โครงการทางด่วนพนมเปญ-เบเวตของกัมพูชาอยู่ในระหว่างการศึกษา

การศึกษาการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมโยงเมืองหลวงกรุงพนมเปญไปยังเมืองเบเวต ที่ติดกับชายแดนของเวียดนามได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการประกาศโดยรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง เกี่ยวกับกรอบข้อตกลงที่ได้รับการลงนามระหว่างกระทรวงและบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ภายใต้การลงนามเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยการศึกษาจะใช้เวลาแปดเดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์และรายงานการศึกษาจะถูกส่งไปยังรัฐบาลที่จะทำหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนโครงการทางพิเศษนี้ ซึ่งการศึกษาครั้งแรกของโครงการทางด่วนพนมเปญ-เบเวตดำเนินการโดย JICA แต่รัฐบาลพบว่าโครงการอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป โดยทางด่วนสายแรกที่เชื่อมระหว่างพนมเปญกับจังหวัดชายฝั่งของพระสีหนุทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งการก่อสร้างทางพิเศษมีระยะทางมากกว่า 190 กิโลเมตร โดยมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2566

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50693876/phnom-penh-bavet-expressway-project-under-study

เสียมราฐเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมข้าวเพื่อความยั่งยืน

การประชุมสุดยอดด้านข้าวเพื่อความยั่งยืนครั้งแรกในกัมพูชาจัดขึ้นในจังหวัดเสียมราฐโดยมีตัวแทนจากสหกรณ์การเกษตร ผู้ผลิตข้าวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องจำนวน 180 คน ได้หารือเกี่ยวกับการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมข้าวภายในประเทศ โดยการประชุมจัดโดยสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF), Amru Rice และ บริษัท สหกรณ์การเกษตรกัมพูชา จำกัด (มหาชน) (CACC) โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงกัมพูชา ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีที่ปรึกษาอาวุโสของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ, ประธาน CACC และประธาน CRF เข้าร่วมด้วย ภายใต้หัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์การเกษตรในประเทศกัมพูชา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวรวมถึงการอภิปรายที่สำคัญในหัวข้อต่างๆ เช่นการสนับสนุนสหกรณ์ การเข้าถึงการเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและนวัตกรรมการเข้าถึงการเงินสำหรับเกษตรกรรายย่อยและวิธีการก้าวไปข้างหน้าในการสร้างห่วงโซ่คุณค่าข้าวอย่างยั่งยืน โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกข้าวสารประมาณ 620,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งประธานซีอาร์เอฟกล่าวว่ากัมพูชาตั้งเป้าส่งออกข้าวสารอย่างน้อยหนึ่งล้านตันในปี 2566

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50694140/siem-reap-hosts-first-sustainable-rice-summit

เอชแอนด์เอ็มประเมินผลกระทบจากการที่กัมพูชาจะถูกถอนสิทธิ์ประโยชน์ EBA

เอชแอนด์เอ็ม ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นในสวีเดนกล่าวว่าจะมีการประเมินผลกระทบทางธุรกิจจากคำแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่จะถอนสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือ EBA ของกัมพูชา โดย EC ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าต้องการให้รัฐสภาสหภาพยุโรปยกเลิกสถานะการค้า EBA ของกัมพูชาถึง 20% จากการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการละเมิดสิทธิแรงงานภายในประเทศ โดยในคำแถลงของ EC กล่าวว่าการถอนสิทธิทางภาษีบางส่วนที่ได้นำเสนอไปจะส่งผลเฉพาะกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและรองเท้า สินค้าด้านการท่องเที่ยวและน้ำตาล คิดเป็นจำนวนหนึ่งในห้าของการส่งออกของกัมพูชาประจำปีไปยังกลุ่ม ซึ่ง H&M ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศกัมพูชาต่อไปในทางบวกรวมถึงการลดความยากจนและเสริมสร้างสิทธิมนุษยชน ซึ่งบริษัทได้สร้างงานให้กับคนในกัมพูชาประมาณ 77,000 ตำแหน่ง โดยกล่าวว่าได้ผลักดันโครงการทางสังคมต่างๆ เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่และสภาพการทำงานของคนงานที่ผลิตเสื้อผ้าในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50692902/hm-ebas-recommended-partial-removal-will-hurt

