เวียดนามคาดส่งออกข้าว 100,000 ตันไปอียู

จากการหารือของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ในประเด็น ‘การส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป’ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา คุณ Le Quoc Doanh รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ระบุว่าข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อผลผลิตทางการเกษตร การส่งออกข้าวจะมีศักยภาพสูงขึ้นภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ประกอบกับอียูจะให้โควตาข้าวของเวียดนาม 80,000 ตันต่อปี และเปิดเสรีการค้าข้าวหักอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าเวียดนามสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 100,000 ตันต่อปี ไปยังอียู ทั้งนี้ กรมการผลิต ระบุว่าอียูจะยกเว้นภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวจากเวียดนาม หลังจาก 3-5 ปี ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงมีความได้เปรียบการค้าเมื่อเทียบกับกัมพูชาและเมียนมา ที่ต้องจ่ายภาษี 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2563 และ 123 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2564

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/69841/vietnam-hopes-to-export-100-000-tonnes-of-rice

นักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานเข้าสู่เวียดนาม เหตุห่วงโซ่อุปทาน

การลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนามนั้น มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงดำเนินต่อไปอีก เนื่องจากนักลงทุนญี่ปุ่นมองว่าเวียดนามมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี โดยบริษัทญี่ปุ่น 15 รายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ คุณ Watanabe Nobuhiro กล่าวว่าบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งเข้าร่วมกับทาง HCMC Japanese Friendship Club (JCCH) แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจของผู้ประกอบการญี่ปุ่นต่อการทำธุรกิจในนครโฮจิมินห์ อีกทั้ง สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ระบุว่าสาเหตุดังกล่าวมาจากการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นในโฮจิมินห์สามารถจัดการกับปัญหาในการทำธุรกิจได้

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/japanese-investors-shifting-to-vietnam-to-diversify-supply-chain-24249.html

‘บั๊กนิญ’ มีรายได้จากการส่งออกกว่า 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ว่ามูลค่าการส่งออกของจังหวัดบั๊กนิญ (Bac Ninh) มากกว่า 20.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. ปี 2563 ในขณะที่ ยอดการพัฒนาและเงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สำนักงานรัฐบาลเพิ่งประกาศข้อสรุปจากรองนายกรัฐมนตรีจากการประชุมผู้นำในจังหวัด โดยเป้าหมายเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการผลิตและธุรกิจที่นำเข้า-ส่งออก อำนวยความสะดวกให้กับคนในท้องถิ่นและการเข้าถึงเงินทุนของผู้ประกอบการ รวมถึงเครดิต การเงิน ภาษี การดำเนินธุรกิจและการชำระเงินออนไลน์ เป็นต้น การเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐฯ สูงถึงร้อยละ 68 ลงไปยังจ.บั๊กนิญ ถือว่ามีอัตราการเบิกจ่ายสูงที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดดังกล่าวยังมีข้อบกพร้องอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม, สภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ โดยเฉพาะทางน้ำที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุง, การขาดแคลนแรงงานทักษะขั้นสูง การท่องเที่ยวและงานบริการที่ยังคงชะลอตัว

ที่มา : https://vnexplorer.net/bac-ninh-earns-over-usd20-billion-from-exports-a202091702.html

เวียดนามส่งออกข้าวไปยังแอฟริกา ‘เป็นที่น่าพอใจ’

การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดแอฟริกา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะประเทศแอลจีเรียและเซเนกัลที่คาดว่าจะบริโภคข้าวเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นอีก ส่วนใหญ่นิยมบริโภคข้าวหัก ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานการค้าในแอลจีเรีย ระบุว่าตลาดแอฟริกามีความต้องการบริโภคข้าวอยู่ในระดับสูง เป็นผลมาจากแรงงานชาวเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ว่าอุปสรรคจากการนำเข้าข้าวของแอฟริกาส่วนใหญ่เป็นปัญหาทางด้านการผลิตในท้องถิ่น รวมถึงผลผลิตที่ไม่เพียงพอ, ภัยธรรมชาติ, ความล้มเหลวทางการเมืองและโรคระบาด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันข้าวเวียดนามเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่งในตลาดแอฟริกา ได้แก่ อินเดีย, ไทย, ปากีสถาน, ทาจิกิสถาน, อุรุกวัยและจีน นอกจากนี้ ในปี 2562 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังเซเนกัล อยู่ที่ 96,000 ตัน ติดเป็นมูลค่า 32.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในง่ของปริมาณ และเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าในแง่ของมูลค่า

