‘ตลาดรถยนต์เวียดนาม’ ร่วงมาอยู่อันดับ 5 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน (AAF) รายงานว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายรถยนต์ 505,000 คัน เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามมาด้วยไทย มียอดขายรถยนต์ 406,000 คัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลของคนในอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าปัจจัยภายนอก ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภครถยนต์ในเวียดนาม รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังซื้อที่มีผลต่อยอดขายรถยนต์ลดลง นอกจากนี้ เมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์ในเดือน ส.ค. พบว่าปริมาณการขาย 22,540 คัน ลดลง 27% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นผลมาจากผู้บริโภคยังคงเข็มงวดในการจับจ่ายใช้สอย ท่ามกลางปัญหาทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-automobile-market-slides-to-fifth-in-southeast-asia/269345.vnp

‘เวียดนาม’ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก

จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารโลก (WB) ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีเม็ดเงินทุนไหลเข้าประเทศและการเบิกจ่ายเงินทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าเวียดนามยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม ถึงแม้ว่าเผชิญกับความไม่แน่นอนทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นเก่า ได้แก่ สิงคโปร์ จีนและญี่ปุ่น มีความไว้วางจและความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในเวียดนามมากขึ้น ทั้งนี้ นาย ดอนแลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท VinaCapital Group กล่าวว่าจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่านักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจกับการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการยกระดับศักยภาพของภาคการบริโภคในเวียดนาม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นับเป็นโอกาสที่ดีของเวียดนามในการดึงดูดเงินทุนไหลเข้าประเทศในระยะยาวมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-attractive-to-foreign-investors-despite-global-uncertainties-post1051514.vov

‘เวียดนาม’ โชว์ 9 เดือนแรก ลงทุนต่างประเทศ พุ่ง 4.6%

หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามลงทุนในต่างประเทศ มูลค่าประมาณ 416.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจากเม็ดเงินลงทุนดังกล่าว เงินลงทุนที่ธุรกิจจดทะเบียน มีมูลค่ากว่า 244.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยจำนวนโครงการใหม่ 84 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 70.5% ของมูลค่าเงินลงทุนจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นักลงทุนชาวเวียดนามส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการค้าส่งค้าปลีก ด้วยมูลค่าเงินลงทุนราว 150.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  รองลงมาภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภาคการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม

ในขณะที่แคนาดาเป็นแหล่งลงทุนสำคัญที่สุดของนักลงทุนชาวเวียดนาม รองลงมาสิงคโปร์ สปป.ลาว และคิวบา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-overseas-investment-up-46-during-nine-months/268894.vnp

‘เวียดนาม’ ทำรายได้จากการส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามทำสถิติส่งออกข้าวสูงสุดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 6.61 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 3.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.1% และ 40.4% ตามลำดับ โดยเฉพาะเดือน ก.ย. เพียงเดือนเดียว เวียดนามส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ ปริมาณ 8 แสนตัน และราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยที่ 618 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาส่งออกข้าวอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกข้าวทะลุ 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุดในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 40.3% ของการส่งออกข้าวทั้งหมด รองลงมาจีนและอินโดนีเซีย 13.5% และ 12.4% ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1594890/viet-nam-s-rice-exports-revenue-surges-to-new-record.html

‘เวียดนาม’ ดึงดูดบริษัทยุโรป

จากงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดย ‘Vietnam Trade and Industry Review’ ในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เพื่อหารือถึงการเชื่อมโยงกับบริษัทยุโรป และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนาย Phan Minh Thong ประธานคณะกรรมการบริหารของ Phuc Sinh Group กล่าวว่าข้อตกลงการค้าเสรีฉบับนี้ ได้สร้างโอกาสอย่างมากต่อภาคธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ บริษัทนอกสหภาพยุโรปที่ลงทุนในเวียดนามสามารถใช้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ลดลง เมื่อทำการส่งออกจากเวียดนามไปยังยุโรป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-attractive-to-european-firms-seminar/269243.vnp

‘S&P Global’ ชี้เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วสุด อีก 5 ปีข้างหน้า

จากรายงานของ S&P Global Market Intelligence เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ระบุว่าการเติบโตระยะกลางของเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า มีปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจหลายประการที่จะช่วยให้เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย โดยเวียดนามยังคงได้รับประโยชน์จากต้นทุนค่าแรงงานที่ต่ำ และด้วยแรงงานที่มีจำนวนมาก มีการศึกษาที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตที่น่าสนใจของบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ แนวโน้มของรายจ่ายการลงทุนมีทิศทางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความแข็งแกร่ง รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnam-among-fastest-growing-emerging-asian-markets-in-next-five-years-sp-global-post130134.html

‘อสังหาฯ เวียดนาม’ ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ดึงดูดเงิน FDI ได้กว่า 1.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

หน่วยงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม เปิดเผยว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 1.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราว 9.6% ของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงาน พบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 20 ก.ย. เวียดนามดึงดูดการลงทุน FDI ประมาณ 20.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ดี ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นผู้นำที่ดึงดูด FDI ในเวียดนามได้มากที่สุด มูลค่ามากกว่า 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี รองลงมาภาคอสังหาฯ ที่ 1.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 45% และการเงินการธนาคาร 1.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/real-estate-attracts-1-94-billion-usd-in-fdi-in-nine-months-2198057.html