ชายแดนหม่องตออำนวยความสะดวกด้านการเกษตร การประมง และสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกไปยังบังกลาเทศ

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาร์ขนส่งผลิตผลทางการเกษตร การประมง และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูปไปยังบังกลาเทศผ่านชายแดนหม่องตอ ในปัจจุบัน สินค้าส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังชายแดนโดยใช้เส้นทางซิตตะเวย์-อังวะ-หม่องดอ จากนั้นจึงส่งออกไปยังบังคลาเทศผ่านเขตเศรษฐกิจกันยินชอง ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 21 พฤศจิกายน เมียนมาร์ส่งออกถั่วหมากจำนวน 38.25 ตัน มูลค่า 0.06 ล้านเหรียญสหรัฐ ลูกเนียง 27 ตัน 0.008 ล้านเหรียญสหรัฐ ขิงสด 110 ตัน 0.022 ล้านเหรียญสหรัฐ มะม่วง 7 ตัน 0.003 ล้านเหรียญสหรัฐ ปลายี่สก 101.3 ตัน 0.128 ล้านเหรียญสหรัฐ และปลาตากแห้งตัวเล็ก 45.5 ตัน 0.029 ล้านเหรียญสหรัฐ ปลาแอนโชวี่แห้ง 46 ตัน 0.017 ล้านเหรียญสหรัฐ ปลากระโห้ 1.54 ตัน 0.002 ล้านเหรียญสหรัฐ พุทราแช่อิ่มแพ็ค 22 ตัน 0.007 ล้านเหรียญสหรัฐ ยาหม่องสมุนไพร Tun Shwe Wah 9 ตัน 0.005 ล้านเหรียญสหรัฐ และทานาคา 13 ตัน บรรจุ 0.007 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปยังบังกลาเทศโดยผ่าน ชายแดนเมืองหม่องตอ อย่างไรก็ดี มูลค่าการค้าข้ามพรมแดนผ่านชายแดนเมืองหม่องตอของเมียนมาร์กับบังกลาเทศตั้งเป้าไว้ที่ 1.53 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 0.03 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่การค้าที่แท้จริงมีมูลค่า 0.286 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะการส่งออก คิดเป็นร้อยละ 18.69 ของเป้าหมายการค้า

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/maungtaw-border-facilitates-agri-fisheries-and-industrial-export-products-to-bangladesh/

อุตสาหกรรมประมงของตะนาวศรี: ต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและการจ้างงาน

ตามข้อมูลจากแหล่งข่าววงในของอุตสาหกรรมประมงของตะนาวศรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ราคาอาหารทะเลที่ตกต่ำ ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ส่งผลร้ายแรงต่อการส่งออกประมงของภูมิภาคตะนาวศรีไปยังประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก ปัจจุบันเขตตะนาวศรีมีเรือประมงนอกชายฝั่งจำนวน 1,500 ลำ และคนในพื้นที่กังวลว่าความสูญเสียในอุตสาหกรรมประมงอาจแพร่กระจายไปยังภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะเรือขนาดใหญ่ที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากขึ้นเพื่อปฏิบัติการ เพราะใช้วิธีตกปลาผิวน้ำและกลางน้ำ อีกทั้งการถูกกดราคาจากผู้ซื้อชาวไทยและอุปสงค์จากผู้ซื้อชาวไทยที่ลดลง ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ซึ่งในการออกเรือเพื่อลากอวนนอกชายฝั่งมักจะมีราคาค่าใช้จ่ายถึง 13 ล้านบาท (ประมาณ 120 ล้านจ๊าด) ต่อเที่ยว แม้จะมีศักยภาพในการจับสัตว์น้ำคิดเป็นมูลค่า 18 ล้านบาท (170 ล้านจ๊าด) แต่ผู้ค้ามักจะเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงหนึ่งบาร์เรลมีราคามากกว่า 660,000 จ๊าด ในขณะที่ปลาในตู้คอนเทนเนอร์แทบจะหาได้เพียง 65,000 จ๊าด

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/taninthayis-fishery-industry-soaring-costs-and-plummeting-prices-threaten-operations-and-jobs/

