เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 53 ลำจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนกุมภาพันธ์

สำนักงานการท่าเรือเมียนมาประกาศว่าเรือขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 53 ลำมีกำหนดจะเดินทางมาถึงท่าเรือย่างกุ้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยมีเรือขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท SITC Shipping Line จำนวน 10 ลำ บริษัท Cosco Shipping Line จำนวน 8 ลำ บริษัท Samudera Shipping Line จำนวน 6 ลำ บริษัท Maersk A/S Line จำนวน 5 ลำ บริษัท MSC Line และ CMA CGM Line จำนวน 4 ลำ บริษัท Ti2 Container Line, ONE Line และ RCL Line จำนวน 3 ลำ บริษัท BLPL Shipping Line, Ocean Salute Shipping Line และ Evergreen Line จำนวน 2 ลำ และเรือขนส่งทางบกและทางทะเล 1 ลำ อย่างไรก็ดี สำนักงานการท่าเรือเมียนมาได้จัดเตรียมช่องทางการค้าทางทะเลเพื่อรองรับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ ส่งเสริมการส่งออก และปรับปรุงขีดความสามารถของท่าเรือให้สามารถรองรับเรือที่มาถึงได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งสำนักงานการท่าเรือเมียนมาจะแจ้งให้ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าทราบเกี่ยวกับตารางการมาถึงของเรือโดยเร็วที่สุดเมื่อตารางการมาถึงขยายออกไป เรือขนส่งสินค้า 62 ลำเดินทางมาถึงท่าเรือย่างกุ้งในเดือนมกราคม 2025 นอกจากนี้ ในปี 2023 และ 2024 ท่าเรือย่างกุ้งมีการรองรับเรือขนส่งสินค้าไปแล้ว 629 และ 633 ลำ ตามลำดับ

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/53-container-vessels-to-dock-at-yangon-port-in-feb/

ส่งออกข้าวปี 60 สร้างรายได้ 1.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) แถลงว่า ในปีที่แล้วเมียนมามีบริษัทส่งออกข้าวและข้าวหักรวม 103 บริษัทไปยัง 49 ประเทศคู่ค้า ปริมาณการส่งออกรวมกว่า 2,767,414 ตัน ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1,331.899 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ในด้านภาคเอกชนได้ดำเนินการส่งออกข้าวและข้าวหักตามนโยบายและคำสั่งของรัฐบาล และในขณะเดียวกันก็ได้ส่งเสริมให้บริษัทส่งออกรายใหม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วยการแบ่งปันความรู้และจัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ และกระบวนการของตลาดข้าวระหว่างประเทศ สหพันธ์ข้าวเมียนมาระบุอีกว่า ผู้ส่งออกรายใหม่มีส่วนร่วมในภาคการส่งออกข้าวและข้าวหักด้วยแนวทางที่เป็นระบบ โดยสมาชิกของสหพันธ์ข้าวเมียนมาขยายตัวเป็น 1,196 ราย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 เพิ่มขึ้นจาก 980 ราย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 ปีก่อน ด้วยการเติบโตของสมาชิกและความไว้วางใจและความร่วมมือ MRF จะให้บริการที่ดีขึ้น การแบ่งปันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้น MRF ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และโรงสีข้าว ได้เชิญชวนผู้ส่งออกที่ต้องการร่วมมือในภาคการส่งออกข้าวและข้าวหักในปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงตลาด และช่วยเหลือในการดำเนินงานแก่สมาชิก

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/rice-and-broken-rice-export-earns-us1331-899million-in-last-year/

เมียนมามีรายได้ 447 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวโพดในปีงบประมาณ 2024-2025

ตามข้อมูลของสมาคมพ่อค้าข้าวโพดเมียนมา เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปยังตลาดต่างประเทศมากกว่า 1.88 ล้านตันในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนในปีงบประมาณปัจจุบัน 2024-2025 คิดเป็นมูลค่า 447 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดรายใหญ่ของเมียนมา ปัจจุบันส่งออกไปยังจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และบังคลาเทศ อย่างไรก็ดี ข้าวโพดของเมียนมาเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งจากผู้ซื้อจากต่างประเทศและโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ข้าวโพดจะถูกส่งมายังประเทศไทยโดยได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ประเทศไทยอนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวโพดโดยไม่เสียภาษีศุลกากร (โดยใช้แบบฟอร์ม D) ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคม 2567 นอกจากนี้ ประเทศไทยกำหนดอัตราภาษีสูงสุดที่ 73 เปอร์เซ็นต์สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ปลูกหากมีการนำเข้าข้าวโพดในช่วงฤดูกาลของประเทศไทย ดังนั้น ผู้ค้าจึงเก็บข้าวโพดเพื่อส่งออกภายใต้การยกเว้นภาษี

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/myanmar-bags-us447m-from-maize-exports-in-fy-2024-2025/

FTA ระดับภูมิภาค-ทวิภาคี ช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชา

เจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของกัมพูชาเปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรี (FTAs) ทั้งระดับภูมิภาคและทวิภาคีมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการกระจายตลาด และช่วยผลักดันการเติบโตและพัฒนาการของกัมพูชา โดยกัมพูชาเป็นสมาชิกของความตกลงการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN FTA), ความตกลงอาเซียนบวกหนึ่งกับประเทศคู่เจรจา และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนี้ กัมพูชายังมีความตกลงการค้าเสรีทวิภาคีกับจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย ปัจจุบันกัมพูชามีแผนเจรจากับพันธมิตรอื่นๆ เพื่อขยายการเข้าถึงตลาดใหม่สำหรับสินค้าของตน เศรษฐกิจกัมพูชาในปี 2024 เติบโตขึ้นร้อยละ 6 และคาดว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 6.3 ในปี 2025 ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยให้กัมพูชาสามารถหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) ได้ภายในปี 2029 และบรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2050

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501628135/regional-bilateral-ftas-help-foster-cambodias-growth-and-development-says-commerce-official/#google_vignette

ภาคการส่งออกทางทะเลของย่างกุ้งเฟื่องฟู โดยมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 80 รายการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

จากแหล่งข่าวในตลาดปลา Kyimyindine Sanpya ระบุว่า ในย่างกุ้งมีผลิตภัณฑ์ทางทะเลประมาณ 80 ชนิดที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศและส่งออกเป็นประจำ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่งออกผ่านคลังสินค้าแบบเย็นไปยังประเทศต่างๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ จีน และไทย โดยใช้เส้นทางเดินเรือ ด้าน Daw Tin Nwe นักธุรกิจในอุตสาหกรรมการประมงอธิบายว่า ปลาและกุ้งที่มาจากทะเลจะถูกส่งไปยังคลังสินค้าแบบเย็นจากท่าเทียบเรือในย่างกุ้ง จากนั้นจึงส่งออกผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์โดยใช้เส้นทางเดินเรือ ในบางกรณีผู้ซื้อจากต่างประเทศจะมาสั่งซื้อด้วยตนเอง ในขณะที่บางรายจะมีตัวแทนจัดการกระบวนการส่งออกให้ทั้งหมด นอกจากปลาทะเลแล้ว ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากปลาน้ำจืดด้วย อย่างไรก็ดี ย่างกุ้งมีท่าเทียบเรือมากกว่า 10 แห่งที่เรือประมงทะเลจอดเทียบท่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์จากทะเล เช่น ปลากะพงขาว ปลากะพงขาว และกุ้งที่ส่งออก ส่วนใหญ่มาจากทะเลเมียนมา ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ทางทะเลเติบโตดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจประมงคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูง เช่น ปลาสลิดและปลาหมึกจะเข้าสู่ตลาดย่างกุ้งในปริมาณมากในเดือนนี้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการจากต่างประเทศที่แข็งแกร่ง

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/yangons-marine-exports-flourish-with-over-80-products-shipped-to-international-markets/

กัมพูชาจ่อสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีต่อไป

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีต่อไป และพร้อมที่จะเจรจาการปฏิรูปใดๆ ที่จะทำให้ระบบมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามคำกล่าวของ Sok Sopheak ปลัดกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งได้ย้ำถึงจุดยืนระหว่างการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ของกัมพูชาในฐานะสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่จัดขึ้น ณ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนความช่วยเหลือด้านการค้าระดับโลกครั้งที่ 9 ในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Sok Sopheak ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกัมพูชาในเศรษฐกิจโลก โดยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงโครงสร้างเป็นผลโดยตรงจากการที่กัมพูชาผนวกตนเองเข้าไปในระบบการค้าพหุภาคีขององค์การการค้าโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501514640/cambodia-to-continue-supporting-multilateral-trading-system/

กรมเจรจาฯ โชว์มูลค่าการค้า FTA 5 เดือนแรกกระฉูด 5.34 ล้านล้านบาท

น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) และการประชุมระหว่างประเทศ ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ว่า ได้เร่งรัดเจรจาเพื่อเร่งรัดหาข้อสรุป FTA ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) และผลักดัน FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจา อาทิ ไทย-สหภาพยุโรป (EU) อาเซียน-แคนาดา และ FTA 2 ฉบับใหม่ คือ ไทย-เกาหลีใต้ และไทย-ภูฏาน รวมทั้งผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัยที่ให้ความสำคัญกับการเจรจาจัดทำ FTA เพื่อเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดโลก สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค. 2567) การค้าของไทยกับ 18 ประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 145.5 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.1 โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 70.9 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 2.4 และไทยนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 74.6 พันล้านดอลลาร์ หดตัวร้อยละ 2.0

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/economics/news_777777804663

เรือสินค้า 27 ลำให้บริการในเส้นทางการค้ามัณฑะเลย์ในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนมิถุนายน

จากสถิติของกรมบริหารทางทะเลแห่งมัณฑะเลย์ พบว่าเรือบรรทุกสินค้า 27 ลำแล่นไปยังย่างกุ้ง พะโค และเมืองอื่นๆ ระหว่างวันที่ 10 ถึง 19 มิถุนายน โดยมีการบรรทุกปูนซีเมนต์มากกว่า 7,170 ตัน ข้าวโพดมากกว่า 12,590 ตัน และถุงกรวดปูนขาว 350 ลูกบาศก์ฟุต อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีรายงานว่า มีเรือบรรทุกสินค้า 93 ลำออกจากท่าเรือมัณฑะเลย์เพื่อขนส่งสินค้า ทั้งนี้ กรมเจ้าท่ายังเตือนผู้ควบคุมเรือบรรทุกเกินพิกัด เนื่องจากกระแสน้ำวนก่อตัวขึ้นในเขตอิระวดีครั้งแรกตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายน ซึ่งพวกเขามีมาตรการจัดการความปลอดภัยทางทะเลตามขนาดและสินค้า และนำทางด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/27-freighters-serve-mandalay-trade-routes-in-2nd-3rd-week/#article-title

อินเดียเริ่มนำเข้าข้าวโพดปลอดภาษีจากเมียนมา

อ้างถึง The Hindu Business Line มีการรายงานว่า อินเดียเริ่มนำเข้าข้าวโพดเมียนมาโดยไม่มีภาษี ด้าน Vangili Subramanian ประธานสมาคมการตลาดเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกไข่ของรัฐทมิฬนาฑู (PFMS) กล่าวว่า ณ ท่าเรือ VO Chidambaranar ในเมือง Thoothukudi ของรัฐทมิฬนาฑู มีเรือ 3 ลำที่บรรทุกข้าวโพดจอดเทียบท่าที่ท่าเรือของอินเดีย และเรืออีก 10 ลำถูกกำหนดให้เทียบท่าตามข้อตกลง ซึ่งตามโครงการปลอดภาษีของอินเดียสำหรับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ข้าวโพดของเมียนมาได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยนามจากสมาคมการค้าแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเดิมทีอินเดียมีการจัดเก็บภาษีศุลกากร 60 เปอร์เซ็นต์ ภาษีสินค้าและบริการ 5 เปอร์เซ็นต์ และภาษีประกันสังคม 10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับข้าวโพดที่นำเข้าจากประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับข้าวโพดภายใต้โควตาอัตราภาษี (TRQ) รัฐบาลกลางของอินเดียให้ภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ และนำเข้าข้าวโพดจำนวน 500,000 ตันภายใต้ TRQ ในปี 2020 ซึ่งกลุ่มธุรกิจฮินดูอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่รัฐบาลว่าการนำเข้าข้าวโพดชุดแรกถูกกำหนดให้นำมาผลิตแป้ง และชุดที่สองสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล ซึ่งสำหรับการนำมาผลิตแป้งส่งออก คาดว่าจะมีการนำเข้าข้าวโพดแบบปลอดภาษีประมาณ 300,000 ตัน อย่างไรก็ดี นักวิจัยในนิวเดลี ชี้ให้เห็นว่าการนำเข้าข้าวโพดอาจต้องคำนึงถึงข้อจำกัดราคานำเข้าและข้อจำกัดของท่าเรือ เกษตรกรทางตะวันออกและทางใต้ของอินเดีย ซึ่งสภาพอากาศเลวร้ายเมื่อปีที่แล้ว คาดว่าจะมีผลผลิตสูงและมีรายได้ดีในปีนี้ นอกจากนี้ การนำเข้าข้าวโพด อาจทำให้เกิดผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์ การครอบครอง และอัตราภาษีพิเศษดังกล่าวอาจทำให้โครงสร้างตลาดเสียหาย ถึงแม้ว่า อินเดียจะมีความต้องการข้าวโพดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฉพาะในภาคการเลี้ยงสัตว์ปีกเพียงอย่างเดียวก็มีความต้องการมากถึง 1 ล้านตัน ต่อปี และนอกจากภาคปศุสัตว์แล้ว อุตสาหกรรมการผลิตแป้งและเอทานอลยังมีความต้องการที่สำคัญอีกด้วย หลังจากที่รัฐบาลกลางอินเดียจำกัดการใช้อ้อยเพื่อการผลิตเอทานอล ความต้องการข้าวโพดก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยการใช้ข้าวโพดเพื่อผลิตเอทานอลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 ล้านตันในปีนี้ จาก 0.8 ล้านตันในปีงบประมาณที่แล้ว

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/india-starts-to-import-myanmar-maize-duty-free/

‘เวียดนาม’ เผยยอดการค้า ม.ค.-พ.ค. พุ่ง 16%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) รายงานว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 305.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลในเดือน พ.ค.67 พบว่าการส่งออกของเวียดนาม ปรับตัวขึ้น 15.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่าที่ 32.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 33.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้าในเดือนนี้ อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีมูลค่าการส่งออกราว 44 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าจากจีนมากที่สุด อยู่ที่ 54.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/trade-revenue-up-over-16-in-jan-may/