นายกฯ เศรษฐา เผยแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อระหว่างไทย, เวียดนาม, ลาว และกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อระหว่างไทย เวียดนาม ลาว และกัมพูชาหลังจากพบปะผู้นำทั้งสามเมื่อวันอาทิตย์ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดในกรุงโตเกียว เพื่อรำลึกถึงความร่วมมือ 50 ปีของญี่ปุ่นกับประเทศในกลุ่มอาเซียน นายกเศรษฐา กล่าวในการหารือกับประธานาธิบดีเวียดนาม หวอ วัน ทุ่ม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะฟื้นฟูการประชุมคณะรัฐมนตรีระหว่างทั้งสองประเทศ เวียดนามได้เสนอให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปีหน้า นากยกฯ เศรษฐา กล่าวว่าวาระการประชุมจะรวมถึงราคาข้าวเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยประธานโว เสนอว่า ไทย เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ต้องดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างราบรื่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างประเทศต่างๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแยกกัน นายกฯ เศรษฐา กล่าวชมเชยแนวคิดนี้ว่าสร้างสรรค์และกล่าวว่าเขาจะสั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล หารือเกี่ยวกับปัญหานี้และทำงานเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั่วทั้งสี่ประเทศ ในการหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา เศรษฐากล่าวถึงประเด็นต่างๆ รวมถึงการจัดตั้งสถานกงสุลไทยในเมืองเสียมเรียบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมนครวัดอันโด่งดัง นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังขอบคุณเศรษฐาสำหรับการดูแลคนงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย ในการเจรจากับประธานาธิบดี Joko Widodo ของอินโดนีเซีย Srettha ยืนยันว่าอินโดนีเซียจะซื้อข้าวไทยจำนวน 2 ล้านตัน การส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นไปยังอินโดนีเซียมีความโดดเด่นเนื่องจากภัยแล้งรุนแรงและฤดูฝนที่ล่าช้าซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ Joko Widodo ยังให้คำมั่นที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าพบนายธรรมนัส พร้อมเภา รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในต้นปีหน้า “สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มราคาและความต้องการข้าวไทย” ทั้งนี้ ประธานาธิบดียังแสดงความสนใจโครงการ Land Bridge มูลค่า 1 ล้านล้านบาทของประเทศไทย และจะมีการหารือเพิ่มเติมเร็วๆ นี้

ที่มา : https://www.nationthailand.com/thailand/economy/40033917

กัมพูชาส่งออกยางในช่วง ม.ค.-พ.ย. พุ่งแตะ 445 ล้านดอลลาร์

รายงานจาก General Directorate of Rubber (GER) ระบุว่ากัมพูชาส่งออกยางแห้งไปยังตลาดโลกรวมกว่า 334,176 ตัน สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 เพิ่มขึ้นในแง่ปริมาณร้อยละ 3.6 จากปริมาณ 322,586 ตัน เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้เข้าประทศกว่า 445.4 ล้านดอลลาร์ ลดลงในแง่ของมูลค่าร้อยละ 4.4 จากมูลค่า 465.8 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจุบันยางแห้งหนึ่งตันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,333 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 111 ดอลลาร์/ตัน สำหรับประเทศผู้นำเข้ารายสำคัญของกัมพูชายังคงเป็นมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน ด้านการเพาะปลูกกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 407,172 เฮกตาร์ ซึ่งร้อยละ 78.6 ของพื้นที่เพาะปลูก หรือประมาณ 320,184 เฮกตาร์ สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501408025/cambodia-earns-over-445-million-from-rubber-exports-in-the-first-11-months/

มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 11 เดือนแรกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

การส่งออกสินค้าของกัมพูชาในช่วง 11 เดือนแรกของปี ขยายตัวเล็กน้อยร้อยละ 1.2 หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรายงานล่าของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ เวียดนาม จีน ไทย และญี่ปุ่น โดยสหรัฐฯ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาที่มูลค่าการนำเข้ารวม 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนามและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 37.8 และร้อยละ 18.5 ที่มูลค่า 2.61 พันล้านดอลลาร์ และ 1.31 พันล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้จากการส่งออกกัมพูชามากที่สุด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501407510/cambodias-export-turnover-slightly-rises-in-11-months/