LOLC กัมพูชารายงานถึงสินทรัพย์ที่มูลค่าแตะ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี่ที่แล้ว

LOLC กัมพูชาซึ่งเป็นสถาบันการเงินรายย่อยได้รายงานสินทรัพย์มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ เดือนธันวาคมปีที่แล้วตามรายงานประจำไตรมาสและรายปีที่ได้เผยแพร่ในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) โดยรายงานระบุว่าพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 779 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 จำนวนผู้กู้เพิ่มขึ้น 25% เป็น 294,152 ราย ในขณะที่อัตราส่วนความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม เพียง 0.61% นอกจากนี้ยังระบุว่ายอดเงินฝากของธนาคารมีสูงกว่า 448 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 95% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ฝากมากกว่า 336,000 รายเพิ่มขึ้น 86% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับทั้งพอร์ตโฟลิโอและยอดเงินฝากสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของตัวธนาคาร โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LOLC กัมพูชากล่าวว่าบริษัทยังได้ระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ ขยายเครือข่ายการดำเนินงานไปยัง 79 สาขาทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50692768/lolc-cambodia-reports-assets-exceeding-1-billion-last-year

อันดับด้านฐานะศูนย์กลางการขนส่งของกัมพูชายังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

การได้รับการจัดอันดับของกัมพูชาดีขึ้นเล็กน้อยในฝั่งของดัชนีระดับโลกของตลาดโลจิสติกส์ที่เกิดขึ้นใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับเมื่อเทียบกับการสำรวจเดียวกันในปีที่แล้วจากลำดับ 42 เป็น 41 จาก 50 ประเทศที่รวมอยู่ในการจัดลำดับ โดยการสำรวจจัดทำโดย Agility ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก เคยดำเนินการสำรวจครั้งแรกในปี 2551 และได้เผยแพร่ผลการวิจัยในทุกๆปี โดยการศึกษานี้เกี่ยวข้องกับประเทศที่ถูกพิจารณาว่าเป็นตลาดโลจิสติกส์ ในปีนี้กัมพูชาได้คะแนน 4.36 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน) ซึ่งอยู่ในอันดับเดียวกับยูกันดา โดยกัมพูชามีโอกาสในการขนส่งระหว่างประเทศดีที่สุด (4.46) ในขณะที่คะแนนต่ำสุดอยู่ที่ (4.19) ในบรรดา 50 ประเทศในการสำรวจกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 49 ในด้านโอกาสในการขนส่งภายในประเทศอันดับที่ 33 ด้านโอกาสด้านการขนส่งระหว่างประเทศและอันดับที่ 36 ในด้านพื้นฐานธุรกิจ ซึ่งมีการจัดอันดับตามปัจจัยสามประการ โอกาสในการขนส่งภายในประเทศ, โอกาสในการขนส่งระหว่างประเทศและปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50692512/cambodias-ranking-as-a-logistics-hub-remains-stable

รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าจัดเก็บภาษีให้ได้ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กรมสรรพากร (GDT) ประกาศว่ามีเป้าหมายที่จะรวบรวมรายได้จากภาษี 2,886 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้โดยในเดือนมกราคมมีการเก็บภาษีไปแล้วประมาณ 239 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งคิดเป็น 8.3% ของเป้าหมายประจำปีและเพิ่มขึ้น 14.75% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งผู้อำนวยการ GDT กล่าวว่าเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าหมายในปี 2563 กรมฯจะดำเนินการอย่างเข้มงวดและดำเนินการตามการปฏิรูปนโยบายของรัฐบาล โดยการจัดเก็บภาษีที่ดีขึ้นเกิดมาจากการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีใหม่ร่วมด้วย ท่ามกลางมาตรการที่ดำเนินการในปีนี้คือการหลีกเลี่ยงภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะ รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์และน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรัฐบาลมีรายได้ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนจากรายได้ที่มาจากภาษีและไม่ใช่ภาษีโดยระบุว่าประเทศสามารถประหยัดได้ 100 ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนจากการจัดเก็บภาษี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50692368/stricter-tax-collection-puts-2-9-billion-target-in-sight