มีการออกบัตรประจำตัวคนงานในต่างประเทศ ให้กับคนงานบนเรือประมาณ 1,700,000 คน

ตามข้อมูลของกรมแรงงานเมียนมาร์ มีการออกบัตรประจำตัวคนงานในต่างประเทศ (OWIC) ให้กับคนงานประมาณ 1,684,934 คนที่ทำงานในต่างประเทศในช่วงระยะเวลา 33 ปี ตั้งแต่ปี 1990 ถึง 2023 โดยแบ่งเป็น 1,110,595 คน ในประเทศไทย, 52,035 คน ในสิงคโปร์, 64,364 คน ในเกาหลี, 60,013 คน ในญี่ปุ่น และ 385,566 คน ในมาเลเซีย อย่างไรก็ดี บัตร OWIC จะออกที่หน่วยแรงงานข้ามชาติ กรมแรงงาน ที่เมืองดะเก่าเมี้ยวเต็ด (เหนือ) สำหรับผู้ที่เดินทางกลับบ้านโดยลางาน บัตรจะออกที่กรมแรงงานในเมือง Mayangone

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/owic-cards-issued-to-about-1700000-workers-aboard/

ภูมิภาคพะโคดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก

U Ko Ko Latt ผู้อำนวยการคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทประจำภูมิภาคพะโค กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ภูมิภาคพะโคมีโครงการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่า 1.622 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการยังได้อนุมัติธุรกิจต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันให้เพิ่มเงินลงทุนเดิมจำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุมครั้งที่ 7/2566 นอกจากนี้ หน่วยงานระดับภูมิภาคยังมีความกระตือรือร้นที่จะเชิญนักลงทุนภายนอกให้ลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตร การผลิตปุ๋ย และการจัดตั้งห้องเย็นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรแบบอเนกประสงค์และการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงพฤศจิกายน 2566 มีการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่ากว่า 197.117 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการลงทุนภายในประเทศในภูมิภาคพะโค 75,456.275 ล้านจ๊าด ส่งผลให้มีการจ้างงานแรงงานมากกว่า 11,281 คน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/bago-region-attracts-substantial-foreign-investments-approves-additional-funding-for-industrial-business/#article-title

เปิดตัวโครงการที่ร่วมกับกองทุนความร่วมมือล้านช้าง-แม่น้ำโขง ครั้งที่ 6

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดตัวโครงการที่จะดำเนินการโดยกองทุนพิเศษ ของความร่วมมือล้านช้าง-แม่น้ำโขง ครั้งที่ 6 จัดขึ้นที่กระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และการชลประทาน ในเมืองเนปิดอว์ นาย U Min Naung รัฐมนตรีสหภาพเกษตร ปศุสัตว์ และการชลประทาน กล่าวว่าการบรรเทาความยากจนและการพัฒนาชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมของชาวชนบทในภูมิภาคล้านช้าง-แม่โขงมีความสำคัญ และด้วยการสนับสนุนของกองทุนพิเศษ โครงการต่างๆ ที่จะดำเนินไป โดยกระทรวงจะดำเนินการในสาขาที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้สำเร็จ ภายในงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงความคืบหน้ากิจการที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการกองทุนพิเศษเมื่อปี 2564 และ 2565 หลังพิธี รัฐมนตรีสหภาพและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง รองเลขาธิการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน และแขกรับเชิญ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่ดำเนินการร่วมกับกองทุนพิเศษความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง โดยกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทานได้รับอนุญาตให้ดำเนินโครงการ 35 โครงการ ด้วยเงินทุนรวมกว่า 12.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนพิเศษความร่วมมือแม่น้ำโขง-ล้านช้าง อย่างไรก็ดี โครงการที่จะดำเนินการร่วมกับกองทุนปี 2566 ได้แก่ ภาคเกษตรกรรมและภาคสุขภาพ โดยหวังว่าจะลดความยากจนของชาวชนบท

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/projects-launched-with-6th-lancang-mekong-cooperation-fund/

ค่าเงินจ๊าดในตลาดซื้อขายที่ไม่เป็นทางการอ่อนค่าลงอยู่ที่ 3,400 จ๊าดเทียบกับดอลลาร์

