อุตฯป่าไม้ของเวียดนาม มียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้

จากข้อมูลของสมาคมผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม (VIFORES) เผยว่าในปีนี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้รวม มีมูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยตลาดรายใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่า 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาญี่ปุ่น สหภาพยุโรปและจีน ตามลำดับ ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯมีทิศทางในเชิงบวกในปีนี้ จากการที่ความต้องการเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น นับว่าเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไม้เวียดนามในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ธุรกิจสหรัฐฯ จะเพิ่มการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากตลาดอื่นๆ รวมถึงเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับการฉ้อโกงทางการค้าด้วยการปลอมแปลงแหล่งกำเนิดสินค้า เนื่องจากสินค้าที่ผลิตในจีนได้ถูกส่งออกมายังเวียดนาม และจากนั้นส่งออกไปยังสหรัฐฯ พร้อมกับติดฉลากสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม (made-in-Viet Nam) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า นอกจากนี้ กระบวนการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าใบรับรองดังกล่าวได้รับอนุมัติให้ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/602457/forestry-industry-to-gain-export-value-growth-of-10-this-year.html

การส่งออกการ์เม้นท์และสินค้าด้านการท่องเที่ยวกัมพูชามีมูลค่าถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกเสื้อผ้า,รองเท้าและสินค้าด้านการท่องเที่ยวมูลค่ากว่า 9.35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปีจากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมของกัมพูชา โดยรายงานดังกล่าวได้เผยแพร่ในการประชุมประจำปีเพื่อทบทวนและกำหนดวัตถุประสงค์สำหรับปี 2563 ซึ่งรายงานระบุว่ามีโรงงานกว่า 1,069 แห่ง ในปีที่แล้วซึ่งมีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและสิ่งทอประกอบด้วย 823 แห่ง โรงงานสินค้าด้านการท่องเที่ยว 114 และโรงงานรองเท้า 132 แห่ง มีการจ้างแรงงานรวมกัน 923,313 คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมกล่าวในการกล่าวเปิดงานว่ากระทรวงกำลังทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนในอุตสาหกรรมและจัดหาสินค้า รวมถึงบริการที่ดีขึ้น ซึ่งเป้าหมายของกระทรวงคือการช่วยให้ภาคเอกชนมีความก้าวหน้าซึ่งก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าแห่งกัมพูชา (GMAC) การส่งออกสินค้าเสื้อผ้าและสินค้าด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาคิดเป็น 75% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของกัมพูชาและ 90% ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปซึ่งเป็นผู้ซื้อเสื้อผ้ากัมพูชารายใหญ่ที่สุด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50692028/garment-footwear-and-travel-goods-exports-valued-at-9-3-billion

เมียนมาส่งออกมูลค่า 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐไปยังจีนหลังไวรัสโคโรน่าระบาด

ก่อนหน้านี้เมียนมานำเข้าสินค้ามูลค่าประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐไปยังจีนในทุกวันก่อนการระบาดของไวรัสโคโรน่า (covid-19) แต่ปัจจุบันสามารถส่งออกสินค้าได้เพียงประมาณ 0.5 ล้านชิ้นเท่านั้น แม้ว่าเมียนมาจะไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังจีน ซึ่งเมียนมาต้องหาตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ สินค้าบางรายการไม่สามารถหาตลาดใหม่ในประเทศอื่นในเวลาอันสั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เน่าหรือเสียหายได้ง่าย ปัจจุบันเมียนมากำลังติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด ในระหว่างนี้เมียนมาต้องหาตลาดใหม่ๆ ให้ได้ ปัจจุบันเมียนมาส่งออกสินค้าไปไทยอย่างสม่ำเสมอและมีข่าวว่าจีนจะเปิดศูนย์การค้าชายแดนอีกครั้งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-exports-only-us05-m-worth-of-products-to-china-after-covid-19

โอกาสในการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคเวียดนามเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ : สัมมนา

