EIB ได้รับเงินสนับสนุน 12.7 ล้านยูโรสำหรับโรงผลิตน้ำประปาในบาเค็งประเทศกัมพูชา

ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรปได้รับเงินสนับสนุนจากสหภาพยุโรป 12.7 ล้านยูโร สำหรับการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาในบาเค็งและเครือข่ายการจ่ายน้ำ 500 กม. ในเมืองหลวงของกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ โดยโครงสร้างพื้นฐานนี้จะนำน้ำดื่มที่ปลอดภัยและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนกว่า 700,000 คน จากชุมชนที่ยากจนที่สุดในเมือง เป็นการลงทุนระยะยาวในความยืดหยุ่นของประเทศต่อการแพร่ระบาดของโรคเช่น Covid-19 เพราะให้การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบรรเทาวิกฤติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเสริมการลงทุนก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่าราว 185 ล้านยูโรจากธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) และ Agence Française de Développement (AFD) ซึ่งการผสมผสานของ EIB, AFD และการจัดหาเงินทุนของสหภาพยุโรปจะให้น้ำดื่มที่ผ่านการบำบัดแล้วไปยังพนมเปญที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยความต้องการน้ำประปาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากความต้องการในปัจจุบันภายในปี 2573

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/eib-secures-eur-12-7m-grant-for-bakheng-water-treatment-plant-in-cambodia-164271/

Covid-19 ส่งผลให้ภาคการผลิตน้ำมันของกัมพูชาชะงัก

การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัส Covid-19 คาดว่าจะชะลอการพัฒนาของแหล่งน้ำมันอัปสรา ซึ่งตั้งอยู่ที่แปลง A ของฝั่งกัมพูชาของลุ่มน้ำเขมรในอ่าวไทย โดยได้รับการพัฒนาโดย KrisEnergy Ltd. บริษัทจากทางสิงคโปร์ ซึ่งกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกล่าวว่าโรคระบาดทั่วโลกกำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ปัจจุบัน บริษัท ยังคงพัฒนาโครงการอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงทำงานหนักเพื่อให้งานสำเร็จ แต่มันยากสำหรับบริษัทเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 แม้แต่การส่งช่างไปยังการก่อสร้างแพลตฟอร์มขั้นต่ำก็พิสูจน์ให้เห็นได้ยากและการดำเนินงานในไซต์ก็หยุดชะงักลง

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/virus-puts-cambodia-oil-production-into-question-164258/

รถไฟลาว จีนบรรลุเป้าหมายในการก่อสร้าง

การก่อสร้างทางรถไฟลาว – ​​จีนได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2559 และมีเป้าหมายจะแล้วเสร็จในปลายปี 2563 แต่มีความกังวลจากความคืบหน้าของโครงการที่ไม่น่าพอใจ จากสถานการณ์การระบาดของโรคระบาด COVID-19  อย่างไรก็ตามรัฐบาลสปป.ลาวมั่นใจว่างานก่อสร้างโดยรวมของรถไฟลาว – ​​จีนจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ บริษัท รถไฟลาว – ​​จีน จำกัดที่เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างดังกล่าวจี้แจ้งว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่มีความคล่องตัวมากนักในการก่อสร้างทำให้อาจมีการล่าช้ากว่ากำหนด แต่อย่างไรก็ตามในวันที่7 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการก่อสร้างกับทางรัฐบาลสปป.ลาวทำให้ในขณะนี้การก่อสร้างสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น และจะเร่งให้ทันตามกำหนดการส่งมอบแก่รัฐบาลสปป.ลาว รถไฟขบวนนี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศจีนและระบบเทคนิคทั้งหมดของจีนโดยความเร็วจะสูงถึง 160 กม. / ชม. ซึ่งเป็นรถไฟไฟฟ้าที่ขนส่งสินค้าและผู้โดยสารขนส่งสินค้าด้วยกัน เป็นประโยชน์ต่อการส่ออกของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวไปด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/13/78008/

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีนยังคงมีการก่อสร้างในสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19