ในตลาดซื้อขายที่ไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 จ๊าตอ่อนค่าลงทำให้อัตราแลกเปลี่ยนขยับตัวอยู่ในช่วง 3,400–3,425 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จาก K3,230 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน แม้ว่าธนาคารกลางเมียนมาร์ (CBM) กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงไว้ที่ 2,100 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเมียนมาร์ ได้กำหนดกรอบการซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศไว้ที่ร้อยละ 0.3 เพื่อดูแลความผันผวนระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการทำธุรกรรมการซื้อ-ขาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินรวมถึงธนาคารและการแลกเปลี่ยนเงินนอกระบบควบคุมอัตราและเปลี่ยนการซื้ออยู่ที่ 2,094 จ๊าดต่อดอลลาร์ และ 2,106 จ๊าดต่อดอลลาร์ สำหรับการขาย ทั้งนี้ แม้จะมีช่องว่างราคาที่ค่อนข้างมากระหว่างอัตราอ้างอิงของ CBM และอัตราตลาดอย่างไม่เป็นทางการ แต่ธนาคารกลางเมียนมาร์ ก็ไม่สามารถกำหนดราคาใหม่ได้ตามประกาศที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ ภายใต้มาตรา 9 ของกฎหมายการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เฉพาะนิติบุคคลที่ถือใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายเงินตราต่างประเทศเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศและเช็คเดินทาง ผู้ที่ถือเงินตราต่างประเทศโดยไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามประกาศของ CBM ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ตามประกาศ 7/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kyat-weakens-to-k3400-against-greenback-in-grey-market/

จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ของโรงแรมในรัฐกะเหรี่ยงขยายตัวขึ้นกว่า 100% ในช่วง 9 เดือน

ตามการระบุของคณะกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวแห่งรัฐกะเหรี่ยง ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ในรัฐกะเหรี่ยงมีรายได้กว่า 2,500 ล้านจ๊าด และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงรัฐกะเหรี่ยงมากขึ้นถึง 100% โดยนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในรัฐกะเหรี่ยงรวม 134,359 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสร้างรายได้ให้โรงแรมและเกสท์เฮาส์จำนวน 2,557.751 ล้านจ๊าด ทั้งนี้ในรัฐกะเหรี่ยงมีจำนวนโรงแรมและเกสท์เฮาส์เพิ่มขึ้นเป็น 60 แห่ง โดยมีห้องพักรวม 2,159 ห้องในปีนี้ เทียบกับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2564 ที่มีสถานประกอบการเพียง 49 แห่งและมีห้องพักรวม 1,673 ห้อง มีอัตราการออกใบอนุญาตยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.45 นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 32,260 คนในช่วง 9 เดือนแรกในปี 2564 เป็น 134,359 คนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kayin-state-witnesses-100-surge-in-visitor-arrivals-hotel-revenue-in-9-months/#article-title

ราคาน้ำมันออกเทนในเมียนมาร์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันที่ 22 พฤศจิกายน

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันออกเทน 92 อยู่ที่ 2,150 จ๊าดต่อลิตร น้ำมันออกเทน 95 มีราคาอยู่ที่ 2,240 จ๊าดต่อลิตร หลังจากนั้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน ราคาน้ำมันออกเทน 92 และออกเทน 95 ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2,210 จ๊าดต่อลิตร และ 2,350 จ๊าดต่อลิตร ตามลำดับ ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลยังคงทรงตัวที่ 2,125 จ๊าดต่อลิตร และดีเซลพรีเมี่ยมอยู่ที่ 2,215 จ๊าดต่อลิตร ทั้งนี้ตามที่คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้า การจัดเก็บ และการจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงระบุ ดัชนีราคาน้ำมันของเมียนมาร์ถูกกำหนดโดย Mean of Platts Singapore (MOPS) ซึ่งเป็นพื้นฐานการกำหนดราคาสำหรับผลิตภัณฑ์กลั่นจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาเชื้อเพลิงในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนภาคการจัดเก็บและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันในตลาดภายในประเทศ และเพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาสำหรับผู้ใช้พลังงาน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/octane-prices-see-slight-increase-on-22-nov/#article-title