Vietjet Air พร้อมเปิดเส้นทางบิน ฮานอย-เสียมเรียบ

Vietjet Air เสริมเที่ยวบินตรงสายใหม่ระหว่างกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เชื่อมไปยังจังหวัดเสียมเรียบ กัมพูชา โดยจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และการขนส่งทางอากาศ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่าข้อตกลงอย่างเป็นทางการของเส้นทางการบินใหม่ดังกล่าวได้รับการลงนามในการประชุมส่งเสริมการค้าและการลงทุนกัมพูชา-เวียดนามปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอังคาร ณ กรุงฮานอย โดยมีนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝั่ม มิญ จิ๊ญ เป็นประทาน ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวเผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามสูงถึง 95,895 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501405992/vietjet-to-launch-hanoi-siem-reap-flight-route/

เวียดนาม-กัมพูชา พร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างกัน

Nguyen Hong Dien รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ได้จัดประชุมเพื่อหารือร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา Cham Nimul ณ กรุงฮานอย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม Hem Vandy ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุน มาเนต เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าความร่วมมือในระดับทวิภาคีทั้งในด้านการค้าและอุตสาหกรรม ส่งผลทำให้ในปี 2023 แม้ในบริบทของความผันผวนเชิงลบของสถานการณ์โลกในช่วง 11 เดือนแรกของปี การค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชามีมูลค่ารวมเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ โดยเวียดนามถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสามของกัมพูชาและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการต่างๆ ในอนาคต เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ-การค้าและอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501406114/vietnam-cambodia-promote-cooperation-in-industry-and-trade/

คาดอุตสาหกรรมเกษตรจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันการเติบโตของกัมพูชา

หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ภาคอุตสาหกรรมหลักอย่าง การผลิต ก่อสร้าง และท่องเที่ยว ซึ่งเคยเป็นภาคส่วนสำคัญของกัมพูชา อย่างไรก็ตามภาคเกษตรกรรมกลับเติบโตอย่างต่อเนื่องนับจากช่วงหลังโควิด กล่าวโดยนาย Lawrence Lennon กรรมการผู้จัดการ CBRE กัมพูชา ซึ่งการเติบโตในภาคส่วนดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่ยังล้าหลังของกัมพูชา โดยยังมีหลายช่องทางในการพัฒนาภาคส่วนดังกล่าว ด้วยความคาดหวังที่จะลดการขาดดุลการค้าของกัมพูชาในภาพรวม ขณะที่รายงานของ Asian Development Outlook (ADO) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่เผยแพร่ในช่วงเดือนกันยายน 2023 ได้ระบุเสริมว่าภาคเกษตรกรรมยังคงเติบโตเล็กน้อยในปีนี้ แม้สภาพอากาศจะเลวร้ายและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานล่าสุดจากสมาคมผู้เพาะปลูกอ้อย กัมพูชา และกรมการยางพารา ซึ่งคาดการณ์ว่าทั้งสองภาคส่วนจะมีมูลค่ารวมขยายตัวขึ้นเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501405272/agro-industries-to-be-engine-of-future-gdp-growth/

กัมพูชาส่งออกแตะ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) เผยว่าการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.049 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1.2 เป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมหลักอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเดินทาง กลับมาขยายตัว โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกหลักของกัมพูชา คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 8.14 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่การส่งออกไปยังเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37.8 สู่มูลค่า 2.61 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.89 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงการส่งออกไปยังจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันร้อยละ 18.5 คิดเป็นมูลค่า 1.31 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวมีโรงงานและสถานประกอบการรวมกว่า 1,133 แห่ง ก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณกว่า 840,000 คน และด้วยความตกลง RCEP และ FTA ร่วมกับจีนและเกาหลีใต้ ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2022 มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมสินค้าของกัมพูชาและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501405278/cambodias-exports-touch-20-5-billion-in-jan-nov/