ผู้ประกอบการกังวลต้นทุนผลิตสูงอุปสรรคสำคัญของธุรกิจ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (REPORTON BUSINESS SENTIMENT INDEX)เดือนสิงหาคม 2565 ดัชนีความเชื่อมั่นทรงตัวอยู่ที่ 49.6 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับดีขึ้นมากแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อการลงทุนและการจ้างงานปรับลดลงเล็กน้อย สำหรับดัชนีฯ ภาคการผลิตยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 แต่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่มผลิตเหล็ก รวมถึงกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติกเป็นสำคัญ เนื่องจากความกังวลด้านต้นทุนลดลงตามราคาเหล็กและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการปรับเพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็งกดดันให้ความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องของธุรกิจยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต้นทุนการผลิตสูงยังคงเป็นอุปสรรคอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจแต่สัดส่วนของผู้ประกอบการที่กังวลด้านต้นทุนเริ่มลดลง ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่กังวลต่อกำลังซื้อในประเทศปรับเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้าปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปี จาก 4.8% ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ 4.5% ในเดือนนี้

ที่มา: https://www.naewna.com/business/677827

 

“ไทย-เวียดนาม” จับมือดันราคาข้าวตลาดโลก

สำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดเผยว่าไทยและเวียดนามเห็นด้วยที่จะร่วมมือกันในการยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่านับว่าเป็นครั้งแรกที่ไทยและเวียดนาม ตกลงร่วมมือกันเพื่อยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก โดยไทยและเวียดนามได้ริเริ่มในการเจรจาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีเป้าหมายตรงกันว่าเรื่องการปรับขึ้นราคาส่งออกข้าว เพื่อยกระดับอำนาจในตลาดโลกและเพิ่มรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ชี้ว่าทั้งสองประเทศมีสัดส่วนการผลิตข้าวประมาณ 10% ของผลผลิตทั่วโลก และราว 26% ของการส่งออกโลก

ที่มา : https://www.nasdaq.com/articles/thailand-vietnam-to-cooperate-in-raising-rice-price-in-global-

เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีทุนสำรองหนา-เศรษฐกิจแกร่ง

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค.65 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย การผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น การส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศ รายได้เกษตรกรขยายตัวต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตาม “เดือน ก.ค. 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยรวม 1.12 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ ขณะที่คนไทยท่องเที่ยวในประเทศ 16.7 ล้านคน ถือเป็นสัญญาณที่ดี ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจค่อยๆฟื้น ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค.65 สูงขึ้น 7.61% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.65 อยู่ที่ 61.1% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังมั่นคง สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ สิ้นเดือน ก.ค.65 สูงถึง 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 8.101 ล้านล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 36.82 บาทต่อเหรียญฯ) แต่ต้องติดตามความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และชาติอื่นๆ ที่อาจกระทบต่อภาคการผลิต การส่งออก และเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงความกังวลราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/feature/2485840

การค้าระหว่าง กัมพูชา-ไทย เติบโตกว่า 26%

ในช่วง 7 เดือนแรกของปี มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและไทยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 26.46 หรือคิดเป็นมูลค่า 2.781 พันล้านดอลลาร์ จากมูลค่า 2.199 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 559 ล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การส่งออกของไทยมายังกัมพูชามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.222 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.85 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สินค้าเกษตร ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากไทย ได้แก่ รถยนต์ เชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง ซึ่งกัมพูชายังคงขาดดุลการค้ากับไทยอยู่ที่มูลค่า 1.663 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเกือบ 4 เท่า ของมูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501139113/kingdom-thailand-trade-goes-up-over-26/

น้ำมันปาล์มขวดลดอีก 2-3 บาท แต่ผลิตภัณฑ์นมยังไม่ขึ้นราคา

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ราคาปาล์มขวดเริ่มทยอยลดลงตามต้นทุนแล้ว ส่วนกรณีที่ร้านสะดวกซื้อ ยังขายสูงถึงขวดละ 59-60 บาท น่าจะเป็นสินค้าสต๊อกเก่า สำหรับผลิตภัณฑ์นมจะปรับขึ้นราคาขายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขึ้นราคารับซื้อน้ำนมดิบกิโลกรัม (กก.) ละ 1.50 บาท มาเป็น กก.ละ 20.50 บาทหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตยื่น เรื่องขอปรับราคาเข้ามา แต่หากยื่นเข้ามาจะพิจารณาให้เป็นรายผู้ผลิตรายผลิตภัณฑ์ เพราะต้นทุนแต่ละรายไม่เท่ากัน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่หากพิจารณาแล้ว พบว่าต้นทุนสูงขึ้นเล็กน้อย จะขอความร่วมมือให้ตรึงราคาขายไว้ก่อน เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2484855

คาด! การพัฒนาถนนสาย NR67 ส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยว กัมพูชา-ไทย

