โรงงานรองเท้ายักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ปลดพนักงานกว่า 5 พันคน
วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าว Taiwan News ของไต้หวัน เสนอข่าว Taiwan footwear titan Pou Chen to layoff 5,700 workers in Vietnam ระบุว่า Pou Yuen Vietnam บริษัทผลิตรองเท้าในเวียดนาม ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท Pou Chen ของไต้หวัน ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 5,744 คนในในสัปดาห์นี้ โดย Pou Yuen Vietnam เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ และจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง คิดเป็นร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมดในบริษัท โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จะทยอยได้รับแจ้งระหว่างวันที่ 24 มิ.ย.-8 ก.ค. 2566 ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ. 2566 Pou Yuen Vietnam เพิ่งเลิกจ้างพนักงานไป 2,358 คน พร้อมจัดงบประมาณสำหรับจ่ายค่าชดเชยรวม 355 ล้านเหรียญไต้หวัน หรือราว 390 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวรับจ้างผลิตรองเท้าให้กับแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ ไนกี้ อาดิดาส รีบอค ฯลฯ โดยการเลิกจ้างพนักงานนั้นเริ่มมีข่าวลือมาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลง เวลานั้นคาดการณ์ว่าอาจมีพนักงานถูกเลิกจ้างถึง 3 หมื่นคน แต่พบว่าเลิกจ้างจริง 2,800 คน
“สหรัฐฯ” นำเข้าชิป 10% จากเวียดนาม
ตามรายงานของกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร (MIC) ระบุว่าเวียดนามมียอดการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์ไปยังประเทศสหรัฐฯ จำนวนมาก อยู่ในอันดับที่ 3 ในเอเชีย รองจากมาเลเซียและไต้หวัน และเวียดนามมีสัดส่วนการส่งออกชิปมากกว่า 10% ของปริมาณการนำเข้าชิปของสหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การส่งออกชิปของเวียดนามส่วนใหญ่มาจากบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม (FIEs) ซึ่งจะดำเนินงานไม่ได้มีความ ซับซ้อน อาทิเช่น การประกอบและการทดสอบ ทั้งนี้ คุณ แดเนียล หลิน จากบริษัท MediaTek กล่าวว่าเวียดนามมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งเชื่อมโยงสำคัญของห่วงโซ่อุปทานชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก หากสามารถทำการผลิตได้ดีและการสร้างและออกแบบนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้ง เวียดนามควรคำนึงถึงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ อาจเริ่มต้นจากการดำเนินงานที่ไม่ซับซ้อน เช่น การออกแบบไอซี การสร้างโรงงานและห้องปฏิบัติการ การบรรจุภัณฑ์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นต้น ก่อนที่จะค่อยๆ ยกระดับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/10-of-chips-imported-to-us-are-from-vietnam-2142369.html
“แอปเปิล” เตรียมเปิดร้านออนไลน์แห่งแรกในเวียดนาม สัปดาห์หน้า!
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ “แอปเปิล” เตรียมเปิดสโตร์ในเวียดนามที่จะนำเสนออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และการให้บริการต่างๆ โดยเฉพาะการให้บริการจัดส่งสินค้าและการให้บริการสำหรับลูกค้าแต่ละคน โดยลูกค้าชาวเวียดนามสามารถซื้อไอโฟน (iPhone), ไอแพด (iPads) และแมคบุ๊ค (MacBooks) รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์ของแอปเปิลเวียดนามได้ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. เป็นต้นไป ทั้งนี้ การดำเนินการของบริษัทเกิดขึ้นหลังจากแอปเปิลเพิ่งเปิด Apple Store สาขาแรกในอินเดียและมุมไบ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเปิดร้านออนไลน์แห่งแรกของแอปเปิลในเวียดนาม นับว่าเป็นก้าวสำคัญของการเปิดร้านค้าปลีกในประเทศ
ที่มา : https://vietreader.com/news/83865-apple-to-open-first-online-shop-in-vietnam-next-week.html
“ดองเวียดนาม” เป็น 1 ใน สกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในเอเชีย
รายงานการวิเคราะห์ตลาดของบริษัท มิแร แอสเซ็ท ซีเคียวริตีส์ เวียดนาม (Mirae Asset Securities Vietnam) แสดงให้เห็นว่าในเดือน เม.ย. อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อดองเวียดนาม ปรับตัวลดลง 0.2% และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 23,500 ดอง/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอยู่ในระดับทรงตัวตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. ในขณะที่ธนาคารยูโอบี (UOB) ได้จัดอันดับให้สกุลเงินดองของเวียดนามเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในเอเชีย ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและความไม่มีเสถียรภาพของระบบธนาคารในสหรัฐฯ ตลอดจนการประมาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-dong-one-of-most-stable-currencies-in-asia-experts/252792.vnp
