‘ซาวิลส์’ ชี้โอกาสของเวียดนามที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เหตุนักลงทุนเล็งหาศูนย์การผลิตด้วยต้นทุนต่ำ

บริษัท ซาวิลส์ เอเชีย แปซิฟิก ระบุว่าประเทศต่างๆ ได้แก่ เวียดนามและอินโดนีเซีย อาจได้รับประโยชน์ หากบริษัทเริ่มที่จะมองหาศูนย์การผลิตด้วยต้นทุนต่ำในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นและต้นทุนการผลิตต่ำ โดยหลังจาก 3 ปีที่เกิดการหลุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลก ดูเหมือนว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สังเกตได้จากต้นทุนการขนส่งสินค้าทางทะเลหรือทางอากาศส่วนใหญ่กลับสู่ช่วงก่อนโควิด-19 ตลอดจนเรือตู้คอนเทนเนอร์ไม่มีคิวรอเข้าท่าเรือหลัก ทั้งนี้ Jack Harkness ผู้อำนวยการฝ่ายบริการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคของบริษัท กล่าวว่าต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นในจีน บ่งชี้ให้เห็นว่าไม่คุ้มค่ากับการดำเนินธุรกิจ และยังแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ มองหาแหล่งการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-could-benefit-as-investors-look-for-low-cost-production-centres-savills-post1032775.vov

วิกฤตเมียนมาเป็นวาระสำคัญในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 11 กรกฏาคม 2566 กล่าวว่า การประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดขึ้น 2 วันในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศมีวาระการประชุมเกี่ยวกับพื้นที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์, ปัญหาเมียนมา และจะตามมาด้วยการหารือร่วมกับตัวแทนจากจีน, สหรัฐอเมริกาวอชิงตัน และชาติมหาอำนาจอื่นๆ

ที่มา : https://www.thaipost.net/abroad-news/412234/

อินโดนีเซียจ่อใช้ประโยชน์จาก “ท่าบก-ท่านาแล้ง” ในสปป.ลาว

ผู้พัฒนาท่าบก-ท่านาแล้ง กล่าวถึงคณะผู้แทนของอินโดนีเซียว่า อินโดนีเซียสามารถเชื่อมต่อกับตลาดจีนและยุโรปทางบก ด้วยการขนส่งทางรถไฟผ่าน สปป.ลาว ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน สปป.ลาว และไทย เริ่มใช้บริการขนส่งทางรถไฟแล้วด้วยความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับการขนส่งในช่วงก่อนมีทางรถไฟสายดังกล่าว ด้าน Tee Chee Seng รองประธาน บริษัท Vientiane Logistics Park Co., Ltd. ผู้พัฒนาท่าบก กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายของท่าบกได้เชื่อมไปถึงมาเลเซียและสิงคโปร์แล้ว และในอนาคตอันใกล้ตั้งใจจะเชื่อมไปถึงอินโดนีเซีย เพื่อเอื้อต่อภาคการขนส่งระหว่างประเทศ โดยท่าบกถือเป็นประตูการค้าแห่งแรกและสำคัญที่สุดระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2021 ด้วยมูลค่าการลงทุนก่อสร้างรวม 727 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยศูนย์โลจิสติกส์ 7 โซน ในการอำนวยความสะดวกแก่ภาคการขนส่ง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Thanleng106.php

“เวียดนาม-อินโดนีเซีย” ตั้งเป้าการค้าปี 71 แตะ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายโจโค วิโดโด (Joko Widodo) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้หารือกับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ที่จัดขึ้นในเมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนิเซีย โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าที่จะบรรลุเป้าหมายกว่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 ตลอดจนมีการตกลงทวิภาคีด้านการลงทุน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีการลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ ตามข้อมูลการค้าระหว่างอินโดนีเซียและเวียดนาม มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 13.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เพิ่มขึ้นราว 11.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://jakartaglobe.id/business/indonesia-vietnam-aim-for-15-billion-trade-by-2028

การค้าระหว่าง กัมพูชา-อินโดนีเซีย ขยายตัว 43% ในช่วง Q1

การค้าระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซียขยายตัวกว่าร้อยละ 43.2 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 304 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งปริมาณการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ คิดเป็นการส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังอินโดนีเซียมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันการนำเข้าของกัมพูชาจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 คิดเป็นมูลค่า 292 ล้านดอลลาร์ โดยในปัจจุบันกัมพูชาและอินโดนีเซียยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501277914/43-jump-in-trade-between-cambodia-indonesia-in-q1/

