ส่งออกเพิ่มดันดัชนีผลผลิตอุตฯ โต 5.12%

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค. 64 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 91.41 เพิ่มขึ้น 5.12%เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจของคู่ค้าหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปที่มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นภาคการผลิตไทยจึงได้รับอานิสงส์ ส่วนอุตสาหกรรมสำคัญที่ ขยายตัว อาทิ รถยนต์และเครื่องยนต์ขยายตัว 31.49% ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 19.02% และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ขยายตัว 18.55% เป็นต้น ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 35.40% ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวสูงถึง 50.11% สะท้อนว่า ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป

ที่มา: https://www.naewna.com/business/598663

พาณิชย์ชี้ตลาดสิงคโปร์ หอมมะลิโอกาสสูง-ข้าวกล้องมาแรง

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64 กรมได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงสิงคโปร์ จัดการประชุมหารือกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวสิงคโปร์ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังสิงคโปร์ในช่วงที่เหลือของปี 64 นี้ สาเหตุที่สิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยลดลงมาจากราคามีความผันผวนมาก ผู้นำเข้าบางส่วนจึงหันไปนำเข้าข้าวจากเวียดนามและอินเดียที่มีเสถียรภาพด้านราคา แม้คุณภาพจะด้อยกว่าข้าวไทย แต่ครึ่งปีหลังราคาข้าวไทยคาดจะปรับตัวลดลงโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ นอกจากนี้ ข้าวกล้อง กำลังได้รับความนิยม หลังจากรัฐบาลสิงคโปร์ได้รณรงค์ให้บริโภคข้าวกล้องเพื่อลดอัตราผู้ป่วยโรคเบาหวาน คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา: https://www.naewna.com/business/598361

ภาคเอกชนไทยสนับสนุนการเข้าร่วมประชุม ATF 2022 ณ กัมพูชา

กัมพูชาได้เรียกร้องให้ภาคเอกชนไทยเข้าร่วมการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน “ASEAN Tourism Forum 2022” ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศในระหว่างและหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางการกัมพูชาได้นำเสนอเกี่ยวกับความพยายามในการควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 รวมถึงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงนิเวศและชายฝั่ง เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทวิภาคี ผ่านการส่งเสริมแพคเกจทัวร์รวมกัน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50921510/thai-private-sector-encouraged-to-attend-atf-2022-in-cambodia/

สธ.รับข้อเสนอผู้ประกอบการร้านอาหาร ชงศบค.ผ่อนคลาย

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยหลังผู้แทนสมาคมภัตตาคารไทยและอีก 8 สมาคม เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเสนอให้ผ่อนคลายมาตรการสำหรับร้านอาหารให้เปิดบริการได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกหลักการที่ต้องมีการดำเนินการเพื่อความปลอดภัย 3 ส่วน ได้แก่ 1.)การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี 2.)พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หากไม่ครบ 2 เข็ม ต้องตรวจด้วยชุดตรวจ ATK ทุก 3-7 วัน  3.) ลูกค้าต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน, ผู้ที่เคยติดเชื้อต้องหายแล้ว 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน, มีผลตรวจ ATK หรือตรวจก่อนเข้าใช้บริการ โดยระยะแรกจะเน้นในร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศและห้างสรรพสินค้า โดยจะเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. 64

ที่มา: https://www.posttoday.com/social/general/661429

หนุนคลาย‘ล็อกดาวน์’ หากผู้ป่วยในรพ.ต่ำกว่าแสนราย

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต หนุนรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ในทุกพื้นที่ให้ประชาชนมีงานทำและธุรกิจมีรายได้ หากผู้ป่วยลดลงมาเหลือต่ำกว่า 100,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 200,339 ราย โดยคาดว่าผู้ติดเชื้อรายวันน่าจะเลยจุดพีคมาแล้วมีสัญญาณดี ส่วนกรณีที่ขยายล็อกดาวน์เพราะตัวเลขติดเชื้อไม่ลดลงไปจนถึงปลายปี 64 -ในช่วงที่รอฉีดวัคซีนต้องภาครัฐควรเตรียมงบประมาณในการเยียวยาธุรกิจและประชาชน ซึ่งควรประกาศและเตรียมเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่าอีก 300,000 ล้านบาท ในการล็อกดาวน์ครั้งนี้

