รัฐบาลเวียดนามยังคงสนับสนุนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง
จากคำแถลงการณ์ในที่ประชุมผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมของรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในประเทศ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่ากองทุนเสถียรภาพราคาเชื้อเพลิง ช่วยให้รัฐบาลกลางเวียดนามสามารถบริหารราคาเชื้อเพลิงในประเทศได้ สำหรับอนาคตเร็วๆนี้ โดยผู้ค้าน้ำมันและกลุ่มบริษัทขนส่งได้โต้แย้งถึงกองทุนว่าการบริหารกองทุนนั้น จะต้องคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญที่สุดและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จะไม่ส่งผลประโยชน์หรือได้รับประโยชน์ที่น้อยมากทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค รวมไปถึงจะสร้างช่องว่างระหว่างราคาเชื้อเพลิงในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการฉ้อโกงและการลักลอบขนส่งข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงใช้กองทุนเป็นเครื่องมือในการบริหารราคาน้ำมันในประเทศ เพื่อให้สามารถควบคุมเงินเฟ้อและสร้างความมั่งคงทางเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ ตามรายงานของกระทรวง ระบุว่ากองทุนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายราว 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาเชื้อเพลิง ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2562
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/state-to-continue-support-for-fuel-price-fund-407614.vov
ภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามรายงานของสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มียอดเกินดุลการค้า 16.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ตัวเลขมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดทั้งปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.55 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อยู่ที่ประมาณ 22.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่ส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ที่สุดทั่วโลก รองจากจีนและอินเดียเท่านั้น รวมถึงยังสามารถสร้างงานได้อีกประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของกำลังแรงงานทั้งหมดของอุตสาหกรรม
GDP เวียดนามขยายตัว 25.4% ต่อปี ในช่วงปี 2010-2017 หลังจากปรับปรุงวิธีนับใหม่
จากคำแถลงการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ว่าหลังจากการปรับปรุงวิธีการวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศใหม่ ส่งผลให้ GDP เวียดนามขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 25.4 ต่อปี ในช่วงปี 2010-2017 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการปรับขนาด GDP เพื่อให้สะท้อนถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและประสิทธิภาพของการใช้นโยบายเศรษฐกิจ รวมไปถึงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจ ทั้งด้านภาคการเกษตรปรับขนาดลดลง ส่วนภาคอุตสาหกรรมและการบริการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ จากตัวเลข GDP ที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบรวมกัน รวมไปถึงการปรับปรุงของโครงสร้างเศรษฐกิจ และวิธีการการวัดที่ทันสมัย (Methodology)
เวียดนามอยู่อันดับ 2 ของการลงทุนธุรกิจ FinTech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากรายงาน ‘FinTech in ASEAN’ ที่เผยแพร่โดยธนาคารยูโอบี (UOB) เปิดเผยว่าเวียดนามดึงดูดเงินทุนในธุรกิจฟินเทค คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36 ของการลงทุนรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงดึงดูดเงินทุนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 0.4 ในปีที่แล้ว โดยสิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่ดึงดูดเงินทุนจากทั่วโลกมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ส่วนประเทศอินโดนีเซีย (12%) ไทย และมาเลเซีย มีสัดส่วนน้อยกว่า 2 ของการลงทุนรวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้นำการร่วมลงทุน (VC) ในธุรกิจ FinTech นอกจากนี้ บริษัทฟินเทคได้ตั้งตลาดเป้าหมายกว่า 300 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือคนที่กำลังมองหาการลงทุนและการให้บริการประกันชีวิต ซึ่งตลาดการชำระเงินผ่านโมบายของเวียดนาม คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 70.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568
จำนวนคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือ
เวียดนามมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากรายงานตัวเลขสถิติของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าเวียดนามมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 โดยในเดือนพฤศจิกายน มูลค่าการนำเข้าและการส่งออกรวมแตะระดับ 44.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเดือนก่อน ทั้งนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนพฤศจิกายน มีมูลค่าอยู่ที่ 15.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ทำให้ยอดการส่งออกรวมทั้งประเทศแตะระดับ 165 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุด ได้แก่ โทรศัพท์และส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้า เครื่องจักร และรองเท้า เป็นต้น
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-posts-record-trade-surplus-of-nearly-us11-billion-407464.vov
เวียดนามเผยยอดส่งออกยาง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 62
จากข้อมูลของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกยางอยู่ที่ 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นปริมาณ 1.5 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ในแง่ของมูลค่า และ 8.1 ในแง่ของปริมาณ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณการส่งออกยาง 200,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 และ 16.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับราคาส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกยางธรรมชาติ (NR) ในปี 2563 จะมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rubber-exports-top-2-billion-usd-in-11-months-407445.vov
การค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามเพิ่มขึ้น 13.8%
การค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามมีมูลค่าถึง 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 13.8% จากเดือนมกราคมถึงตุลาคม โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการค้าให้ถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 โดยหอการค้าเวียดนามและหอการค้ากัมพูชาร่วมกันจัดเวทีธุรกิจในกรุงพนมเปญ ซึ่งฟอรัมในครั้งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยพวกเขาได้หารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนการค้าและการปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายขององค์กร ซึ่งเวียดนามรายงานว่าขณะนี้มีโครงการลงทุน 214 แห่ง ในกัมพูชาด้วยการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งนี้ทำให้เวียดนามเป็นผู้ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในกัมพูชา ขณะเดียวกันกัมพูชามีโครงการลงทุน 21 โครงการในเวียดนามด้วยมูลค่าการลงทุนเกือบ 64 ล้านเหรียญสหรัฐติดอันดับ 54 ใน 132 ประเทศที่ลงทุนในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50669272/kingdoms-trade-with-vietnam-rises-13-8/