กำลังการผลิตและยอดขายรถจักรยานยนต์เวียดนาม โตแซงไทย

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ตั้งเป้ายอดการผลิตรถจักรยานยนต์ในปีนี้ เกินเป้าที่คาดไว้ที่ 2.1 ล้านคัน เนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทำให้ความต้องการรถจักรยานยนต์เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิป หรือเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายลง แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตชิปสามารถจัดหาชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ได้จำนวนมาก ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม (VAMM) รายงานว่าการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศจะเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2565 ที่ 3.32 ล้านคัน ขยายตัว 9.9% ต่อปี ในขณะที่การบริโภครถจักรยานยนต์ของเวียดนามในปี 2565 มากกว่า 3 ล้านคัน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-surpasses-thailand-in-motorcycle-production-capacity-and-domestic-sales-post1044303.vov

‘ดัชนี PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม กลับมายืนเหนือ 50 จุด ครั้งแรก รอบ 6 เดือน

ตามรายงานของ S&P Global ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนาม ในเดือน ส.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 50.5 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือน ก.ค. ที่ระดับ 48.7 เนื่องจากสัญญาการฟื้นตัวของอุปสงค์ จึงทำให้คำสั่งซื้อใหม่และการผลิตเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การจ้างงานยังคงปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากภาคธุรกิจมองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรับพนักงานใหม่เพิ่ม เพราะอุปสงค์ที่อ่อนตัว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1593373/pmi-back-above-50-mark-for-first-time-in-six-months.html

‘เวียดนาม’ โอกาสขึ้นแท่นฐานการผลิตยักษ์ใหญ่ระดับโลก

เหงียน ตรัง เวือง (Nguyen Thang Vuong) จากสำนักงานตลาดยุโรปและอเมริกา ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่าแอปเปิล (Apple) ได้ย้ายโรงงานของบริษัทไต้หวัน จำนวน 11 แห่งไปยังเวียดนามแล้ว และมองว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่งที่ต้องการขยายเครือข่ายและตั้งโรงงานผลิตในเวียดนาม อาทิเช่น อินเทล (Intel) ได้อัดฉัดเม็ดเงินทุนราว 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการเวียดนาม ขณะที่บริษัทของเล่นระดับโลกสัญชาติเดนมาร์ก เลโก้ (LEGO) ประกาศทุ่มเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานในเมืองบิ่นห์เซือง ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นโอกาสที่ดีของเวียดนามในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/great-opportunity-for-vietnam-to-be-a-global-production-base-post1044055.vov

‘ตลาดร้านสะดวกซัก’ มีศักยภาพเติบโตสูงในเวียดนาม

จากตัวเลขสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รายงานว่าตลาดร้านสะดวกซัก (Laundromat) ในเชิงพาณิชย์ของเวียดนาม เดือน พ.ค. 65 มีมูลค่าทางการตลาด อยู่ที่ราว 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ด้วยอัตราการเติบโต 6% ซึ่งสูงกว่าอัตราค่าเฉลี่ยของเอเชียที่ 3.6% และจากข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่าร้านซักรีดมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 15,136 แห่ง โดยร้านสะดวกซัก 96% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจครัวเรือน นอกจากนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคใหม่ ค่าครองชีพของชนชั้นกลางเวียดนามที่ดีขึ้น และคนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่ ได้นำไปสู่เทรนด์ใหม่ของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ ร้านสะดวกซัก จึงกลายเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการลงทุน เนื่องจากตลาดมีการเติบโตอย่างต่อจากความต้องการมากขึ้นและการแข่งขันที่ต่ำ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1593334/laundromat-market-growing-in-viet-nam.html

สปป.ลาว-เวียดนาม เตรียมเปิดให้บริการทางรถไฟระหว่างกันภายในปี 2028

บริษัท Petroleum Trading Lao Public Company (PTL), บริษัท Yooshin Engineering Corporation และ บริษัท Korea National Railway กำลังเร่งดำเนินการศึกษาออกแบบทางรถไฟระหว่างประเทศ สปป.ลาว-เวียดนาม โดยได้ลงนามในข้อตกลงระหว่างกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว การรถไฟ สปป.ลาว-เวียดนาม จะสนับสนุนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่ทันสมัยและได้มาตรฐานร่วมกัน เพื่อให้การขนส่งมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ โดยโครงการนี้จะเสริมสร้างความเชื่อมโยงให้กับ สปป.ลาว ในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้าภายในอาเซียน ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล และสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศ ในการเปลี่ยนประเทศ สปป.ลาว จากประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเลให้เป็นประเทศที่มีทางเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค รวมถึงโครงการย่อยหลายโครงการ เช่น ท่าเรือบกท่านาแลงและอุทยานโลจิสติกส์เวียงจันทน์ โดยโครงการดังกล่าวจะมีระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างเวียงจันทน์กับอำเภอท่าแขกของแขวงคำม่วนรวมระยะทาง 312 กิโลเมตร และเชื่อมระหว่างอำเภอท่าแขกกับชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม เส้นทางรวม 139 กิโลเมตร ด้วยเงินลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/laos-vietnam-railway-set-to-operate-in-2028-2185982.html

‘เวียดนาม’ นำเข้ารถยนต์จากไทยและอินโดนีเซีย

กรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศทั้งคัน (CBU) จำนวน 80,000 คัน มูลค่าประมาณ 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.4% และ 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยเวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทย จำนวน 36,087 คัน เพิ่มขึ้น 45.2% คิดเป็นมูลค่า 762.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่เดือน ก.ค. เพียงเดือนเดียว เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทย จำนวน 3,714 คัน มูลค่าประมาณ 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ แบรนด์รถยนต์นำเข้าจากไทยที่ได้รับความนิยมจากคนเวียดนาม ได้แก่ Toyota Corolla Cross, Camry, Corolla Altis, Fortuner, Ford Everest, Honda HR-V, Mazda CX-30 และ CX-3, Forester Subaru และอื่นๆ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1593292/cars-imported-from-thailand-indonesia-flood-viet-nam-market.html

‘สหรัฐฯ’ หวังยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนาม เสี่ยงจีนโกรธจัด!

สหรัฐฯ คาดหวังว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางไปเยือนกรุงฮานอยในอีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

ทั้งนี้ นายเล ฮอง เฮียป (Le Hong Hiep) นักวิเคราะห์ระดับสูงจากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค (ISEAS Yusof-Ishak Institute) ของสิงคโปร์ กล่าวว่าความเสี่ยงจะเพิ่มเป็น 2 เท่า จากการยกระดับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทำให้สหรัฐฯ และจีนมีความสัมพันธ์ที่แย่ลงไปอีก อย่างไรก็ดีผู้นำในระดับสูงของเวียดนาม มองว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจาก ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนจะมีทิศทางที่แย่ลงในอนาคต

อีกทั้ง อเล็กซานเดอร์ วูวิง (Alexander Vuving) เจ้าหน้าที่อาวุโสศูนย์วิจัยความมั่นคงเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐ กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้สหรัฐฯ ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม เนื่องมาจากเศรษฐกิจเวียดนามมีความจำเป็นที่ต้องจัดหาเงินทุน เทคโนโลยีและการเข้าถึงทางการตลาด นอกจากนี้ เรื่องพลังงานก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม เพื่อผลักดันให้เวียดนามมีบทบาทสำคัญในตลาดพลังงานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และพลังงานลมนอกชายฝั่ง ถึงแม้ว่าเผชิญกับความล่าช้าในด้านบริหารและการจัดหาเงินทุน

ที่มา : https://www.fijitimes.com/us-expects-to-upgrade-vietnam-ties-risks-china-anger/