โอกาส-ความท้าทายโครงการรถไฟและทางด่วนสปป.ลาว-จีน

ถึงแม้จะมีโอกาสมากมายที่เข้ามายังสปป.ลาวผ่านโครงการลงทุนรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – โบเตน แต่สปป.ลาวก็จำเป็นต้องจัดการกับความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาสครั้งนี้ ทางรถไฟและทางด่วนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสปป.ลาวที่จะเปลี่ยนประเทศจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นแผ่นดินที่เชื่อมต่อในภูมิภาค อย่างไรก็ตามยังมีข้อควรพิจารณาที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อที่จะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประการแรกจำเป็นต้องสร้างถนนที่เชื่อมทางรถไฟกับแหล่งผลิตเพื่อให้ขนส่งสินค้าได้สะดวก ประการที่สองต้องบูรณาการโลจิสติกส์และบริการข้ามพรมแดนเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า ประการที่สามการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุนมากขึ้น ประการที่สี่ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาที่สปป.ลาวมากขึ้น โครงการดังกล่าวไม่เพียงแค่สร้างการพัฒนาแก่สปป.ลาวตามรายงานของซินหัว หากจีนและประเทศในอาเซียนทำการค้าโดยใช้ทางรถไฟผ่านสปป.ลาวจะได้รับประโยชน์มากขึ้นและจะสร้างมูลค่าการค้าที่สูงขึ้นจากการขนส่งที่มีคุณภาพและรวดเร็วขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Expert_2.php

จีนหนุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์คาดแล้วเสร็จภายใน เม.ย. 64

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 29 โครงการที่กำลังดำเนินการโดยจีนในเมียนมาจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์และเมื่อเสร็จสมบูรณ์และสามารถกระจายพลังงานไปยังกริดแห่งชาติได้ โครงการดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันหลังจากได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมา โดยบริษัทที่ได้ชนะการประมูลส่วนใหญ่มาจากจีน ซึ่งราคาประมูลของจีนต่ำกว่าที่อุตสาหกรรมคาดการณ์ไว้ที่ 0.0422 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย ราคาเสนอซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 0.0508 ดอลลาร์

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/china-backed-solar-projects-be-completed-april.html

จีนช่วยให้สปป.ลาวเข้าถึงวัคซีน COVID-19

สปป.ลาวจะได้รับวัคซีนโควิด -19 จากจีน 2,000 โด๊ส บางส่วนได้เริ่มฉีดวัคซีนให้แก่อาสาสมัครไปแล้ว 200 ราย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ. บุญคง สีหะวงศ์ กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า “สปป.ลาวได้รับการจัดส่งวัคซีน Sinopharm Covid-19 จากจีนและได้ฉีดให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรกและเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองฉีดวัคซีนระยะแรกอีกด้วย”  สปป.ลาวเป็นหนึ่งใน 92 ประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตร “COVAX” โดยกลุ่มประเทศดังกล่ามีประชากรรวมประมาณร้อยละ 15 – 20 ของประชากรโลก ซึ่งจะได้รับวัคซีน Sinopharm Covid-19 ภายในเดือนเมษายน 2564 ในขณะเดียวกันวัคซีน “Sputnik V” ที่ผลิตโดยรัสเซียประมาณ 500 โด๊ส จะถูกส่งไปยังสปป.ลาวในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/04/china-to-help-laos-get-access-to-covid-19-vaccine

การก่อสร้างสถานีรถไฟจีน-สปป.ลาวยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

การเทคอนกรีตขั้นสุดท้ายของโครงสร้างหลักของสถานี Boten ซึ่งทำสัญญาโดย China Railway Construction Engineering Group แล้วเสร็จเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้วขั้นตอนต่อมาจะเข้าไปสู่การติดตั้งโครงข่ายเหล็กการติดตั้งและตกแต่งระบบเครื่องกลไฟฟ้าซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564สถานี Boten ตั้งอยู่แขวงโบเตนในสปป.ลาวเป็นสถานีแรกในโครงการรถไฟความเร็วปานกลางจีน – สปป.ลาว โครงการรถไฟฟ้าจะนำความก้าวหน้ามาให้แก่สปป.ลาวจะทำให้สปป.ลาวเป็นประเทศที่เชื่อมต่อกับตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนรวมถึงการท่องเที่ยวที่โครงการจะเป็นส่วนสนับสนุนในการเดินทางที่สะดวกขึ้นอีกด้วย