กัมพูชา-อินโดนีเซีย สร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน

กัมพูชาและอินโดนีเซีย จัดลำดับความสำคัญ 5 ด้าน เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของภาคการท่องเที่ยวระหว่างกัน กล่าวโดย Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา หลังการพูดคุยกับ Sandiaga Salahudin Uno รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีภาคการท่องเที่ยว G20 โดยได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซีย ซึ่งลงนามระหว่างการประชุม ASEAN Tourism Forum 2022 ณ จังหวัดสีหนุวิลล์ โดยทั้งสองประเทศวางแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกันในการเริ่มต้น ซึ่งในช่วงเดือน มกราคม-มิถุนายน 2022 การส่งออกของอินโดนีเซียไปยังกัมพูชาอยู่ที่ 367.54 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.55 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าของอินโดนีเซียจากกัมพูชาอยู่ที่ 23.15 ล้านดอลลาร์ ลดลงประมาณร้อยละ 1.97 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของอินโดนีเซียมายังกัมพูชา ได้แก่ ถ่านหิน ยาสูบ เครื่องจักร ยา สินค้าอุปโภคบริโภค และกระดาษเป็นหลัก ส่วนการนำเข้าของอินโดนีเซียจากกัมพูชาได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า ยาง และข้าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501158890/cambodia-indonesia-to-boost-economic-cooperation/

สปป.ลาว – อินโดนีเซีย ร่วม MOU เพื่อพัฒนาโรงงานไฟฟ้า

บริษัท PT Pembangkitan Jawa-Bali (PJB) ของอินโดนีเซียและ บริษัท Electricite Du Laos (EDL) จากสปป.ลาว ได้ร่วมลงนามในความร่วมมือ (MOU) ด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าร่วมกัน ซึ่งการลงนามดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำสปป.ลาว ร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ ภายใต้ MOU ดังกล่าว จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการ บำรุงรักษา ซ่อมแซมเพื่อการบริการ และเพื่อจัดหาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าสำหรับสปป.ลาวและประเทศใกล้เคียง

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten147_Lao_Indonesia_y22.php

กัมพูชา-อินโดนีเซีย ลงนาม MoU กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวระหว่างกัน

ในระหว่างการประชุม ASEAN Tourism Forum 2022 ที่สีหนุวิลล์ Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา และ Sandiaga Salahudin Uno รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและนวัตกรรมของอินโดนีเซีย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อเที่ยวบินตรงระหว่างทั้งสองประเทศ ในการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวระหว่างกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังเน้นที่ 1.การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการจัดงานแสดงการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ 2.แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางแผนและจัดการสถานที่ท่องเที่ยว 3.ส่งเสริมภาคเอกชนให้ลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 4.ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้เชี่ยวชาญ 5.ส่งเสริมความร่วมมือในการจัดงานท่องเที่ยว งานประชุม และในด้านอื่นๆ และ 6. ส่งเสริมการเชื่อมต่อเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501009619/cambodia-indonesia-sign-mou-to-boost-tourism-connect-direct-flights-between-the-two-countries/

กัมพูชาเรียกร้องอินโดนีเซียเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกัน

กัมพูชาได้เรียกร้องให้อินโดนีเซียดำเนินการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศกับกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนดแล้ว โดย Sok Sangvar ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวในงาน Famtrip ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่ดีระหว่างสองประเทศในด้านการเจรจาต่อรอง การค้า การท่องเที่ยว และอื่นๆ ในหัวข้อ “Exploring the Land of Sunda” ที่สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียในกรุงพนมเปญ โดยในเดือนมิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา Citlink ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสายการบินได้เพิ่มเที่ยวบินระหว่างจาการ์ตาและพนมเปญ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่เที่ยวบินดังกล่าวถูกระงับไปในเดือนเมษายน 2020 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และปัจจัยด้านน้ำหนักบรรทุก โดยเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียให้คำมั่นที่จะผสานกับทางการอินโดนีเซียในการติดต่อขอเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศให้กลับมาให้บริการอีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50980346/cambodia-urges-indonesia-to-resume-direct-flights/

Grab จับมือ Hyundai นำ ‘รถไฟฟ้า’ มาให้เช่า เริ่มนำร่องที่Singaporeในปี 2021 ก่อนขยายไปอินโดนีเซียและเวียดนาม

Grab และ Hyundai Motor Group ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เร่งผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์ Mobility Service อย่างเต็มรูปแบบ จากผลสำรวจของคนขับที่เช่ารถยนต์ไฟฟ้าจาก GrabRentals ในปี 2020 พบว่า ปัญหาของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่คนขับ Grab และพันธมิตรเดลิเวอรีต้องเผชิญคือ ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สูง สถานีให้บริการชาร์จมีไม่เพียงพอ และใช้เวลานานในการชาร์จแต่ละครั้ง ดังนั้น เพื่อลดอุปสรรคข้างต้นทาง Grab และบริษัทในเครือ Hyundai จะมีการพัฒนาโมเดลธุรกิจ EV แบบใหม่ เช่น การเช่ารถยนต์ไฟฟ้า และการจัดหาเงินทุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งมีแผนเปิดตัวออกมาภายในปีนี้ โดยจะเริ่มที่สิงคโปร์เป็นที่แรก ตามมาด้วยอินโดนีเซีย และเวียดนาม

ที่มา : https://thestandard.co/grab-hyundai-electric-cars-for-rent/