‘พาณิชย์’ ตรึงราคาไก่สดห้างค้าปลีก กก.ละ 60-75 บาท ดีเดย์เริ่ม 18 ม.ค.

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย รายใหญ่ ห้างค้าปลีกค้าส่ง สมาคมตลาดสดแห่งประเทศไทย กรมปศุสัตว์ และสมาคมที่เกี่นวข้อง เห็นตรงกันที่จะตรึงราคาจำหน่ายปลีก ณ ห้างค้าปลีกค้างส่ง ได้แก่ บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส ให้ไก่สดรวมเครื่องใน, ไก่สดไม่รวมเครื่องใน ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม น่องติดสะโพก ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม น่อง, สะโพก ราคา 65-70 บาทต่อกิโลกรัม เนื้ออก ราคา 70-75 บาทต่อกิโลกรัม เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/675931/

รถโมบายขายสินค้าราคาถูก ช่วย ชาวเมียนมา ช่วงโควิด-19 ระบาด

สมาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา (UMFCCI) เผย รถโมบายขายสินค้าสำหรับตลาดเคลื่อนที่ราคาได้กลับมาให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 7 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ในห้าเขต อาทิ ดาลา เซอิคยี คะนองโต ทวันไต ไคเมียนดีน และคามายุต เพื่อลดความแออัดในการไปซื้อสินค้าที่ตลาดในช่วงการระบาดของ COVID-19 และลดค่าครองชีพของชาวเมียนมา โดยผู้บริโภคสามารถซื้อข้าวสารได้ในราคา 1,000 จัต (สำหรับข้าวคุณภาพต่ำ) และ 1,700 จัต (สำหรับพันธุ์ ปาว ซาน) และน้ำมันพืชอยู่ที่ 1,850 จัตต่อขวด เป็นต้น แผนการตลาดเคลื่อนจะดำเนินการที่ไปสี่เขตของย่างกุ้ง โดยจะอัปเดตการขายรายวันผ่านเพจ Facebook และแผ่นป้ายไวนิลในเขตเมืองย่างกุ้งเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mobile-market-trucks-offer-food-at-fair-prices/#article-title

สุดช้ำ ค่าครองชีพพุ่งอีก ผู้เลี้ยงไก่ไข่ แจ้งขึ้นราคาไข่คละ หน้าฟาร์ม ฟอง 3 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ ได้ทำหนังสือแจ้งสมาชิก  ปรับขึ้นราคาแนะนำไข่ไก่คละ หน้าฟาร์ม เป็นฟองละ 3.00 บาท  มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.65 เป็นต้นไป และหากมีการเปลี่ยนแปลงราคา สมาคมจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยจากสอบถามผู้เลี้ยงสาเหตุที่ปรับขึ้นราคาไข่ไก่ฟองละ 20 สตางค์ จาก 2.80 บาท เป็น 3 บาท เนื่องจากประสบปัญหาต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาอาหารสัตว์ทำให้เกษตรกรแบกรับภาระต้นทุนไว้ไม่ไหว

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/news/650626/

เศรษฐกิจไทยยังหดตัวต่อเนื่องไตรมาสที่ 5

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/64 หดตัวที่ -2.6% น้อยกว่าที่คาด -3.3% ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่การที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้ยังคงส่งผลกระทบต่อการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก ทั้งนี้ได้ประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่ 1.8% จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูง ทำให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: https://www.posttoday.com/finance-stock/news/653682

ข้อมูลด้านค่าครองชีพภายในประเทศกัมพูชาขัดกับความเชื่อมั่นในท้องถิ่น

แรงงานในพื้นที่กล่าวว่ากำลังประสบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต่างจากรายงานด้านราคาสินค้าจำพวกอาหาร ค่าขนส่ง และค่ารักษาพยาบาล ที่มีรายงานว่ายังคงมีเสถียรภาพ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างต่ำประมาณร้อยละ 2 ต่อปีจนถึงปี 2022 เช่นเดียวกับรายงานราคาอาหารล่าสุดของ World Food Programme สรุปว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ถึงเดือนสิงหาคม 2020 ในกัมพูชาราคาอาหารยังคงค่อนข้างคงที่สำหรับสินค้าอาหารหลักส่วนใหญ่ ซึ่ง COVID-19 และผลจากการเลิกจ้างแรงงานในหลายภาคส่วนส่งผลทำให้อุปสงค์ภายในประเทศลดลงร่วมด้วย โดยนักวิเคราะห์เศรษฐกิจกล่าวว่าระดับเงินเฟ้อควรอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 0 ถึง 5 และควรอยู่ในช่วงร้อยละ 2 ถึง 3 ดังนั้นค่าครองชีพในกัมพูชายังคงอยู่ภายใต้การควบคุม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767708/cost-of-living-data-goes-against-local-sentiment/

ก.พาณิชย์ จัดมหกรรมการลดราคาสูงสุด 70% ส่งท้ายปีเป็นของขวัญประชาชน

ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กระทรวงฯ ประสานงานผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการทั่วประเทศ จัดลดราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน เป็นการลดตั้งแต่ 10-70% ตามนโยบายลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ทั้งนี้ มอบนโยบายว่าในวันที่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 09.00 ณ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะมีภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการลดราคาจำหน่ายสินค้าช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าร่วมด้วย สำหรับภาคเอกชนที่เข้าร่วมงานลดราคาจำหน่ายสินค้า ได้แก่ ห้างค้าปลีก ค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่ง ค้าปลีกท้องถิ่น รวมกว่า 20,000 แห่ง จำนวนที่ลดสูงสุดถึง 70% อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย วัสดุก่อสร้าง เครื่องนอน เครื่องสำอาง เครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการยางรถยนตร์อีก 8 ราย เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ โดยลดราคาจำหน่ายสินค้าประเภทยางรถยนต์-อุปกรณ์อื่นๆ และลดค่าบริการลงถึง 10-30% โดยมหกรรมการลดราคา จะเริ่มระหว่างวันที่ 14 ธ.ค. 2562 ถึง 12 ม.ค. 2563 รวม 30 วัน

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/1721791