เมียนมาร์ส่งออกก๊าซธรรมชาติทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 8 เดือน

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ ระบุว่า มูลค่าการส่งออกก๊าซธรรมชาติของเมียนมาร์มีมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งในบรรดากลุ่มสินค้าส่งออก ภาคการส่งออกก๊าซธรรมชาติของเมียนมาร์อยู่ในอันดับที่สองระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 22 ธันวาคม 2566 อย่างไรก็ดี สถิติที่เผยแพร่โดยกระทรวงการวางแผนและการเงินระบุว่ารายรับจากก๊าซธรรมชาติในไตรมาสที่ 1 (เมษายน-มิถุนายน) ทะลุ 841.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณปัจจุบัน ลดลง 67.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้ว ทั้งนี้ เมียนมาร์ส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยัง ไทย จีน และญี่ปุ่น โดยโครงการผลิตก๊าซนอกชายฝั่ง Yadana, Yedagun, Shwe และ Zawtika ดำเนินการขุดเจาะและสกัดก๊าซธรรมชาติในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-natural-gas-exports-bag-over-us2-bln-in-8-months/

การส่งออกข้าวของเมียนมาร์ทะลุ 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณนี้

มูลค่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาร์มีมูลค่ารวม 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปริมาณการส่งออกทั้งหมด 955,502 ตันในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบันปี 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยปริมาณการส่งออกแบ่งเป็นการค้าทางทะเล 883,244 ตัน และ 72,258 ตันที่ชายแดน ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ (MRF) ทั้งนี้ มีการบันทึกปริมาณการส่งออกข้าวสูงที่สุดในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 195,829 ตัน คิดเป็นมูลค่า 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  รองลงมาคือเดือนพฤศจิกายน 175,990 ตัน มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตุลาคม 119,526 ตัน มูลค่า 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ อย่างไรก็ดี สหพันธ์มีเป้าหมายที่จะบรรลุการส่งออกข้าว 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ในปีงบประมาณที่แล้ว 2565-2566 จีนเป็นผู้ซื้อข้าวและข้าวหักรายใหญ่ของเมียนมาร์ซึ่งมีปริมาณการส่งออกมากกว่า 775,000 ตัน ตามมาด้วยเบลเยียม 323,000 ตัน บังกลาเทศมากกว่า 239,000 ตัน และฟิลิปปินส์ที่กว่า 202,000 ตัน ซี่งสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ ระบุว่าเมียนมาร์พยายามที่จะบรรลุการส่งออกข้าวที่เติบโตร้อยละ 10 เพื่อเพิ่มรายได้จากต่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการส่งออกข้าวคุณภาพสูงและสนับสนุนปริมาณการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-rice-exports-cross-us462m-this-fy/

เมียนมาร์มีความพยายามที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกในภาคส่วนที่หลากหลาย

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ (MoC) กำลังพยายามเพิ่มผลผลิตและส่งออกสินค้าจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะพืชผลและผัก ผลิตภัณฑ์ประมง หยก ปุ๋ย เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ตามสถิติและแถลงการณ์ของกระทรวง มูลค่าการส่งออกรวมของเมียนมาร์เพิ่มขึ้น 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ผ่านเส้นทางการขนส่งและการค้าชายแดน เนื่องจากปัจจุบันเป็นฤดูกาลที่เฟื่องฟูสำหรับผลิตผลทางการเกษตร กระทรวงคาดการณ์ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นในภาคส่วนนี้ ในส่วนของการส่งออกผลิตภัณฑ์ประมง มีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในหนึ่งสัปดาห์ โดยส่งออกผ่านการขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปลา ปลาป่น และปลาแห้งยังถูกขนส่งผ่านด่านการค้าเกาะสอง มะริด มอตอง และเมียวดี อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการส่งออกของภาคเอกชนแล้ว ภาครัฐยังขนส่งหยก 3,228 กิโลกรัมที่จำหน่ายโดยห้างสรรพสินค้าอัญมณีไปยังจีนอีกด้วย รวมทั้งศูนย์บริการแบบครบวงจรของบริษัท Myanma Gems Enterprise ยังจำหน่ายเครื่องประดับหยกมูลค่าเพิ่ม เช่น กำไล ลูกปัด และโซ่มือ โดยส่งออกไปยังตลาดจีนโดยการขนส่งทางอากาศ ในส่วนรายได้จากการส่งออกยาง ได้รับอนุญาตให้นำไปลงทุนในสินค้าภายในประเทศที่จำเป็น เช่น ปุ๋ยและเชื้อเพลิง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของสินค้าโภคภัณฑ์และเพิ่มผลกำไรให้กับผู้ส่งออก การส่งออกยางจึงเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงต้นเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ตามสถิติ เช่นเดียวกับ การส่งออกหนังดิบและเครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น น้ำตาลและผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่ม CMP ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนหน่วยงาน สมาคม และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันส่งเสริมภาคการค้าของประเทศ เพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า ขยายตลาดโลก และส่งออกสินค้ามากขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-seeks-to-expand-global-market-shares-in-versatile-sectors/