ที่มา : http://www.ecns.cn/news/economy/2020-12-24/detail-ihaexsqc6150811.shtml

จีนเดินหน้าสร้างเขตการค้าชายแดนในมูเซ-หลุ่ยลี่

จีนเดินหน้าสร้างสร้างเขตการค้าสองในสามแห่งที่กำหนดไว้สำหรับการพัฒนาภายใต้ข้อตกลงโครงการ มูเซ-หลุ่ยลี่ (Kyegaung) รัฐบาลทั้งสองได้ตกลงที่จะเป็นพื้นที่หลักสำหรับการค้าระหว่างจีนและเมียนมา ในขณะที่เขต Kyu Kote –Pang Sang –Wantain – Kyin San Kyawt จะถูกกำหนดให้เป็นการแปรรูป การผลิตสินค้าเพื่อส่งออก และคลังสินค้า ซึ่งรัฐบาลจีนได้ร่างแผนสำหรับสองโครงการใน Shweli (Kyegaung) และ Wantain และให้เมียนมาติดตามการพัฒนาในพื้นที่ของทั้งสองโครงการนี้ พื้นที่หลักมูเซ-หลุ่ยลี่ ถูกจินตนาการเป็นพื้นที่รูปสามเหลี่ยมทอดยาวจาก Nam Phat Kar ไปทางตอนเหนือของ Namkham และถึง Kyukote (Pangsang) ทางตอนใต้ เขตการค้าเป็นส่วนหนึ่งของเขตความร่วมมือเศรษฐกิจชายแดนจีน – เมียนมา และเมื่อไม่นานมานี้เมียนมาคาดว่าจะพัฒนาโซนหลักในสามแห่ง ได้แก่ มูเซ, ชินฉ่วยฮ่อ และ กันพิตตี

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/china-implement-two-three-border-trade-zones.html

ทางด่วนแห่งแรกในสปป.ลาวเปิดตัวแล้ว

ทางด่วนจีน – สปป.ลาวซึ่งเป็นทางหลวงสายแรกในสปป.ลาวร่วมกันสร้างโดยรัฐบาลสปป.ลาวและกลุ่มการก่อสร้างและการลงทุนยูนนาน (YCIH) ของจีนซึ่งได้มีวิธีเปิดตัวไปมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พิธีเปิดจัดขึ้นในเวียงจันทน์เมืองหลวงของสปป.ลาวและคุนหมิงของมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนผ่านการประชุมทางวิดีโอ ทางด่วนจีน – สปป.ลาวเริ่มต้นที่เวียงจันทน์และสิ้นสุดที่เมืองบอเตนชายแดนสปป.ลาว – ​​จีนความยาวประมาณ 440 กม. โครงการนี้ใช้มาตรฐานทางเทคนิคของจีนสำหรับการก่อสร้างและการดำเนินงานและมีแผนทั้งหมดสี่เฟสซึ่งกลุ่มการก่อสร้างและการลงทุนยูนนาน (YCIH) ลงทุนในโครงการกว่าร้อยละ 95 และรัฐบาลสปป.ลาวลงทุนร้อยละ 5  รัฐบาลสปป.ลาวจะดำเนินการภายใต้โมเดล Build-Operate-Transfer (BOT) เป็นเวลา 50 ปี หลังจากสร้างเสร็จแล้วทางด่วนจีน – สปป.ลาว จะกลายเป็นกระดูกสันหลังของการคมนาคมของลาวตอนกลางและตอนเหนือส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาวและจะช่วยเร่งการสร้างเครือข่ายการขนส่งที่รวดเร็วครอบคลุมคาบสมุทรอินโดจีนทั้งหมด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-12/20/c_139604815_2.htm

