‘วีเอ็นจี’ บริษัทเทคยักษ์ใหญ่จากเวียดนาม ยกเลิกแผนเข้าสู่ตลาดโลก

จากรายงานทางการเงินของบริษัทวีเอ็นจี (VNG) เปิดเผยว่าบริษัทขาดทุนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 อยู่ที่ 291 พันล้านดอง นับเป็นการขาดทุนไตรมาสที่สามติดต่อกัน และหากพิจารณาทั้งปีจะเห็นได้ว่าบริษัทขาดทุนรวมกันทั้งสิ้น 756 พันล้านดอง รวมถึงการขาดทุนของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง ‘Tiki’ สูญเสียเงินกว่า 510 พันล้านดอง ถึงแม้ว่าทางบริษัทขาดทุนอย่างมาก แต่ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 10% จากธุรกิจหลักของบริษัทจากเกมส์ออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วนราว 75% ของรายได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทวีเอ็นจีได้วางแผนที่จะระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 จากการเสนอขายหุ้นออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และมีแผนจดทะเบียนในตลาด Nasdaq Global Market

อย่างไรก็ดี ต่อมาได้ขอแจ้งถอนการเสนอขายหุ้น IPO โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสาเหตุที่ถอนการเสนอขายดังกล่าวมาจากสถานะในปัจจุบันของตลาดหุ้นโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/tech-giant-vng-cancels-plan-to-enter-global-market-but-keeps-ambitious-goals-2247956.html

‘เวียดนาม’ เผยตลาดรถจักรยานยนต์อ่อนแอ ก่อนเทศกาลเต็ด

ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศช่วงเทศกาลเต็ด (ตรุษจีน) เผชิญกับสถานการณ์ที่ผิดปกติ โดยแทนที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า กลับกันผู้แทนจำหน่ายปรับลดราคาสินค้าพร้อมกัน เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะปรับลดราคาลง แต่สถานการณ์ของตลาดรถจักรยานยนต์ของเวียดนามยังคงอ่อนแอ

ทั้งนี้ คนวงในของอุตฯ คาดการณ์ว่าในปี 2567 ทั้งจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และยอดขายรถจักรยานยนต์ที่ลดลง ทำให้ธุรกิจต่างๆ ใช้กลยุทธ์การลดราคา เพื่อกระตุ้นการซื้อ

นอกจากนี้ จากข้อมูลสถิติพบว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2566 อยู่ที่ 2,516,212 คัน ลดลง 16.21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งแบรนด์ฮอนด้า (Honda) ยังคงมีสัดส่วนของยอดขายมากที่สุดกว่า 83% ของยอดขายทั้งหมดในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/domestic-motorcycle-market-sees-poor-demand-before-tet-2248076.html

‘เวียดนาม’ เผย ม.ค.67 โทรศัพท์สินค้าส่งออกอันดับ 1 ยอดโต 6.7%

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนในช่วงครึ่งแรกของเดือน ม.ค.67 มีมูลค่า 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโทรศัพท์ยังคงเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ในแง่ของมูลค่าการส่งออก รวมถึงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนในปี 2566 ทำรายได้สูงถึง 52.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 2 รองจากคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ในขณะเดียวกันตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/phone-exports-rank-top-in-1h-january.htm

‘นายกฯ’ เรียกร้องให้มีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตรของเวียดนาม

นายฝ่าม มิงห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ออกแถลงการณ์ที่จะมุ่งส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ เพื่อขับเคลื่อนการบริโภคและการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง โดยถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเกษตรกรรมและการพัฒนาชนบท

ทั้งนี้ บทบาทภาระดังกล่าว ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ได้รับทำหน้าที่สำคัญในการประสานงานกับกระทรวงและหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือโครงการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ ปรับปรุงคุณภาพและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าเกษตรเวียดนาม

นอกจากนี้ยังต้องร่วมมือกับท้องถิ่นในการตรวจสอบและพัฒนาศูนย์บริการโลจิสติกส์ให้มีความเหมาะสมกับสินค้าเกษตร ตลอดจนจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะผู้บริหารของรัฐฯ ภาคธุรกิจและสหกรณ์ในภาคเกษตรกรรม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pm-urges-logistics-connectivity-for-vietnamese-farm-produce/279364.vnp

‘คณะผู้แทน’ สำรวจความต้องการผู้บริโภคในช่วงเทศกาลเต็ต พุ่ง 20-30%

คณะผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และคณะกรรมการประชาชนของเทศบาล รายงานผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 5 ก.พ. พบว่าความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 20-30% ภายหลังเทศส่งเทพเจ้าเตาไฟ โดยซูเปอร์มาร์เก็ตและธุรกิจต่างๆ คาดการณ์ว่าความต้องการจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษญวน หรือเรียกเต็ต (Tet) และยังได้มีการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนลงนามสัญญาต่างๆ กับองค์กร เพื่อที่จะเพิ่มผลผลิตสินค้า โดนเฉพาะสินค้าจำเป็น อาหารและของชำ

นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาเข้าสู่การค้าดิจิทัลออนไลน์ ตั้งแต่การพัฒนาช่องทางการขายของออนไลน์ไปจนถึงการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงการให้บริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านและเชื่อมต่อไปยังเมืองและจังหวัดต่างๆ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/consumer-demand-up-20-30-in-run-up-to-tet-post1075927.vov

‘เวียดนาม’ กลายเป็นผู้นำเข้าผลผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินา

หนังสือพิมพ์ออนไลน์ชื่อดังของอาร์เจนตินา ‘Infobae’ และ ‘Acercando Naciones’ ได้อ้างข้อมูลจากตลาดสินค้าเกษตรอาร์เจนตินา พบว่าเวียดนามกลายมาเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดและผงถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินาในปีที่แล้ว มีปริมาณรวมสูงถึง 5.3 ล้านตัน มูลค่าราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่เวียดนามแซงหน้าจีนจนขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุด

นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติในปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่าอาร์เจนตินาที่เป็นผู้ส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์แปรรูปรายใหญ่ ส่งออกได้เพียง 56 ล้านตัน ลดลงเกินกว่า 37 ล้านตัน หรือประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 2565 ถือเป็นผลผลิตต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 สาเหตุมาจากภาวะแล้งที่รุนแรงและยืดเยื้อ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-becomes-biggest-importer-of-argentine-farm-produce/279298.vnp

‘เวียดนาม’ คู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ ปี 66

สมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KITA) เปิดเผยว่าการค้าระหว่างเกาหลีใต้และเวียดนาม มีมูลค่าสูงถึง 79.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ยอดการส่งออกหดตัว 12.3% มาอยู่ที่ 53.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าลดลง 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่าอยู่ที่ 25.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้ากับเกาหลีใต้ 27.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเวียดนามยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ แซงญี่ปุ่นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ สมาคมฯ ของเกาหลีใต้ ชี้ว่าทั้งการค้าและการส่งออกไปยังตลาดเวียดนามปรับตัวลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องมาจากการส่งออกชิปลดลง และยอดการจัดส่งเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ไปยังเวียดนามลดลง 21.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 12.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-roks-third-trade-partner-in-2023/279236.vnp