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาร์ทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 8 เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ ระบุว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของเมียนมาร์มีมูลค่า 2.035 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งมูลค่าดดังกล่าวเป็นมูลค่ารวมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผานมา ทั้งนี้ ตัวเลขมูลค่าการส่งออกดังกล่าวลดลงจาก 2.364 พันล้านดอลลาร์ที่มีการเก็บข้อมูลสถิติไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงเท่ากับ 328.349 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมียนมาร์มีการส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้าสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง วัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้า CMP และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ เมียนมาร์ได้มีการดำเนินยุทธศาสตร์การส่งออกแห่งชาติ (NES) พ.ศ. 2563-2568 เพื่อสนับสนุนการส่งออก ซึ่งภาคส่วนที่มีลำดับความสำคัญของ NES ประกอบด้วยการผลิตทางการเกษตร เครื่องนุ่งห่มและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจประมง ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ การผลิตและบริการดิจิทัล บริการโลจิสติกส์ การจัดการคุณภาพ บริการข้อมูลการค้า นวัตกรรม และภาคผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-agri-exports-surpass-us2-bln-in-8-months/#article-title

การส่งออกยางของเมียนมาร์เพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 8 เดือน

ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 1 ธันวาคม ในปีงบประมาณ 2566-2567 เมียนมาร์ส่งออกยางกว่า 99,660 ตันไปยังต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 123.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาทั่วไปของยางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 1,580 จ๊าดต่อปอนด์ และยางตากแห้ง 1,560 จ๊าดต่อปอนด์ ในตลาดยางของรัฐมอญ ซึ่งราคายางของเมียนมาร์จะได้รับอิทธิพลจากความต้องการยางทั่วโลก การผลิตยางของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอุปทานในตลาดเป็นหลัก อย่างไรก็ดี เป้าหมายการส่งออกยางพาราของสมาคมยางเมียนมาร์ที่ตั้งไว้ในปีงบประมาณนี้คือ 300,000 ตัน ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าการผลิตยางในปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมา ที่มีการผลิตเกิน 360,000 ตัน และมีการส่งออกยางมากกว่า 200,000 ตันไปยังคู่ค้าต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-rubber-exports-swell-to-us123-mln-in-8-months/#article-title

การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปของเมียนมาร์มีมูลค่าสูงถึง 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาร์ เผยสถิติ มูลค่าการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผ่านกระบวนการตัด ผลิตและบรรจุหีบห่อ (CMP) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – วันที่ 1 ธันวาคม ในปีงบประมาณ 2566-2567 มีมูลค่ามากกว่า 2.966 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาสินค้าส่งออกหลัก 10 รายการ ในขณะที่ มูลค่าการส่งออกก๊าซธรรมชาติมีมูลค่า 2.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกถั่วดำ 474.126 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกข้าวและข้าวหัก 378.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกข้าวโพด 271.312 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกปลา 220.418 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกถั่วเขียว 185.983 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกยางธรรมชาติ 123.691 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การส่งออกถั่วมะแฮะ 101.952 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการส่งออกโลหะและแร่ 79.404 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในบรรดาประเทศคู่ค้าสิบอันดับแรกของเมียนมาร์ ประเทศไทยถือเป็นอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าการค้ากว่า 2.472 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาคือจีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สเปน สาธารณรัฐเกาหลี และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ เมียนมาร์ยังพยายามเพิ่มการส่งออกภาคการผลิต และไม้วีเนียร์และไม้อัด ผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูป เสื้อผ้า น้ำตาล และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากชายแดนแล้ว เมียนมาร์ยังส่งออกสินค้าทางทะเลและทางอากาศอีกด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/garment-exports-top-us2-9-bln-in-past-eight-months/#article-title