งามสัมมนาเรื่องการส่งเสริมในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในวันอังคาร นครโฮจิมินห์, ผู้อำนวยการบริษัท Vietway เปิดเผยว่าบริษัทฯดำเนินการขายสินค้าเวียดนามในสหรัฐฯ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งในหลายๆประเทศทั่วโลก รวมถึงเวียดนามเห็นว่าตลาดสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกหลัก ทั้งนี้ สถานการณ์การส่งออกสินค้าเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเน้นส่งออกสินค้าสมาร์ทโฟน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งล้วนแต่เป็นบริษัทต่างชาติ ในขณะเดียวกัน สินค้าอุตสาหกรรมที่เจ้าของเป็นบริษัทเวียดนามได้เผชิญกับอุปสรรคจากการส่งออกในตลาดโลก ทั้งนี้ สหรัฐฯ ถือว่ามีความเข็มงวดต่อการนำเข้าสินค้า แต่ก็มีความต้องการนำเข้าสินค้าที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสินค้าไฮเทคไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาถูก ซึ่งเป็นจุดแข็งของสินค้าเวียดนาม นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการค้า พบว่าในสิ้นเดือนม.ค. 2563 มูลค่าส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอยู่ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592126/opportunities-to-boost-consumer-goods-exports-to-the-us-market-seminar.html

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 5.8 หมื่นตันในปี 2562

กัมพูชาส่งออกมะม่วงมากกว่า 58,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2562 ซึ่งรายงานโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและโฆษกของกระทรวงพาณิชย์เมื่อเร็วๆนี้ โดยตลาดสำหรับการส่งออกมะม่วงในปี 2562 ยังคงดำเนินต่อไป ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญ เช่นสหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก เบลเยียม ออสเตรเลียเป็นต้น ที่เป็นตลาดศักยภาพในสินค้ามะม่วงของกัมพูชา ซึ่งถูกส่งออกทั้งโดยตรงและผ่านประเทศเพื่อนบ้านทั้งในรูปแบบมะม่วงสดและแยมมะม่วง โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาที่จะขยายตลาดต่างประเทศสำหรับมะม่วงของกัมพูชาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50690166/over-58000-tonnes-of-cambodian-mangoes-exported-in-2019

การส่งออกปศุสัตว์สร้างรายได้สูงสุดในสินค้าเกษตร

การส่งออกปศุสัตว์สร้างรายได้สูงสุดในกลุ่มสินค้าเกษตร มีมูลค่ามากถึง 217.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งมากกว่า กล้วยไม้และยางที่เคยเป็นสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดแก่สปป.ลาว โดยประเทศคู่ค้าที่สำคัญในการส่งออกปศุสัตว์ของสปป.ลาวคือ เวียดนาม ซึ่งปศุสัตว์เป็น 1 ใน 2 ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่สปป.ลาวขายให้กับเวียดนามโดยมีมูลค่าการส่งออกเกือบ 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังประเทศจีนด้วยยอดขายมูลค่า 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้จีนถือเป็นประเทศที่มีความต้องการในปศุสัตว์สปป.ลาวสูง โดยตลาดในยูนนานของจีนต้องการปศุสัตว์ 500,000 ตัวจากสปป.ลาวเป็นประจำทุกปี สินค้ากลุ่มนี้จึงเป็นสินค้าที่น่าสนใจเพราะอนาคตจะเติบโตได้อีกและสปป.ลาว ยังมีศักยภาพในการแข่งขันด้วยปัจจัยที่สปป.ลาวมีที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงโคเพื่อการค้านั้นเอง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/livestock-top-earner-among-laos%E2%80%99-agricultural-exports-113626

ภาคการส่งออกของกัมพูชาไปยังไทยเพิ่มขึ้นกว่า 195% ในปี 2562

ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 2.27 พันล้านเหรียญสหรัฐไปยังประเทศไทยคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 195% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสำหรับการนำเข้าของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐสำหรับผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยโฆษกของกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่ารัฐบาลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดการขาดดุลการค้ากับไทย จนถึงตอนนี้รัฐบาลได้ผลักดันการส่งออกในปริมาณที่สูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ซึ่งในปี 2561 การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 8.38 พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจาก 6.18 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50689838/cambodias-exports-to-thailand-increase-by-195-in-2019

