สถานเอกอัครราชทูตไทยประกาศแผนดำเนินการวีซ่าใหม่ เริ่ม 21 กุมภาพันธ์นี้

สถานทูตไทยในย่างกุ้ง ประกาศเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ว่า มีการให้บริการผู้สมัครวีซ่ากว่า 400 รายต่อวัน โดยรูปแบบการให้บริการปัจจุบันจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะมีการปรับให้บริการรูปแบบใหม่ สถานทูตได้ประกาศว่าจะดำเนินการให้กับผู้สมัครเพียง 400 คนต่อวัน โดยจัดให้มีระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (โทเค็น) เนื่องจากมีผู้มาสมัครวีซ่าอย่างท่วมท้น ทั้งนี้ในประกาศระบุว่าระบบจะเริ่มในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และโทเค็นจะพร้อมใช้งานในวันที่ 16, 19, 20 และ 21 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม สถานทูตจะออกหมายเลขโทเค็นสำหรับผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. ผู้รับผิดชอบจะออกโทเค็นหลังจากตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้สมัครอย่างละเอียดถี่ถ้วนและยืนยันความถูกต้องแล้วเท่านั้น โดยโทเค็นเหล่านั้นไม่สามารถโอนไปยังบุคคลอื่นได้ และหมายเลขโทเค็นแต่ละหมายเลขสามารถใช้ได้สำหรับหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งหากมีการปลอมแปลงหรือใช้หมายเลขโทเค็นในทางที่ผิดจะส่งผลให้คำร้องขอวีซ่าถูกปฏิเสธ และผู้สมัครจะถูกเพิกถอน นอกจากนี้ ตามการระบุของสถานทูตผู้ที่ถือหนังสือเดินทางพลเมืองเมียนมาจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศไทยได้ 14 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/thai-embassy-to-announce-new-visa-processing-scheme-starting-21-feb/

โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ และโรงกลั่นน้ำมันปาล์มในตะนินทยี

อู ซอ มิน อู เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการระบุว่า บริษัทเอกชนกำลังดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำและโรงกลั่นน้ำมันปาล์มในเมือง Kyunsu เขตตะนาวศรี ทั้งนี้ โครงการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 3.77 เมกะวัตต์ที่เขื่อน Pahtaw ในหมู่บ้าน Pahtaw ในเมือง Kyunsu กำลังดำเนินการร่วมกันโดยบริษัท Pyae Phyo Tun International และบริษัท Myanmar Solar Power Trading Company โดยจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 6,384 แผงบนพื้นที่เจ็ดเอเคอร์ของผิวน้ำภายในเขื่อน ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งไปยังห้องเย็น สถานที่ทำงาน โรงงาน และที่พักอาศัยบนเกาะพะแทวพะเท็ด เมืองมะริด อย่างไรก็ดี โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำอีกแห่งในหมู่บ้านพะเท็ด คาดว่าจะป้อนให้กับโรงกลั่นน้ำมันปาล์มที่สามารถผลิตน้ำมันได้ 60 ตันต่อวัน ซึ่งขณะนี้โรงกลั่นดังกล่าวยังไม่ได้เปิดใช้บริการ นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มดิบ 800 ตันที่ผลิตได้ในพื้นที่ 8,000 จาก 15,000 เอเคอร์ในมอตอง จะถูกส่งออกไปยังย่างกุ้งผ่านทางท่าเทียบเรือมะริด

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/taninthayi-welcomes-private-investment-in-floating-solar-power-plant-palm-oil-refinery/