เมียนมาร์กระตุ้นการส่งออกถั่วพัลส์ตามเป้าหมายประจำปี โดยส่งออกไปแล้ว 1 ล้านตัน

สมาคมผู้ค้าถั่วพัลส์ ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงาของเมียนมาร์ รายงานว่า ด้วยการส่งออกพัลส์ในปัจจุบันมากกว่า 1 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่ทางทะเล ในปีงบประมาณนี้ คาดการณ์ว่าสมาคมจะบรรลุเป้าหมายประจำปีตามปกติอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 2 ล้านตันต่อปี โดยการค้าทางทะเลถือเป็นช่องทางหลักในการส่งออก ในขณะที่เส้นทางชายแดนส่วนใหญ่ใช้สำหรับขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีน ท่ามกลางความยากลำบากในการขนส่งทางถนน ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศปลายทาง อินเดียถือเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่เมียนมาร์มีการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าว โดยการส่งออกไปยังอินเดียส่วนใหญ่ผ่านทางทะเล เนื่องจากการค้าชายแดนเป็นเรื่องยากในการขนส่ง อย่างไรก็ดี ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 17 พฤศจิกายน ปีงบประมาณนี้ เมียนมาร์มีรายได้มากกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกถั่วพัลส์มากกว่า 1 ล้านตัน รวมถึงถั่วดำและถั่วแฮะ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-pulses-export-on-track-to-meet-annual-target-with-1-mln-tonne-already-shipped/

การส่งออกของเมียนมาร์มีมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา

ตามการรายงานของการค้าภายนอก กระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาร์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมสำหรับปีการเงินปัจจุบันปี 2566-2567 การส่งออกของเมียนมาร์มีมูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าส่งออกได้แก่ ถั่วดำ ข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด กรัมเขียว ยางพารา ถั่วพีเจ้น งา ถั่วลิสง หัวหอม มะขาม ขิง คอนยัค เมล็ดละหุ่ง เมล็ดกาแฟ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ฝ้าย มันสำปะหลัง แตงโม แตงกวา มะม่วงและกล้วยทิชชู่ในหมวดผลิตผลทางการเกษตร นอกจากนี้ ปลา กุ้ง ปู ปลาไหล และปลาแห้งยังเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ประมงอีกด้วย ทั้งนี้ เมียนมาร์ส่งออกสินค้าไปยัง 117 ประเทศระหว่างเดือนเมษายนถึงธันวาคม โดยมีประเทศคู่ค้าที่โดดเด่นซึ่งมีอุปสงค์สูง ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี โปแลนด์ เกาหลีใต้ อังกฤษ สเปน เบลเยียม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย อย่างไรก็ดี จีนกำลังส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกอย่างแข็งขัน รวมถึงเสาเข็มวัสดุคอมโพสิต ไม้เนื้อดี ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากไม้ เสื้อผ้า น้ำตาล และสินค้าขั้นสุดท้ายอื่นๆ นอกจากนี้ รายงานระบุอีกว่าบริษัท 5,938 แห่งดำเนินธุรกิจส่งออกและนำเข้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เส้นทางทะเล เส้นทางการค้าชายแดน และเส้นทางการบิน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-reach-almost-us10-bln-in-last-eight-months/#article-title

ผลิตภัณฑ์ CMP ของเมียนมาร์เข้าถึงตลาดมากกว่า 80 แห่ง รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี

U Min Min รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เสื้อผ้าของเมียนมาร์ส่วนใหญ่ส่งออกไปยัง 12 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยสินค้า CMP มีส่วนสำคัญ ในภาคการส่งออกสิ่งทอของเมียนมาร์โดยมีประเทศปลายทางมากกว่า 100 ประเทศ และรายได้สุทธิ อยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2565-2566 ทั้งนี้ ตลาดหลักสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเรา ได้แก่ ญี่ปุ่น โปแลนด์ สเปน เยอรมนี เกาหลี สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเบลเยียม อย่างไรก็ดี ประเทศที่จ้างเหมานำเข้าวัตถุดิบหลักส่วนใหญ่สำหรับโรงงาน CMP นำเข้าผ่านทางตลาดจีน 90% ซึ่งในปีนี้มีการนำเข้าสิ่งทอดิบมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวระบบออนไลน์ Myanmar Tradenet 2.0 เพื่ออำนวยความสะดวกใน กระบวนการนำ เข้าวัตถุดิบและส่งออกผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรม CMP

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-cmp-products-reach-over-80-markets-including-us-japan-korea/

‘HSBC’ เผยทิศทางการส่งออกของเวียดนามฟื้นตัวต่อเนื่อง

จากข้อมูลของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) เปิดเผยว่าตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ การส่งออกของเวียดนามฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากในเดือนพฤศจิกายน การส่งออกขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การส่งออกสินค้าสิ่งทอและรองเท้ายังคงซบเซา แต่หากพิจารณาสินค้าอื่นๆ ขยายตัวได้ดีขึ้น ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ (20.2%YoY) และเครื่องจักร (5%YoY) ซึ่งสินค้าเหล่านี้ยังคงมีสัญญาณเชิงบวก

ทั้งนี้ นโยบายวีซ่าของเวียดนามที่มีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม ผลักดันนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายน เวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวเกินกว่า 1 ล้านคน นับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายน ลดลงเหลือ 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-continues-to-see-improvement-in-exports-hsbc-2224046.html