แรงงานสปป.ลาวกว่า 30 คน กำลังก่อสร้างโครงการรถไฟลาว-จีนที่เกือบจะแล้วเสร็จซึ่งจะเชื่อมโยงสปป.ลาวกับประเทศจีน แต่จากการระบาดCOVID-19 ทำให้นายจ้างผู้รับเหมาที่เป็นชาวจีนต้องกลับประเทศทำให้แรงงานก่อสร้างได้เงินเดือนล่าช้าพวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับการได้เงินเดือนที่ล่าช้า ภาคการก่อสร้างเป็นส่วนที่รัฐบาลออกคำสั่งให้จำกัดจำนวนคนงานและกำหนดให้คนงานที่ไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทำให้อุตสาหกรรมบางแห่งหยุดทำงานอย่างไรก็ตามภาคการก่อสร้างได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปแม้ว่าจะมีคนงานน้อยลงโครงการดังกล่าวขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ 90% ได้รับการคาดการณ์ว่าจะทำให้ภาคธุรกิจลดต้นทุนการส่งออกได้ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/laos/railway-workers-04212020175011.html

ก่อสร้างหดตัวเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

สหพันธ์ผู้ประกอบการก่อสร้างของเมียนมา (MCEF) ให้ข้อมูลว่าการก่อสร้างเมียนมาชะลอตัวลงราว 30% เนื่องจากการขาดแคลนวัสดุก่อสร้างที่นำเข้าและบางส่วนได้หยุดชั่วคราวเนื่องจากปัญหากระแสเงินสด ประมาณ 70%  ของโครงการยังคงทำงานตามปกติแต่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายนัก จากผลกระทบของการระบาด COVID-19 โครงการก่อสร้างต้องหยุดลงหากรัฐบาลเรียกร้องให้มีการหยุดโครงการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส คนงานได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเกิดของพวกเขาหากพวกเขาต้องการและโครงการก่อสร้างดำเนินงานไปบางส่วน เพื่อรักษางานและเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/construction-contraction-due-virus-outbreak.html

นายกฮุนเซนประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ National Road 10

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้เปิดเผยแผนการสำหรับการก่อสร้างทางหลวงเส้นใหม่จากพระตะบองไปยังเกาะกง โดยนายกฮุนเซนได้กล่าวในพิธีเปิด National Road 55 ทางหลวงที่เพิ่งสร้างเสร็จในจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางชายแดนของไทย หากเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วเส้นทางยุทธศาสตร์จะสร้างเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญระหว่างกัมพูชาและไทย โดยหนึ่งในจุดประสงค์คือการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคและโลก จะช่วยอำนวยความสะดวกในบรรยากาศการลงทุนและปรับปรุงการค้าการท่องเที่ยว รวมถึงความร่วมมือข้ามพรมแดนในขณะเดียวกันก็จะสร้างงานและส่งเสริมสวัสดิการทางสังคมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จะพบว่าการค้าระหว่างกัมพูชาและไทยเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2562 เป็น 9.4 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 โดยเมื่อปีที่แล้วการส่งออกของกัมพูชามายังประเทศไทยมีมูลค่า 2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 195% เมื่อเทียบเป็นรายปีในขณะที่มูลค่าการนำเข้าจากไทยอยู่ที่ 7.14 พันล้านเหรียญสหรัฐลดลง 6%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50699905/pm-announces-new-national-road-10

สมาร์ทคอนกรีตโตรับอีอีซี คาดปี 63 ก่อสร้างขยายตัว

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2563 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี จากนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า โครงการเมกะโปรเจค งานโครงการก่อสร้างภาครัฐ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น สำหรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ บริษัทมีแผนเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งมุ่งเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline ) เพื่อกระตุ้นยอดขาย และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ส่วนการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV บริษัทมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยมีกระแสตอบรับที่ดี นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ 490 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% นอกจากนี้ ด้านผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2562 มีรายได้รวม 124.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.90 ล้านบาท หรือ 25.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 99.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 2.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 867.53% โดยผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาของโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐ และโครงการก่อสร้างภาคเอกชน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/866674?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=economic

