ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชาพุ่งแตะ 1,162 คัน

กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) รายงานว่า ณ เดือนกันยายนปีนี้ จำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจดทะเบียนในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 1,162 คัน ในจำนวนนี้คิดเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 573 คัน รถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้า 387 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 202 คัน โดยสาเหตุหลักมาจากการตระหนักรู้เกี่ยวกับการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น ด้าน Pov Maly ปลัดกระทรวงฯ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลกัมพูชาพร้อมที่จะผลักดันการใช้รถไฟฟ้าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างการสร้างสถานีชาร์จเพิ่มเติมในกรุงพนมเปญและจังหวัดสำคัญต่างๆ ปัจจุบันมีสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 18 แห่งในประเทศ ขณะที่รัฐบาลได้พัฒนาแผนยุทธศาสตร์เพื่อเปลี่ยนกัมพูชาให้เป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ในระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศผ่านการให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อหวังดันการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการเพิ่มปริมาณการส่งออกของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501401710/ev-registrations-jump-to-1162-this-year/

ธุรกิจกว่า 19,300 แห่ง เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงเศรษฐกิจ และการคลังกัมพูชา

ธุรกิจมากกว่า 19,300 แห่ง ได้เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงเศรษฐกิจ และการคลัง ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน โดยได้รับการอนุมัติด้วยทุนจดทะเบียนรวม 5.51 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานจากระบบการลงทะเบียนธุรกิจออนไลน์ ของกระทรวงเศรษฐกิจ และการคลัง ซึ่งจำนวนมูลค่าการลงทุนตามภาคส่วนนำโดยภาคการก่อสร้างร้อยละ 17 หรือคิดเป็นมูลค่า 963 ล้านดอลลาร์, ภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 12 มูลค่า 643 ล้านดอลลาร์, กิจกรรมที่ปรึกษาด้านการจัดการร้อยละ 5 มูลค่า 289 ล้านดอลลาร์, ภาคการผลิตร้อยละ 5 มูลค่า 269 ล้านดอลลาร์, กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัยร้อยละ 5 มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ และภาคส่วนอื่นๆ ร้อยละ 56 มูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ โดยกระทรวงและสถาบันของรัฐหลายแห่ง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กรมภาษีอากร กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพ กระทรวงมหาดไทย และสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา ถูกรวมเข้ากับระบบการลงทะเบียนธุรกิจบนแพลตฟอร์มด้วย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Single Portal เพื่อเสริมเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนและเจ้าของธุรกิจ ให้สะดวกในการเข้าจดทะเบียนเนื่องจากก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501189424/over-19300-businesses-registered-with-mef-portal/

เมียนมา ผลักดันบริษัทมากกว่า 600 แห่ง ยื่นจดทะเบียนกับ GACC เพื่อส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน

บริษัทและวิสาหกิจในเมียนมามากกว่า 600 แห่ง รวมถึงบริษัทส่งที่ออกข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย กำลังพยายามยื่นนจดทะเบียนกับกรมศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อส่งออกสินค้ามากกว่า 1,600 รายการ โดยหน่วยงานของภาครัฐต่างๆ เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ กรมประมง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำลังยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัท วิสาหกิจ องค์กร และนิติบุคคล ที่กำลังขึ้นทะเบียนกับ GACC สำหรับสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย ซึ่งสินค้าเกษตรของเมียนมาที่มีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล (G2G) นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้บริษัทหรือวิสาหกิจที่จะทำการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับ น้ำมันเพื่อการบริโภค เมล็ดพืชน้ำมัน ขนมยัดไส้ รังนกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธัญพืชและมอลต์ ผักสดและแห้ง ถั่วแห้ง พันธุ์พืช ถั่วและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟที่ยังไม่ได้คั่วและเมล็ดโกโก้ อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารสัตว์ จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตจาก GACC เพื่อวางขายสินค้าในตลาดจีน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-600-local-companies-eye-registering-with-gacc-to-export-agri-products/#article-title

“เวียดนาม” เผยนับเป็นครั้งแรก จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ทะลุ 70,000 ราย

สำนักงานจดทะเบียนธุรกิจ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าภาพรวมการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีจำนวน 76,233 ราย เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจจัดตั้งใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่มีจำนวนมากกว่า 70,000 ราย และธุรกิจกลับมาดำเนินกิจการมีจำนวน 116,900 ราย ในขณะที่มูลค่าทุนจัดตั้งธุรกิจใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 882.1 ล้านล้านดอง (38.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับปี 2563 นอกจากนี้ จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 50,909 ราย ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจค้าส่ง ขายปลีก ซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนวน 18,417 ราย คิดเป็น 36.2% รองลงมาคือธุรกิจก่อสร้าง จำนวน 7,206 ราย และอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป จำนวน 5,948 ราย ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1254327/newly-established-businesses-in-h1-exceed-70000-for-first-time.html

รัฐบาลเมียนมาเดินหน้าควบคุมกิจการแพประมง

กรมประมงจะทำการจดทะเบียนธุรกิจแพประมงที่จ้างคนงาน 30 คนขึ้นไปเพื่อจัดการกับปัญหาเรื่องการบังคับใช้แรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายใต้กฎระเบียบใหม่ผู้ประกอบการแพตกปลาอาจจ้างเฉพาะคนงานที่มีบัตรประชาชนและรับรองว่าไม่มีการบังคับใช้แรงงาน ในระหว่างการประชุมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติผู้ประกอบการเห็นด้วยกับรายการตรวจสอบ 16 จุดเพื่อตรวจสอบการดำเนินธุรกิจ สำหรับบทลงโทษที่ฝ่าฝืนจะปรับสูงถึง 3 ล้านจัต (2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และการห้ามทำประมงสามเดือน เมื่อปีที่แล้วมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บหรือสูญหายเนื่องจากการล่องแพในเขตอิระวดี เมื่อปลายปีที่แล้วมีรายงานว่านักศึกษาของ Dagon University ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานบนแพตกปลาก่อนที่จะถูกช่วยเหลือไว้ได้ทัน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/government-moves-regulate-raft-fishing-businesses.html

การจดทะเบียนยานพาหนะในกัมพูชาเพิ่มขึ้น 13% ในหนึ่งปี

การจดทะเบียนของยานพาหนะเพิ่มขึ้น 13% ในหนึ่งปีเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามรายงานประจำปีของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ซึ่งรายงานของกระทรวงฯ ระบุจำนวนรถที่จดทะเบียนใหม่ในปีนี้ที่ 640,183 คัน โดยรวมประกอบไปด้วยรถบรรทุก 15,956 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 92,958 คัน และมอเตอร์ไซค์ 531,269 คัน ซึ่งตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปัจจุบันมีการจดทะเบียนในกัมพูชามากกว่า 5 ล้านรายการ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 300,000 ถึง 400,000 คันต่อปี ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซด์ร่วม 40% โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวว่าเพื่อให้บริการแก่ประชาชนต่อไปรัฐบาลจะออกพระราชกฤษฎีกาหมายเลข 73 ซึ่งอนุญาตให้เจ้าของปัจจุบันเก็บป้ายทะเบียนรถเก่าไว้เมื่อขายรถยนต์แล้วสามารถใช้หมายเลขทะเบียนเหล่านั้นกับรถใหม่ของพวกเขา โดยในอดีตรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีสัดส่วนเพียง 33% ของรายได้ทั้งหมดจากกรมศุลกากรและสรรพสามิต แต่ปีนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 52% เป็นเพราะชาวกัมพูชาสามารถซื้อรถยนต์ได้มากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50677837/registered-vehicles-increase-13-percent-in-one-year