“เซ็นทรัล” เดินหน้าลงทุนเวียดนาม

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) เปิดเผยว่าทางบริษัทมองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดเวียดนามและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ด้วยฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทที่ทำธุรกิจและการตั้งเป้าโรดแมป 5 ปี จึงมีความพร้อมที่จะอัดงบลงทุน 5 ปี ในเวียดนามอีกกว่า 50 พันล้านบาท ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 340 แห่ง และมีพื้นที่รวมกันเกินกว่า 1.2 ล้านตารางเมตร ครอบคลุมไปยัง 40 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ นาย Olivier Langlet ผู้บริหารสูงสุดของ Central Retail Vietnam กล่าวว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เผชิญกับความไม่แน่นอน โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.7% และ 7.2% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ เทียบกับ 3.5% ต่อปีของเศรษฐกิจไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ตลาดเวียดนามเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2509314/crc-bullish-on-vietnam

รัฐบาลเวียดนามเตือนการไฟฟ้าเสี่ยงขาดทุน $2.7 พันล้านในปีนี้หากไม่ปรับขึ้นราคา

รอยเตอร์ – การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) จะขาดทุน 64,900 ล้านล้านด่ง (2,750 ล้านดอลลาร์) ในปีนี้ หากราคาค่าไฟฟ้าขายปลีกยังไม่เปลี่ยนแปลง รัฐบาลเวียดนามระบุในคำแถลงว่า หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าไฟขายปลีก จะทำให้มูลค่าการขาดทุนของการไฟฟ้าในปีนี้และปีก่อนรวมกันเป็น 93,800 ล้านล้านด่ง ทั้งนี้ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้พยายามที่จะปรับขึ้นราคาค่าไฟฟ้าขายปลีกเพื่อสนับสนุนการลงทุนในภาคการผลิตพลังงาน แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เผชิญกับแรงกดดันในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม การปรับราคาค่าไฟฟ้าใดๆ ก็ตามจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อ ชีวิตของผู้คนและเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ เวียดนามตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 4.5% ในปีนี้ ส่วนราคาผู้บริโภคในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.55% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9660000015316

“Foxconn” ขยายการดำเนินกิจการในเวียดนาม

ตามรายงานของสื่อดัง “South China Morning Post (SCMP)” เปิดเผยว่าบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ผู้รับเหมาการผลิตรายใหญ่ที่สุดของ Apple ประกาศลงทุนในเวียดนามกว่า 62.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลงนามในสัญญาเช่าที่ดินในจังหวัดบั๊กซาง (Bac Giang) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 45 เฮกตาร์ เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจและขยายกำลังการผลิตในเวียดนาม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในสวนอุตสาหกรรม Quang Chau ที่จังหวัดบั๊กซาง ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ Apple จำนวนมากผลิตในเวียดนาม ได้แก่ AirPods, Apple Watch และ iPad บางรุ่น นอกจากนี้ Apple ยังวางแผนที่จะย้ายสายการผลิต MacBook Pro บางรุ่นไปยังเวียดนามในช่วงกลางปี ​​2566

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/foxconn-expands-operation-in-vietnam-post1002084.vov

“เวียดนาม” ตั้งงบ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

คุณ Kazuo Kusakabe หัวหน้าคณะผู้แทนของบริษัท Toshiba Asia Pacific Pte Ltd กล่าวในที่เปิดฟอรั่มเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาหลังโควิด-19 และความร่วมมือระหว่างเวียดนามและญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการเติบโตสีเขียว ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการจัดการเศรษฐกิจกลาง (CIEM) เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่าเวียดนามต้องการงบประมาณสูงถึง 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และได้เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ถือเป็นความท้าทายของโลก รวมถึงเวียดนามอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องยกระดับโครงการขนาดใหญ่และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ นาง Tran Thi Hong Minh ผู้อำนวยการสถาบัน CIEM ได้กล่าวว่าเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศไปสู่การเติบโตสีเขียว จำเป็นต้องส่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-needs-600-billion-usd-to-achieve-carbon-neutrality-2110715.html

“เวียดนาม” จำเป็นต้องสร้างแบรนด์ผลไม้สู่ระดับสากล

เวียดนามจำเป็นต้องพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์ผลไม้ระดับประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ถึงแม้ว่าผลไม้จะทำรายได้จากการส่งออกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่เวียดนามยังไม่มีแบรนด์ผลไม้ที่มีชื่อเสียงเลย ทั้งนี้ หากสอบถามมุมมองของผู้บริหารบริษัท Vina T&T Import – Export Service Trading จำกัด (Vina T&T) กล่าวว่าในกรณีที่พูดถึงแอปเปิ้ล ก็จะนึกถึงสหรัฐฯ หากพูดถึงทุเรียนหมอนทอง ก็จะนึกถึงประเทศไทย และหากเปรียบเทียบกับคุณภาพของทุเรียนเวียดนาม สายพันธุ์ Ri6 กับทุเรียนที่มาจากไทยและมาเลเซีย คิดว่าทุเรียนเวียดนามจะได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าส่งออกของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดียังคงมีความบกพร่องในเรื่องของเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ ดังนั้น เวียดนามควรสร้างแบรนด์ผลไม้ที่เพิ่มสูงค่าและมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศไทย แต่สิ่งสำคัญในการสร้างแบรนด์ คือ การควบคุมหรือการรับรองมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อย่างเข็มงวด

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1483448/vn-needs-to-build-national-brands-for-fruits.html

“โครงสร้างพื้นฐานเวียดนาม” ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากจีน

นาย Jiehe Yan ประธานบริษัท China Pacific Construction กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าทางบริษัทจะเตรียมจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม เพื่อทำการสำรวจศักยภาพการลงทุนในภาคโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ในขณะเดียวกัน ดร.โจนาธาน ชอย (Dr. Jonathan Choi) ประธานหอการค้าจีน ได้เดินทางมายังประเทศเวียดนามเมื่อเดือนก่อน เพื่อส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การค้า บริการและภาคอุตสาหกรรม และยังกล่าวด้วยว่าเวียดนามเป็นศูนย์กลางดึงดูดที่น่าสนใจของนักลงทุนชาวจีน ทั้งนี้ การลงทุนของจีนในประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2558-2565 ขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ 17% ต่อปี ถึงแม้ว่ามีการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด แต่กระแสการลงทุนยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากหลายโครงการสำคัญจากจีน ไต้หวันและฮ่องกง ได้ขยายธุรกิจหรือปรับเพิ่มเงินทุน เพื่อยกระดับผลผลิตในเวียดนาม

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnams-infrastructure-luring-chinese-investment-99771.html

“พาณิชย์-DITP” ชี้เป้านักลงทุนไทยลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนาม

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข้อมูลจาก นางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ถึงการติดตามสถานการณ์การแข่งขันของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในเวียดนาม และโอกาสในการเข้าไปลงทุนด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการไทย

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในเวียดนามว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นาย เล มินห์ ไค รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ลงนามในข้อมติ No.163/NQ-CP ว่าด้วยการส่งเสริมการดำเนินการงานหลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศ เพื่อพัฒนาบริการโลจิสติกส์ให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเพื่อเชื่อมโยงกับการพัฒนาการผลิตสินค้า การนำเข้า การส่งออก และการค้าภายในประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการด้านบริการโลจิสติกส์ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสการลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนามของนักลงทุนไทย เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการคลังสินค้าและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.thailandplus.tv/archives/670257