‘เวียดนาม’ ชี้เสาหลักทางเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณเชิงบวก

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าการผลิตของภาคอุตสาหกรรมยังคงมีทิศทางไปในเชิงบวกในปีนี้ จากตัวชี้วัดดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) ในช่วง 4 เดือนแรกที่มีการขยายตัว 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่เงินลงทุนเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐฯ สูงถึง 20.1% ของงบประมาณประจำปี เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขการค้าปลีกและการค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม พบว่ามูลค่าการค้าปลีกและบริการ เพิ่มขึ้น 8.5% และการส่งออก เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากตัวชี้วัดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจมีสัญญาณเชิงบวก

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายจากความไม่มั่งคงของเศรษฐกิจโลก และภาวะเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมุ่งส่งเสริมไปที่การบริโภคภายในประเทศ การยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/key-economic-pillars-show-positive-growth-post285814.vnp

‘เวียดนาม’ เผยยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ 10 เดือนแรก โต 9.4%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ ในช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. อยู่ที่ 5.1 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 207.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้จากการค้าปลีกสินค้ามีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็น 78.1% ของมูลค่าทั้งหมด เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะรายได้จากการท่องเที่ยว มีมูลค่าอยู่ที่ 30.2 ล้านล้านด่อง เพิ่มขึ้น 47.6% เนื่องจากส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศได้มีการนำเสนอวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬา เพื่อกระตุ้นความต้องการในการเดินทาง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/tenmonth-retail-sales-of-consumer-goods-services-up-94/270768.vnp

‘เวิลด์แบงก์’ ชี้การลงทุน FDI ในเวียดนามยังคงทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก

ธนาคารโลก (WB) ได้ออกรายงาน Vietnam Macro Monitoring ประจำเดือน ส.ค. 2566 ระบุว่ากระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการเบิกจ่ายงบประมาณ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะมองหาโอกาสทางธุรกิจในตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหตุจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในประเทศและการส่งออก ในขณะที่ยอดค้าปลีก ปรับตัวดีขึ้น 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด อีกทั้ง การลงทุน FDI ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก ด้วยเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าไปยังเวียดนาม มีมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 32% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-fdi-performance-remains-steady-amid-global-uncertainties-wb-post1046850.vov

นานาชาติมั่นใจตลาดค้าปลีกไทยยังเติบโต ผนึกกำลังเตรียมจัดงาน VEND ASEAN 2023

เชื่อมั่นอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยปี 2566 ยังคงเติบโต สมาคมอาเซียน แปซิฟิก เวนดิ้ง ร่วมกับ บริษัท กวางตง แกรนเดอร์ เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป และบริษัท คอมพาส เอ็กซิบิชั่น จำกัด เตรียมจัดงานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องอำนวยความสะดวกและเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดผลตอบรับมีผู้ร่วมเจรจาธุรกิจจากทั่วภูมิภาคกว่าหมื่นราย นายเจาหยุน หวัง ประธานบริหาร บริษัท กวางตง แกรนเดอร์ เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป และตัวแทนสมาคมอาเซียน แปซิฟิก เวนดิ้ง กล่าวว่า ประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนที่อุตสาหกรรมค้าปลีกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวผลักดันอุตสาหกรรมค้าปลีกให้เกิดการพัฒนาและขยายตัว ดังจะเห็นในทุกหัวเมืองท่องเที่ยวของไทยมีการลงทุนเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้า รวมถึงศูนย์การค้าชุมชนขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจปี 2020 มีมากถึง 2,000 แห่ง และจากปัจจัยบวกหลังวิกฤตโควิด-19 การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลถึงความมั่นใจให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกขยายการลงทุน อย่างไรก็ตาม แม้เป็นการกลับมาจัดงานอีกครั้งในรอบ 3 ปี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังคงมั่นใจในปีนี้จะได้ผลตอบรับที่ดี คาดว่ามีนักลงทุนกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมชมงานและเจรจาธุรกิจมากกว่า 10,000 ราย

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3441528#google_vignette

‘ผู้ค้าปลีกเวียดนาม’ กลับมาฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เอส เอส ไอ (SSI) คาดการณ์ว่าธุรกิจจะกลับมาทำกำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 และในปี 2567 เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายเงินให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคและการปรับตัวดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจ ในขณะที่ผู้ค้าปลีกเวียดนามมีแนวโน้มที่จะหันไปสู่การค้าสมัยใหม่ รวมไปถึงการระดมเงินทุน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ของผู้ค้าปลีกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เผชิญกับอุปสรรคหลายประการ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าธุรกิจค้าปลีกได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาแล้ว

ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานสถิติของเวียดนาม (GSO) ระบุว่ารายได้รวมจากการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่ากว่า 3.01 ล้านล้านด่อง

ในขณะเดียวกันจากผลการสำรวจของ ‘Infocus’ พบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเวียดนาม ลดลงมาอยู่ที่ 54 จุด ในเดือน มิ.ย.66 จากเดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 63 จุด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/domestic-retailers-on-path-to-recovery/259465.vnp

ยอดค้าปลีกเวียดนาม ครึ่งปีแรก พุ่ง 10.9%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รายได้รวมจากการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ มีมูลค่าเกินกว่า 3 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะยอดค้าปลีก 2.3 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 9.3% ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ได้เน้นย้ำว่าตลาดในประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตไปข้างหน้า โดยจะส่งเสริมให้มีกิจกรรมการค้าในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการผลักดันการกระจายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะยกระดับของการดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทางการค้าจนถึงปี 2573 ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมภาคธุรกิจต่างๆ อาทิเช่น ส่งเสริมให้มีการสร้างเครื่องหมายการค้า ส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าและส่งเสริมสินค้าเอกลักษณ์ของเวียดนามให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-sales-of-consumer-goods-services-up-109-in-h1/255579.vnp

