019