รัฐมนตรีสหภาพแรงงาน ตรวจการก่อสร้างสะพานมิตรภาพเมียนมา-เกาหลี

อู เมียว ตัน รัฐมนตรีสหภาพแรงงาน อู โซ เต็ง มุขมนตรีเขตย่างกุ้ง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างสะพานมิตรภาพเมียนมา-เกาหลี (ดาลา) ซึ่งจะเชื่อมต่อตัวเมืองย่างกุ้งกับเมืองดาลาเมื่อวานนี้ ด้าน U Kyaw Kaung Cho รองอธิบดีกรมสะพานและผู้นำโครงการ ได้หารือเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัย กลยุทธ์การจัดการจราจร การก่อสร้างท่อส่งน้ำดื่มกว้าง 0.5 เมตร และแผนการเจรจากับคณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง สำหรับด่านเก็บค่าผ่านทางฝั่งดาหลา ทั้งนี้ รัฐมนตรีสหภาพฯ ให้การสนับสนุนที่จำเป็นและเฝ้าสังเกตการก่อสร้างสะพานที่กำลังเข้าใกล้ฝั่งย่างกุ้ง สะพานลาด และเสาท่าเรือจนเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งยังได้เดินทางเยือนธนาคารดาลาทางเรือ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่กำหนดสำหรับด่านเก็บค่าผ่านทาง โครงสร้างคอสะพานและโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของป้ายและไฟสัญญาณ และบทบาทของพวกเขาในการรับรองความปลอดภัยของเรือในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม สะพานมิตรภาพอยู่ระหว่างการก่อสร้างภายใต้มาตรฐานและบรรทัดฐานสากล ด้วยความสูงจากพื้นดิน 49 เมตร เพื่อรองรับเรือเดินทะเลขนาด 15,000 ตัน สะพานทางลาดและโครงสร้างคอสะพานกำลังถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลาดเอียงและทางเดินที่ปลอดภัย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moc-um-inspects-myanmar-korea-friendship-bridge-construction/#article-title

การค้าต่างประเทศของเมียนมาทะลุ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบ 10 เดือน

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมารายงานว่า การค้าระหว่างประเทศของเมียนมากับคู่ค้าต่างประเทศมีมูลค่า 25.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 12.135 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 13.378 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งมูลค่าการค้ารวมของปีงบประมาณปัจจุบันลดลงอย่างมากถึง 3.15 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่าการค้ารวม 28.66 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าของเมียนมาแบ่งออกเป็นการค้าทางทะเลอยู่ที่ประมาณ 18.787 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การค้าดำเนินการที่ชายแดนมีมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-foreign-trade-exceeds-us25-bln-in-ten-months/

การส่งออกแร่ของเมียนมาใน 10 เดือน สร้างรายได้กว่า 230 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมามีรายได้มากกว่า 233.197 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการส่งออกผลิตภัณฑ์แร่ในช่วง 10 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2567 โดยประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นรายได้จากภาคเอกชน ในขณะที่อุตสาหกรรมที่รัฐเป็นเจ้าของมีส่วนสนับสนุนประมาณ 32 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาการส่งออกผลิตภัณฑ์แร่สร้างรายได้ 289.257 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเทียบกันตัวเลขปัจจุบันจึงลดลง 56 ล้านดอลลาร์ ภายในปีงบประมาณนี้ อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของกรมการค้าภายใต้กระทรวงพาณิชย์ รายได้ส่วนใหญ่ในช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณนี้ มาจากการส่งออกแร่ ตามมาด้วยการส่งออกหยก โดยแร่หลักที่ส่งออก ได้แก่ หยก เพชร ทอง ไข่มุก ตะกั่ว ดีบุก ทังสเตน ทองแดง เงิน ถ่านหิน และสังกะสี

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/sino-myanmar-border-trade-surges-in-past-ten-months/#article-title

การค้าชายแดนจีน-เมียนมาพุ่งสูงขึ้นในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา

จากข้อมูลสถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาและจีนมีมูลค่าทะลุ 2.839 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-มกราคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่าการค้า 2.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งที่ 412.146 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณนี้ เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่แล้ว อย่างไรก็ดี เมียนมาดำเนินการค้าขายข้ามพรมแดนกับจีน ผ่านทางด่านชายแดน Muse, Lweje, Chinshwehaw, Kampaiti และ Kengtung ซึ่งการค้าผ่านด่านชายแดน Muse มีมูลค่าการค้าสูงสุดที่ 1.836 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ มูลค่าการค้าผ่านด่าน Chinshwehaw อยู่ที่ 703.066 ล้านดอลลาร์, ผ่านด่าน Kampaiti 36.266 ล้านดอลลาร์, ผ่านด่าน Lweje 98.566 ล้านดอลลาร์ และผ่านด่าน Kengtung 64.435 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เมียนมามีการดำเนินการค้าชายแดนกับสี่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ จีน ไทย บังกลาเทศ และอินเดีย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-mineral-exports-generate-over-us230-mln-in-10-months/

รายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรแตะ 2.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ระบุว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาร์มีมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 3.108 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว โดยลดลงประมาณ 301.79 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาได้ดำเนินยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) พ.ศ. 2563-2568 เพื่อกระตุ้นการส่งออก ภาคส่วนที่มีลำดับความสำคัญของ NES ประกอบด้วยการผลิตทางการเกษตร เครื่องนุ่งห่มและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ บริการข้อมูลการค้า นวัตกรรม และภาคผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/agri-export-earnings-hit-us2-8-bln-in-past-ten-months/