ที่มา: https://www.naewna.com/business/596818

“พาณิชย์” เผยไทยใช้ FTA-GSP ส่งออกครึ่งปี เพิ่ม 34%

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) เดือน มิ.ย.2564 มีมูลค่า 8,380.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.61 และยอดรวม 6 เดือนปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 40,244.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.34 มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ร้อยละ 78.07 ของการได้รับสิทธิ์ทั้งหมด แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA มูลค่า 38,329.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.27 มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ร้อยละ 79.05 และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP มูลค่า 1,914.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.63 มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ร้อยละ 62.61 สำหรับรายละเอียดการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ในช่วง 6 เดือน ตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิ์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อาเซียน มูลค่า 13,439.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2.จีน มูลค่า 12,734.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3.ออสเตรเลีย มูลค่า 4,270.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 4.ญี่ปุ่น มูลค่า 3,485.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 5.อินเดีย มูลค่า 2,336.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรอบ FTA ที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ไทย-เปรู 100% 2.อาเซียน-จีน 96.58% 3.ไทย-ชิลี 86.80% 4.ไทย-ญี่ปุ่น 80.04% และ 5.อาเซียน-เกาหลี 69.43%

ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/492374

สปป.ลาววอนไทยช่วยแรงงานลาวฝ่าวิกฤตโควิด-19

ประธานสมัชชาแห่งชาติลาว (NA) ขอให้ประเทศไทยช่วยเหลือชาวสปป.ลาวที่ทำงานในประเทศไทยดร.ไชสมพร พรหมวิหาร ประธาน NA ได้ยื่นข้อเสนอพร้อมพูดคุยกับชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งประเทศไทย ผ่านการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันอังคาร (17 ส.ค.) โดยขอให้ชวนผลักดันภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยให้ช่วยเหลือแรงงานสปป.ลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกในการกลับไปสปป.ลาว การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในประเทศไทยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีงานเลิกจ้างจำนวนมาก และบังคับให้แรงงานลาวหลายร้อยคนต้องเดินทางกลับบ้าน ผู้นำทั้งสองกล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และสุขภาพ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/08/17/laos-govt-asks-thailand-to-help-lao-workers-overcome-their-coid-19-crisis

ไทยเร่งฉีด วัคซีนโควิดแรงงานชาวเมียนมา ในแม่สอด

กรมอนามัยของประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนให้แรงงานข้ามชาติชาวพม่าที่แม่สอด ประเทศไทย เป็นครั้งแรกในเช้าวันที่ 17 สิงหาคม 64 ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน แม่สอด ประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขของไทยจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 5,000 โดสให้กับแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาในโรงงานและร้านค้า ซึ่งการฉีดวัคซีนในครั้งได้สร้างความเชื่อมั่นละคลายความกังวลให้กับนักธุรกิจชาวไทยที่ประกอบธุรกิจในแม่สอดได้มากขึ้นหลังจากที่ร้านค้าในแม่สอด สถานเสริมความงาม ร้านอาหาร และร้านค้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาถูกปิดเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา: https://news-eleven.com/article/213881

กกร.ขอพบ‘บิ๊กตู่’ ชี้ช่อง5แนวทางฝ่าวิกฤติโควิด

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า กกร.ได้ยื่นหนังสือขอเข้าหารือ นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ล่าสุดอยู่ระหว่างรอแจ้งเวลากลับมา ทั้งนี้ ได้ยื่น 5 ประเด็นหลักในการหารือดังนี้ 1.ให้เอกชน เป็นผู้ติดต่อนำเข้าวัคซีนได้ไม่ต้องผ่านหน่วยงานรัฐ 2.อนุญาตสนับสนุนให้เอกชนดำเนินการผลิตและจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอ 3.สนับสนุนค่าใช้จ่ายชุดตรวจแรพิด แอนติเจน เทสต์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเพียงพอ 5.แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เช่น ให้กรมสรรพากร ยกเว้นภาษีเอสเอ็มอี ระยะเวลา 3 ปี ฯลฯ

ที่มา: https://www.naewna.com/business/595654

สภาพัฒน์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 64 ยังมีความเสี่ยง ปรับลด GDP โต 0.7-1.2%

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ กล่าวว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ในไตรมาสที่ 2/64 ขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 และขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 โดยแรงหนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัว 4.6% และการลงทุนรวมขยายตัว 8.1% โดยการลงทุนจากภาคเอกชนขยายตัว 9.2% และการลงทุนภาครัฐขยายตัว 5.6% ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัว 36.2% สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2564 นั้น คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 0.7% – 1.2% หรือฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากการลดลง 6.1% ในปี 63 แต่เป็นการปรับลดจาก 1.5% – 2.5% ในการประมาณการครั้งก่อน

ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/economics/2167686