พาณิชย์แนะค้าปลีกไทยเจาะตลาดเวียดนามทั้งออฟไลน์-ออนไลน์

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถึงโอกาสในการขยายตลาดการค้าปลีกของไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนาม และการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการขยายโอกาสทางการขายเจาะเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโต

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เวียดนามเป็นตลาดค้าปลีกที่มีศักยภาพสูงและคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 350,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 และจะมีสัดส่วน 59% ของยอดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศทั้งหมดทำให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการค้าปลีกในประเทศต่างปรับเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศและปรับปรุงเพื่อการส่งออก รวมทั้งมีการลงทุนในอีคอมเมิร์ซเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่มีกว่า 50% ของประชากรประมาณ 100 ล้านคน

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/397177/

‘เวียดนาม’ เผย ม.ค.-พ.ค. ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ สูงสุดในรอบ 8 ปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่ายอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 107.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2558 โดยเฉพาะรายได้จากการค้าปลีก อยู่ที่ 1.99 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการค้าขายอาหารและของกิน (14.6%), เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม (11.1%), เครื่องใช้ในครัวเรือน (4.8%), ยานพาหนะไม่รวมยานยนต์ (4.2%) และการศึกษาและสินค้าวัฒนธรรม (1.9%) ในขณะที่รายได้จากที่พักและบริการอาหาร อยู่ที่ 268.3 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบริการอื่นๆ 253.6 ล้านล้านดอง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1545219/five-month-retail-sales-of-consumer-goods-services-highest-in-eight-years.html

‘ถอดบทเรียนเวียดนาม’ การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจรุ่ง

ถ้าจะพูดถึงเพื่อนบ้านอาเซียนในฝั่งอินโดจีนเวียดนามถือว่ามีพัฒนาการมากที่สุด การเขียนถึงเวียดนามในวันนี้นับเป็นเวลาอันเหมาะสม ใกล้ถึงวันครบรอบ “ไซ่ง่อนแตก” 30 เม.ย.2518 ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์เวียดนามยุคใหม่  เมื่อแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้หรือเวียดกงเข้ายึดกรุงไซ่ง่อนของเวียดนามใต้ สหรัฐผู้สนับสนุนแตกกระเจิงกลับประเทศ นำไปสู่การรวมชาติในนาม “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ในวันที่ 2 ก.ค.2519

ช่วงรวมชาติได้ใหม่ๆ เวียดนามยังเป็นประเทศยากจนเพราะเพิ่งผ่านศึกสงคราม จากการที่เวียดนามมีสหภาพโซเวียตเป็นลูกพี่ใหญ่ แน่นอนว่าต้องเป็นศัตรูกับสหรัฐ (ก็เพิ่งไล่เขากลับประเทศไปหมาดๆ) ส่วนจีนที่เป็นเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ญาติดีกัน กับเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมองหน้ากันได้ไม่สนิทนัก ตอนตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็เคยถูกเวียดนามวิจารณ์

แต่สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามตัดสินใจปฏิรูปประเทศใช้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมแบบตลาดทีละน้อยๆ ปี 2530 เวียดนามออกกฎหมายว่าด้วยกฎหมายการลงทุนของต่างชาติ ความเปลี่ยนแปลงในทางบวกค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติแห่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ที่น่าสนใจคือธุรกิจค้าปลีกเพราะเป็นตัวชี้วัดว่าไลฟ์สไตล์คนเวียดนามเปลี่ยนไป ชนชั้นกลางเติบโตขึ้น รายได้มากขึ้น พร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตไปจนถึงเพิ่มความหรูหรา นอกจากนี้เวียดนามยังเป็นประเทศที่ประชากรหนุ่มสาวมาก พวกเขาสนใจในเทคโนโลยี ยังไม่เข้าสู่สังคมสูงวัยเหมือนไทย โอกาสที่เศรษฐกิจเติบโตจึงมีอีกมาก เรียกได้ว่า เข้าไปลงทุนทำอะไรในเวียดนามตอนนี้มีแต่ได้กับได้

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1064510

“ตลาดค้าปลีกเวียดนาม” ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ระบุว่ามูลค่าตลาดค้าปลีกของเวียดนาม อยู่ที่ 142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า อยู่ที่ 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าราว 994.1 ล้านล้านดอง และด้วยอัตราการขยายตัวไปในทิศทางที่เป็นบวก ส่งผลให้ตลาดค้าปลีกของเวียดนามได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ประกอบการต่างชาติ

อีกทั้ง เมื่อเร็วๆนี้ ทางบริษัทเซ็นทรัล รีเทล (CRC) จากประเทศไทย เพิ่งประกาศปรับเพิ่มเงินทุน 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม ซึ่งเป็นเงินลงทุนครั้งที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เซ็นทรัลเคยประกาศไว้ โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้า 600 แห่ง ใน 57 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ นาย Olivier Langlet CEO ของ Central Retail Vietnam กล่าวว่าเวียดนามถือเป็นตลาดนำเข้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท คิดเป็น 21-22% ของรายได้รวม และเมื่อปีที่แล้ว สัดส่วนของรายได้ข้างต้นปรับเพิ่มขึ้นที่ 25%

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1502559/viet-nam-s-retail-market-proves-attractive-for-foreign-investors.html