“เวียดนาม” ชี้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม เม.ย. ปรับตัวดีขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคอุตสาหกรรมในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าและนโยบายการเงินแบบรัดตัวในหลายๆประเทศ ส่งผลให้การบริโภคของประเทศคู่ค้าลดลง และทำให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าและการส่งออกปรับตัวลดลงตามไปด้วย ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 นอกจากนี้ การกลับมาเปิดประเทศของจีน จะช่วยให้เกิดการแข่งขันมากขึ้นสำหรับสินค้าเวียดนามในตลาดส่งออกสำคัญของประเทศ
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/industrial-production-increases-in-april/252778.vnp
“เวียดนาม-อินโดนีเซีย” ตั้งเป้าการค้าปี 71 แตะ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายโจโค วิโดโด (Joko Widodo) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้หารือกับนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 ที่จัดขึ้นในเมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนิเซีย โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าที่จะบรรลุเป้าหมายกว่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 ตลอดจนมีการตกลงทวิภาคีด้านการลงทุน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีการลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ ตามข้อมูลการค้าระหว่างอินโดนีเซียและเวียดนาม มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 13.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เพิ่มขึ้นราว 11.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อน
ที่มา : https://jakartaglobe.id/business/indonesia-vietnam-aim-for-15-billion-trade-by-2028
“ผู้ออกกฎหมายเวียดนาม” เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย หนุนศก.เติบโต
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าผู้ออกกฎหมาย หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติของเวียดนาม มีการเรียกร้องให้ธนาคารกลางพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อพยุงเศรษฐกิจและช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในช่วงปลายปี 2565 ชะลอตัวจาก 5.92% ลงมาอยู่ที่ 3.32% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งผลให้ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวน 2 ครั้งในปีนี้ โดยเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ 6.5% ในปี 2566 อย่างไรก็ดี เวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายหรืออุปสรรคอีกหลายประการที่จะกดดันเศรษฐกิจและเป้าหมายของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้
กัมพูชา-เวียดนาม พิจารณาเพิ่มเที่ยวบินตรง เสียมราฐ-ฟู้โกว๊ก
กัมพูชาและเวียดนามพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดเที่ยวบินตรงเชื่อมระหว่างเสียมราฐและเกาะฟู้โกว๊ก ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถูกหารือระหว่าง Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา และ Nguyen Van Hung รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม รวมถึงรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเชื่อมต่อท่าเรือท่องเที่ยวกำปอตเข้ากับท่าเรือท่องเที่ยวบนเกาะฟู้โกว๊กในเวียดนาม เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศผ่านการเชื่อมโยงดังกล่าว โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หลังจากรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (ซีเกมส์) ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขนี้ กัมพูชาและเวียดนามจะมุ่งเน้นการพัฒนาแพ็คเกจการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ภายใต้กรอบของ “Two Countries, One Destination” ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับทวิภาคี
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501286680/siem-reap-phu-quoc-direct-flight-mooted/
“การไฟฟ้าเวียดนาม” มองข้ามผลกระทบ ของการขึ้นค่าไฟฟ้า
หนังสือพิมพ์เวียดนาม นิวส์ รายงานว่าเวียดนามปรับขึ้นค่าไฟฟ้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ทำให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังมองว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในครั้งนี้น่าจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในระยะสั้น โดยการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ทำการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกเฉลี่ย 3% และภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Mirae Asset คาดการณ์ว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า คิดเป็นประมาณ 0.105% ของดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้น 5% จะทำให้ดัชนี CPI สูงขึ้น 0.175% อย่างไรก็ดี ในระยะสั้น การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ เนื่องจากผู้ผลิตไฟฟ้าจะลงนามสัญญาระยะยาวกับการไฟฟ้า ซึ่งบางสัญญาใช้ระยะเวลานานถึง 25 ปี
ที่มา : https://english.news.cn/asiapacific/20230508/a510476ed2264890955a70542d8b3027/c.html