การส่งออกเพิ่มแม้เงินจัตแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

เงินจัตของเมียนมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และราคาซื้อขายอยู่ที่ 1465 จัตต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เดือนพฤศจิกายน 62 ยังอยู่ที่ 1500 จัตต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับช่วงสี่เดือนแรกของปีงบประมาณ 62-63 ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 62 จนถึงขณะนี้ปริมาณการส่งออกสูงถึง 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน การนำเข้าในช่วงเวลาเดียวกันมีมูลค่าทั้งสิ้น 6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 19% ต่อปี นำไปสู่ขาดดุลการค้าประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบันเทียบกับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การส่งออกที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความต้องการสินค้า เช่น เสื้อผ้า สินค้าเกษตร และแร่ธาตุ เนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึงและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความระมัดระวังมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ (MOC) คาดว่าการส่งออกทั้งหมดในปีนี้จะสูงถึง 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและการนำเข้าจะถึง 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ 63-68 สิ่งสำคัญลำดับแรก ได้แก่ การแปรรูปเกษตร สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มส่วนประกอบไฟฟ้า การประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ เทคโนโลยีสารสนเทศ บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ ข้อมูลการค้า นวัตกรรมและผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/exports-rise-even-kyat-strengthens-against-us-dollar.html

ทิศทางส่งออกกุ้งเวียดนามปี 63 เติบโตได้ดี

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่ามูลค่าส่งออกอาหารทะเลปีที่แล้ว อยู่ที่ 3.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แม้ว่าการส่งออกลดลง แต่ในปัจจุบันน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกจากการส่งออกไปยังผู้นำเข้ารายใหญ่ในปีนี้ ซึ่งในปีที่แล้ว พบว่ายอดส่งออกกุ้งขาวแปซิฟิก (White Leg Shrimp) อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.4 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.1 ของมูลค่าส่งออกกุ้งรวมทั้งสิ้น ทั้งนี้ มูลค่าส่งออกกุ้งกุลาดำและกุ้งประเภทอื่นๆ มีส่วนแบ่งส่งออกกุ้งทั้งหมดร้อยละ 15.9 และ 9.4 ตามลำดับ สำหรับตลาดจีนมีความเข็มงวดในด้านคุณภาพสินค้าและการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าย้อนหลังที่ผ่านตามเขตชายแดน รวมไปถึงสถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่มีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ในปี 62 สหภาพยุโรปยังคงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.5 ของมูลค่าการส่งออกกุ้งทั้งหมด ด้วยมูลค่า 689.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับปี 61 ซึ่งในปีนี้การส่งออกกุ้งจะฟื้นตัวจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสหรัฐที่เรียกเก็บสำหรับการนำเข้าสินค้ากุ้งจากเวียดนามร้อยละ 0 ขณะที่ ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป (EVFTA) ที่มีผลบังคับใช้เดือนมิ.ย.63 จะส่งผลให้เวียดนามส่งออกกุ้งไปยังตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/shrimp-exports-expected-to-enjoy-fruitful-advantages-throughout-2020-409701.vov

การผลิตไฟฟ้าในประเทศลาวส่งออก 6,457MW ในการส่งออก

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559-ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าของสปป.ลาวสามารถผลิตได้มากถึง6,457MW จากจำนวนโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น 63 แห่งโดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 7,213 เมกะวัตต์ /โรงงาน ทำให้มีไฟฟ้าเพื่อส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 145 สร้างรายได้แก่ประเทศมากกว่า 1.3 พันล้านกีบหรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันเมื่อ 5 ปีก่อน (2554-2558) ซึ่งปัจจุบันสปป.ลาวมีการขยายสายส่งไฟฟ้าเพิ่มติมเพื่อให้เอื้อต่อการตอบสนองอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ของภาคต่างประเทศที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไทย กัมพูชา พม่าที่เป็นคู่ค้าพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญของสปป.ลาวโดยมีการคาดการณ์ว่าประเทศเล่านี้จะมีความต้องการพลังงานาไฟฟ้าในอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มเติมจากเดิมไปอีก เป็นผลดีแก่ภาคพลังงานไฟฟ้าที่จะสร้างรายได้แก่ประเทศมากขึ้นดังนั้นเศรษฐกิจของสปป.ลาวที่มีภาคพลังงานค่อยขับเคลื่อนก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของภาคพลังงานไฟฟ้า

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/electricity-generation-laos-sparks-6457mw-exports-113257