ธนาคารโลกอนุมัติเงินทุนให้สปป.ลาว เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงบริการสุขภาพและโภชนาการ

คณะกรรมการบริหารของธนาคารโลกได้อนุมัติเงินจำนวน 23 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสปป. ลาวภายใต้โครงการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและโภชนาการ (HANSA) โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบสุขภาพของประเทศและปรับปรุงคุณภาพและความครอบคลุมของการบริการโดยการให้เงินทุนแก่ศูนย์สุขภาพและแผนกต่างๆโดยมีเกณฑ์มาตรฐานเทียบกับการปฏิบัติงาน จะช่วยเพิ่มความยั่งยืนของโครงการด้านสาธารณสุขซึ่งรวมถึงสุขภาพของแม่และเด็ก การสร้างภูมิคุ้มกันโรควัณโรค (TB) และการป้องกันเอชไอวีโดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษในการลดภาวะทุพโภชนาการในภาคเหนือของประเทศ ตัวชี้วัดประสิทธิภาพของ HANSA คือความพร้อมของยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นและการจัดวางเจ้าหน้าที่คลินิกที่ศูนย์สุขภาพรวมถึงจำนวนของแม่และเด็กที่ได้รับการบริการที่มีคุณภาพในสถานบริการสาธารณสุข ซึ่งอัตราการเสียชีวิตของแม่และเด็กสปป. ลาวและระดับการขาดสารอาหารเรื้อรังยังคงสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ผ่านโครงการนี้ธนาคารโลกและพันธมิตรจะทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการดูแลขั้นต้นสำหรับผู้หญิงและเด็กซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการครองชีพและทำลายวงจรความยากจน

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=51075

สปป.ลาวได้รับเงินทุนจากธนาคารโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท

รัฐบาลได้กู้ยืมเงิน 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านธนาคารโลกในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโภชนาการและความยากจนซึ่งมีกรอบระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2567 โดยกำหนดเป้าหมายชุมชนทางเหนือของสปป.ลาว นอกจากนี้รัฐบาลยังลงทุน 13 พันล้านกีบในโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรในหลวงน้ำทา หลวงพระบางสะหวันนะเขต สะระวัน เพื่อความยั่งยืนด้านผลผลิตทางเกษตรตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาความขาดแคลนด้านอาหารในสปป.ลาว ดังนั้นการได้รัยเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลกจะเป็นแรงสนับสนุนอีกก้าวหนึ่งในการที่จะทำให้สปป.ลาวเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมีความมั่นคงทางด้านอาหารในอนาคต

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-gov’t-taps-us225-million-world-bank-finance-tackle-rural-poverty-115094

ธนาคารโลก ชี้การเติบโตของเมียนมาจะดีขึ้นในปีนี้

การเติบโตคาดว่าพิ่มขึ้น 6.4% ในปีงบประมาณ 62-63 จาก 6.3% ในปี 61-62 และ 6.2% ในปี 60-61 เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและการลงทุนภาคเอกชนด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการสื่อสาร จากรายงานของธนาคารโลก การเติบโตได้รับการสนับสนุนจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่สูงขึ้นในด้านการขนส่งและการสื่อสาร  การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีมากขึ้นในการก่อสร้างคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโต ภาคธนาคารได้รับประโยชน์จากการก่อสร้าง การผลิต และการซื้อขายที่สูงขึ้นผ่านการกู้ยืมกับธนาคารต่างประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวและบริการเช่นเดียวกับการค้าส่งและค้าปลีก ภาคเกษตรควรได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์การส่งออกที่สูงขึ้นและการขาดดุลการค้าที่ลดลง ในขณะเดียวกันแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นในปีนี้เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นและการขาดแคลนพลังงานอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีความเสี่ยงรวมถึงการเติบโตของโลกที่ชะลอตัวจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงวิกฤตในยะไข่ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศ

ที่มา:https://www.mmtimes.com/news/world-bank-says-growth-myanmar-improve-year.html

ธนาคารโลกเตือนถึงความจำเป็นในการพัฒนาและเพิ่มทักษะแรงงานของกัมพูชา

ธนาคารโลกได้เปิดตัวรายงานใหม่ที่เน้นความสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยให้คำแนะนำในการปฏิรูปนโยบายที่ครอบคลุมเพื่อรักษาอัตราการเติบโตของประเทศ ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชยกรรม กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพเข้าร่วม เช่นเดียวกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียและผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากโดยรายงานแสดงถึงอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานสูงถึง 80% ของชาวกัมพูชาวัยทำงานทั้งหมด แม้ว่าจะกว่า 94% ของแรงงานทั้งหมดเป็นอาชีพที่มีทักษะค่อนข้างต่ำ ซึ่งผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศกัมพูชากล่าวในการเปิดงานว่าระหว่างปี 2010 และ 2015 มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 12% ต่อปีและหนึ่งในสามของภาคการจ้างงานมาจาก บริษัท ข้ามชาติโดยเน้นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปภายในระบบการศึกษาเพื่อให้ตรงกับทักษะกับความต้องการของภาคเอกชน ทั้งระบบการศึกษาแบบดั้งเดิมและระบบการฝึกอบรมวิชาชีพจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งภาครัฐฯจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อจัดการกับปัญหา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50661464/world-bank-report-warns-of-need-for-diversification-and-skills-development/

World Bank: การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสปป.ลาวในปัจจุบันยังคงสูง

ตามรายงานล่าสุดจากธนาคารโลกการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปัจจุบันของสปป.ลาว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% ในปีนี้เนื่องจากการนำเข้าคาดว่าจะเติบโตได้เร็วกว่าการส่งออก การขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการการนำเข้าที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตามรายงานของรัฐบาลคาดว่ามูลค่าการนำเข้าจะสูงถึง 5.77 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้และคาดว่ามูลค่าการส่งออกจะสูงถึง 5.51 พันล้านดอลลาร์ โดยดุลการค้าขาดดุล 259 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญสำหรับสปป.ลาวคือการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการแปรรูป เพื่อการส่งออกและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้สกุลเงินต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/world-bank-lao-current-account-deficit-remains-high

ธนาคารโลกมองในเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว

ธนาคารโลกมองในเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาวซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวเป็น 6.5% ในปี 62 เพิ่มขึ้นจาก 6.3% ในปี 61 แม้จะมีการเข้มงวดด้านการคลังอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าการเบิกจ่ายจะได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่รวมถึงรถไฟจีน – สปป.ลาว อีกทั้งจะได้รับแรงหนุนจากภาคบริการที่ยืดหยุ่น นำโดยการเติบโตของการค้าส่งและค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ในขณะเดียวกันรัฐบาลสปป.ลาวยังคงมุ่งมั่นที่จะรวมงบการเงินเพื่อควบคุมภาระหนี้สาธารณะในระยะปานกลาง สิ่งนี้จะส่งผลให้การขาดดุลการคลังลดลงจาก 4.4% ของ GDP ในปี 61 ถึง 4.3% ในปี 62 อย่างไรก็ตามสปป.ลาวมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นหนี้และมีมาตรการหลายอย่างที่จะต้องดำเนินการเพื่อจัดการกับสถานการณ์นี้  สิ่งสำคัญที่จะต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคเอกชนรวมถึงการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมาตรการเหล่านี้สามารถช่วยรักษาสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่มั่นคง ส่งเสริมการสร้างงานและลดความยากจนและความไม่เท่าเทียม

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-08/13/c_138305713.htm