เมียนมาพร้อมเจรจากับจีนเพื่อส่งออกโคสด

กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทานของเมียนมากำลังเจรจากับสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อดำเนินการส่งออกโคสด GACC เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้และมีขั้นตอนใหม่และทั้ง 2 ประเทศต้องเจรจาให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ซึ่งการส่งออกต้องให้กรมสัตวบาลภายใต้ GACC ออกใบรับรองสุขภาพให้ นาย U Min Aung Aye ผู้อำนวยการ 105th Mile Border Trade Post ของเมืองมูเซภายใต้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งรับผิดชอบในการออกใบอนุญาตการส่งออกกล่าวว่าการส่งออกไปยังจีนน่าจะกลับมาดำเนินการได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ขณะนี้วัวและแพะมากกว่า 15,000 ตัวถูกขังไว้ที่ชายแดนเพื่อรอการส่งออกไปยังจีน ซึ่งเมียนมาอนุญาตให้ส่งออกโคมีชีวิตเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 60 ทั้งนี้นอกจากตลาดจีนแล้วยังมีบางส่วนส่งออกไปยังไทย อินเดีย และบังกลาเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-talks-china-resume-live-cattle-exports.html

ธุรกิจเวียดนามและจีน ลงนามสัญญาราว 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธุรกิจเวียดนามลงนามสัญญา 18 ฉบับกับทางผู้ประกอบการจีน ด้วยมูลค่า 758.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในงานแสดงสินค้าชายแดนเวียดนาม-จีน ครั้งที่ 20 เกี่ยวกับธุรกรรมการส่งออก-นำเข้าแร่โลหะ, สารเคมี, สินค้าทางการเกษตร ป่าไม้และประมง และปุ๋ย เป็นต้น โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นับว่าเป็นครั้งแรกที่จัดงานในลักษณะ Virtual Platform เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของงานนี้ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระดับทวิภาคีระหว่างเมืองลาวไค (Lao Cai) – มฑฉลยูนนาน (Yunnan) มีส่วนทำให้ส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-china-firms-sign-contracts-worth-nearly-us760-million-at-trade-fair-315354.html

รัฐบาลสปป.ลาว-จีน ลงนามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบรถไฟสปป.ลาว-จีน

รัฐบาลและ บริษัท การรถไฟสปป.ลาว – ​​จีน จำกัด ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟในเมืองหลวงและแขวงอุดมไซเวียงจันทน์และหลวงพระบางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ นายเสี่ยวเฉียนเหวินตัวแทนจากทางการจีนกล่าวในงานลงนามว่า              “การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในพื้นที่เหล่านี้สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์การพาณิชย์และเศรษฐกิจในท้องถิ่น” ทางรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของ China’s Belt and Road Initiative และแผนการของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนแปลงสปป.ลาวจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นแผ่นดินที่เชื่อมโยงภายในภูมิภาค เมื่อเปิดให้บริการทางรถไฟจะลดต้นทุนการขนส่งผ่านทางตะวันตกเฉียงเหนือของสปป.ลาวได้ถึงร้อยละ 30-40 เมื่อเทียบกับการขนส่งทางถนนรัฐบาลมั่นใจว่าการรถไฟจะกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและทำให้สปป.ลาวก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_lao_china_242.php

กัมพูชาเตรียมพร้อมสำหรับการทำการค้าเสรีกับจีน

อีกไม่ถึง 20 วัน ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชากับจีน (CC-FTA) จะมีผลบังคับใช้หลังจากทั้งสองประเทศลงนามในข้อตกลงเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากตลาดจีนที่ถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งกระทรวงกำลังดำเนินการและจะเปิดเผยรายการสินค้าทั้งหมดที่สามารถส่งออกไปยังประเทศจีนได้ในไม่ช้า สิ่งนี้จะช่วยให้ภาคเอกชนตระหนักถึงสิ่งที่สามารถส่งออกได้และเกณฑ์ใดที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามในการที่จะส่งออกสินค้าไปยังจีน โดยสินค้าที่มีศักยภาพส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น เนื้อสัตว์แปรรูปและปศุสัตว์ ซึ่งกัมพูชาได้จดทะเบียนสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อส่งออกไปยังจีนอีกราว 340 รายการภายใต้ CC-FTA ทำให้มียอดรวมมากกว่า 10,000 รายการที่สามารถทำการส่งออกไปยังจีนได้ จากข้อมูลของ MoC ในบรรดาสินค้าโภคภัณฑ์ใน CC-FTA ร้อยละ 95 ของสินค้าเหล่านี้จะไม่ต้องเสียภาษี และอีกร้อยละ 5 ที่เหลือจะค่อยๆทยอยยกเลิกภาษี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50791954/getting-ready-for-free-trade-with-china/