สปป.ลาวเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการเมืองอัจฉริยะ

รัฐบาลสปป.ลาวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ‘Amata Smart and Eco City’ได้ในปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมมือระหว่างรัฐบาลสปป.ลาวและบริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พื้นที่โครงการครอบคลุม 70 ตารางกิโลเมตรภายใต้ข้อตกลงบริษัทจะได้รับสัมปทานที่ดินในการพัฒนาเมืองนาหม้อในแขวงอุดมไชยและเมืองหลวงน้ำทาในแขวงหลวงน้ำทาให้เป็นเมืองอัจฉริยะและศูนย์กลางโลจิสติกส์ ซึ่งรัฐบาลสปป.ลาวเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสอดคล้องกับทิศทางการส่งเสริมการลงทุนการผลิตและการพัฒนาในประเทศตามเส้นทางรถไฟลาว – ​​จีน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมและสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนในท้องถิ่นรวมถึงการได้รับประโยชน์จากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในโครงการรวมถึงการดึงดูดนักลงทุนสปป.ลาวและชาวต่างชาติเข้าร่วมในโครงการพัฒนา เสริมสร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคตของสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-review-progress-smart-city-scheme-112388

การสร้างสะพานกว่า 190 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ

บริษัท Robust Goal แจ้งว่าการสร้างสะพานกว่า 190 ใน 200 แห่งบนถนนเมะทีลา-กะลอ โดยใช้แรงงานและเครื่องจักรจำนวนมากเพื่อสร้างสะพานที่เหลือให้เสร็จสิ้น บริษัทได้รับอนุญาตให้สร้างถนนเมะทีลา-กะลอ-ตองยี ภายใต้ข้อตกลง 40 ปีกับระบบก่อสร้างแบบ BOT และจะมีพิธีเปิดถนนกะลอ-ตอง ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ถนนยาวประมาณ 500 ไมล์ผ่านเมะทีลา, กะลอ, ตองยี, Hopone, โลเชม, Nantsan, Takaw, เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก เหลือเพียงสะพาน 6 จาก 200 ที่สร้างขึ้นในส่วนของถนนและสะพานที่ใหญ่ที่สุดที่เหลือเพื่อสร้างเป็นสะพานยาว 40 เมตรใกล้หมู่บ้านมาเกว ค่าใช้จ่ายของถนนยาวหนึ่งไมล์มีมากกว่า 1.7 พันล้านจัต และหากมีโค้งมากก็จะมีค่าใช้จ่ายขึ้นสูงถึง 2 พันล้านจัตต่อไมล์

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/over-190-bridges-build-in-meiktila-kalaw-road

รถไฟสปป.ลาว จีนดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว 78%

การก่อสร้างทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนระยะทาง 414 กม. จากชายแดนจีนไปยังนครหลวงเวียงจันทน์กำลังดำเนินไปด้วยดีและตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 78.2%  รักษาการหัวหน้าหัวหน้าคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนภายใต้กระทรวงโยธาธิการและขนส่งกล่าวว่าเมื่อโครงสร้างหลักทั้งหมดเสร็จ ขั้นตอนต่อไปจะทำการติดตั้งรางไฟฟ้า และระบบการจัดการและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการทางรถไฟ อย่างไรก็ตามโครงการจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาหรือไม่ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานที่ก่อสร้างเพื่อให้ผู้ดำเนินโครงการสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้  ขณะนี้รัฐบาลได้ให้บริการพื้นที่ก่อสร้างที่จำเป็น 98.5% และมีเพียง 2% หรือ 11 แห่งทั้งที่เป็นขนาดเล็กและใหญ่ที่ยังไม่ได้ซื้อ ซึ่งพื้นที่ในหมู่บ้านเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับการรถไฟ แต่กระบวนการชดเชยนั้นทำได้ยากเพราะบางคนที่ได้รับผลกระทบไม่เห็นด้วยกับหลักการของการชดเชยที่เสนอ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-china-railway-78-percent-complete-108043