ที่มา : https://vnexplorer.net/vietnam-enjoys-boost-in-rice-exports-to-africa-a202091956.html

กัมพูชามีแผนเปิดประตูชายแดนกับเวียดนามอีกแห่ง

กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) ระบุว่ากำลังดำเนินเปิดประตูชายแดนอีกแห่งกับเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งตู้สินค้าข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆนี้ จากการประชุมระหว่างภาครัฐกับเอกชน กัมพูชาและญี่ปุ่น คุณ Nou Savath เลขาธิการกระทรวง กล่าวว่ากระทรวงโยธาธิการและขนส่ง มีแผนที่จะนำคณะทำงานรัฐมนตรี ทำการตรวจสอบประตูชายแดนอีกแห่งกับเวียดนาม สำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากประตูชายแดน ‘Bavet-Moc Bai’ คับคั่งอย่างมาก อีกทั้ง กัมพูชากำลังพิจารณาที่จะเปิดประตูชายแดนอีกแห่ง ‘Prey Vor-Binh Hiep’ เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินงานของศุลกากรและสถาบันที่เกี่ยวข้อง และลดความแออัดของชายแดน Bavet

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/cambodia-plans-another-intl-border-gate-with-vietnam-168978/

บั๊กนิญดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ 119 โครงการ ในช่วงเดือนม.ค.-สิ.ค.

สำนักงานสถิติประจำจังหวัด ระบุว่าจังหวัดบั๊กนิญ (ภาคเหนือ) มีโครงการลงทุนใหม่จากต่างชาติ 119 โครงการ ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 334.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติและในประเทศ ทางจ.บั๊กนิญ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ที่ประกอบไปด้วยการใช้ที่ดินน้อย, แรงงานจำนวนน้อย, อัตราการลงทุนที่อยู่ในระดับสูง, งบประมาณและเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งนี้ ในจำนวน 1,331 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมและแปรรูป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 83 ของยอดลงทุนทั้งหมด มาจากเกาหลีใต้ 1,205 โครงการ ตามมาด้วยจีน 112 โครงการและญี่ปุ่น 86 โครงการ นอกจากนั้น กลไกการให้สิทธิพิเศษและนโยบายของรัฐ ทำให้ทางจังหวัดดังกล่าวเสนอความคิดริเริ่ม เพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตอุตสาหกรรมและการลงทุน ณ ที่เดียว ผ่านการทำธุรกิจขนาดใหญ่ ได้แก่ ซัมซุง แคนนอนและฟ็อกซ์คอนน์

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/772036/bac-ninh-attracts-119-foreign-invested-projects-in-january-august.html

ราคาส่งออกข้าวของเวียดนาม แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกข้าวแตะ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางฝั่งปริมาณส่งออกข้าวรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ราคาข้าวหักของเวียดนามสูงถึง 480-490 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นับว่าสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2554 ขณะที่ ราคาข้าวจากอินเดียและไทย อยู่ที่ 383-389 และ 480-500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ตามลำดับ นอกจากนี้ สำนักข่าวเวียดนามอ้างอิงจากคุณเหงียน วัน ด่อง ผู้อำนวยการ บริษัท Viet Hung rice milling, Processing and Trading Company กล่าวว่าสาเหตุที่ราคาส่งออกข้าวเวียดนามอยู่ในระดับสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทไทยแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยเสียเปรียบการส่งออก อีกปัจจัยหนึ่ง คือ คุณภาพข้าวของเวียดนามที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/69811/vietnam-s-rice-export-prices-hit-nine-year-high.html