การพัฒนาถนนแห่งชาติหมายเลข 67 (NR67) ซึ่งเชื่อมระหว่างกัมพูชาและไทย ในช่วงรอยต่อของอำเภอหลงแวง อุดรมีชัย และช่องสะงำ ของกัมพูชา โดยเชื่อมกับเขตอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนระหว่างกัน ตามรายงานของรัฐบาลกัมพูชาและไทย ที่ได้ทำการตกลงพัฒนาถนนสาย NR67 ด้านบางกอกโพสต์รายงานว่ารองโฆษกรัฐบาล ไตรศุลี ตัยศรานากุล กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีของไทยได้อนุมัติข้อเสนอเงินกู้ให้แก่กัมพูชาจำนวน 983 ล้านบาท เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 ส.ค.) เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างถนนเส้นนี้ นอกจากนี้ยังจะสร้างการเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกของประเทศไทย (EEC) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501138219/nr67-development-to-boost-cambodia-thailand-trade-tourism/

คนละครึ่งทาง! จับตา ‘พาณิชย์’ ไฟเขียว ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็น 7 บาท

ขณะนี้กรมการค้าภายใน อยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังจากที่ผู้ผลิตได้ทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาขาย เพราะต้นทุนการผลิตปรับขึ้นทั้งหมด ทั้งแป้งสาลี น้ำมันปาล์ม ค่าไฟ บรรจุภัณฑ์ ค่าขนส่ง ฯลฯ แต่กรมคงไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นเท่ากันหมดทุกราย ทุกยี่ห้อ เพราะต้นทุนของผู้ผลิตแต่ละรายไม่เท่ากัน และไม่ให้ปรับขึ้นได้ซองละ 2 บาทจากปัจจุบันซองละ 6 บาท เป็น 8 บาท เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยมากเกินไป แต่อาจจะให้ปรับขึ้นได้ไม่เกินซองละ 1 บาท จาก 6 บาท เป็น 7 บาท แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อต้นทุนการผลิตลดลง ผู้ผลิตจะต้องปรับลดราคาขายลงด้วย ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การปรับราคาจะไม่พิจารณาให้ขึ้นราคาได้เท่ากันทุกยี่ห้อ จะพิจารณาตามต้นทุนของผู้ผลิตทีละรายที่ได้ยื่นมา และกำลังเร่งรัดอยู่

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1389088/

 

 

นายกฯ พอใจกระทรวงพาณิชย์ ใช้กรอบ RCEP ดันส่งออกโต

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพอใจผลงานกระทรวงพาณิชย์ ที่ผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี ตามกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership Agreement: RCEP) ทั้งนี้ นับจากวันที่ RCEP มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 มกราคมที่ผ่านมา การค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2565) มีมูลค่ารวม 169,041 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปยังประเทศสมาชิก RCEP มูลค่า 78,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวได้ดี อาทิ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ กลุ่มประเภทสินค้าได้รับประโยชน์จากข้อตกลงนี้ มีการการส่งออกไปตลาดRCEP เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ น้ำตาลทราย (+145%) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (+19%) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป (+10%) และอาหารสัตว์เลี้ยง (+9%) กลุ่มสินค้าเกษตร อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (+14%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (+24%) ข้าว (+12%) และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า (+19%) เม็ดพลาสติก (+12%) และผลิตภัณฑ์ยาง (+3%) ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรเร่งศึกษาทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ทางการค้า อัตราภาษีศุลกากร กฎถิ่นกำเนิดสินค้า และวางแผนธุรกิจพร้อมพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาด RCEP

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/politics/1022200

รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้อง CP ALL ขยายการลงทุนภายในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) ขยายการลงทุนมายังกัมพูชา โดยเฉพาะโรงงานกระดาษและโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพราะเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาดกัมพูชา ซึ่งปัจจุบัน ซีพี ออลล์ ได้เปิดดำเนินการร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หลายสาขาในกรุงพนมเปญเมืองหลวงของกัมพูชา สะท้อนถึงเป้าหมายของ ซีพี ออลล์ ในการขยายกิจการเข้าสู่ตลาดอาเซียนที่กำลังเติบโต พร้อมตอกย้ำจุดแข็งในการส่งเสริมการค้าและบริการระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยปัจจุบันการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยแตะที่มูลค่า 1.174 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501133961/govt-asks-cp-all-plc-to-invest-in-kingdom/

หอการค้าชี้รับได้ขึ้นค่าแรง 5-8% เติมเงินให้คนรายได้น้อยสู้ของแพง ย้ำชัดห้ามปรับราคาเดียว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงแรงงานเตรียมปรับอัตราค่าแรงงานเพิ่ม 5-8% ซึ่งหอการค้าไทยเห็นด้วย เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อสูง ถ้าไม่ปรับค่าแรง และสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อแรงงานที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบมาก แต่สิ่งที่ไม่เห็นด้วย คือ การปรับค่าแรงงานเป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงต้องผ่านคณะกรรมการไตรภาคีของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด และที่ผ่านมาหอการค้าไทยพยายามผลักดันให้รัฐออกมาตรการเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น คนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งเป็นรูปทรงที่ดีที่ทำมาตรการในช่วงเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น และมาตรการช่วยดูแลส่วนที่เป็นแรงงาน หากไม่เข้าไปดูแลส่วนนี้จะเกิดปัญหาต่อสังคม

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1338687/