‘นายกฯ เวียดนาม’ หวังบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายภาษีศุลกากรเดือน ก.ค.

จากการประชุมใหญ่ของ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน โดยทางนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่าทางเวียดนามคาดว่าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนที่การหยุดชะงักการขึ้นภาษีศุลกากร 46% สำหรับสินค้าส่งออกของเวียดนามจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม และทางนายกฯ เห็นว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศที่ผ่านมา เป็นไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าสหรัฐฯ ได้ยื่นรายการข้อเรียกร้องทางการค้าต่อเวียดนาม ซึ่งทางการเวียดนามระบุว่าเป็น “เรื่องยาก” และยังกดดันให้เวียดนามลดการใช้เทคโนโลยีจีนในอุปกรณ์ที่ประกอบในประเทศ ก่อนที่จะส่งออกไปยังสหรัฐฯ และภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ทำให้เวียดนามเร่งปราบปรามการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสินค้าจีน

นอกจากนี้ เวียดนามยังแสดงความเต็มใจที่จะลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร (NTB) และขยายการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/general/3058397/vietnam-pm-expects-us-trade-deal-before-july-tariff-deadline

‘เวียดนาม’ เผยส่งออก พ.ค. โต 14% เกินดุลการค้า 4.67 พันล้านดอลลาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่ารัฐบาลเวียดนามเปิดเผยตัวเลขการส่งออกในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และเวียดนามเกินดุลการค้าราว 4.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธุรกิจต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งเพิ่มการส่งออกก่อนที่รัฐบาลทรัมป์จะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่างตอบแทนในเดือนกรกฎาคม

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนาม ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ยในเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 3.21%YoY ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 8.8%YoY และยอดการค้าปลีก เพิ่มขึ้น 9.7%YoY นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 7.9% คิดเป็นมูลค่า 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/vietnam-may-exports-rise-14-yryr-trade-surplus-467-bln-2025-06-04/

‘ภาษีศุลกากร’ ยังคงเป็นปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้นโลกและเวียดนาม

ตามข้อมูลจาก Bloomberg แสดงให้เห็นว่ากองทุนทั่วโลกได้ซื้อหุ้นสุทธิมูลค่า 9.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ยกเว้นจีน ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการไหลเข้าของเงินทุนที่มีระยะเวลานานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ในขณะเดียวกัน นาย Tyler Nguyen Manh Dung หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ ‘HSC’ กล่าวว่ามีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ผลักดันตลาดหุ้น ได้แก่ การปรับฐานมูลค่า การผ่อนคลายความกังวลในเรื่องภาษีศุลกากร และการส่งออกที่มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในแต่ละอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มสินค้าอาหารทะเล สิ่งทอ และไม้ ซึ่งมีความสำคัญต่อภาคการส่งออกของเวียดนาม และคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เนื่องจากเวียดนามเจรจาเชิงรุกกับสหรัฐฯ ทำให้เวียดนามอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากขึ้น

ที่มา : https://www.thestar.com.my/business/business-news/2025/05/23/tariffs-remain-a-key-factor-swaying-markets?fbclid=IwY2xjawKcuO1leHRuA2FlbQIxMQBicmlkETF3bWkxRlRBVGVCcjFwVUJVAR7TKUox1R1K9TpScvOkczBG7F5mral0AuBSWnP8Gt0p5ScGT_ZaYdNeSl1z_g_aem_Zm1AMMVBEoFr1UkYb2GCFw#goog_rewarded

‘ดัชนี PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม เดือนเม.ย. ลดลงสู่ระดับ 45.6 หลังผลกระทบกำแพงภาษีสหรัฐฯ

เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือนเมษายน 2568 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 45.6 จากระดับ 50.5 ในเดือนมีนาคม สะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินธุรกิจอยู่ในทิศทางที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และลดลงอย่างรุนแรงในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ แอนดรูว์ ฮาร์เกอร์ (Andrew Harker) ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่าการกำหนดภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้ภาคการผลิตของเวียดนามหดตัวในเดือนเมษายน โดยบริษัทต่างๆ พบว่าคำสั่งซื้อใหม่ การส่งออก และการผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังเผชิญกับความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1717033/viet-nam-s-manufacturing-pmi-declines-amid-tariff-announcements.html

‘สหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 542.6%’ กดดันส่งออกโซลาร์เซลล์เวียดนาม

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์และแผงโซลาร์เซลล์ จะต้องเผชิญกับมาตรการภาษีตอบโต้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยกัมพูชาจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 3,403.9% ตามมาด้วยไทย 799.5% เวียดนาม 542.6% และมาเลเซีย 168.8% และกลุ่มประเทศเหล่านี้ คิดเป็น 77% ของการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ ในปี 2567 ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาค โดยเฉพาะเวียดนามได้รับแรงกดดันมากที่สุด เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นตลาดอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม อัตราภาษีศุลกากรใหม่นี้จะเพิ่มต้นทุนและความเสี่ยง ทำให้ผู้ผลิตเวียดนามสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1716298/viet-nam-s-solar-exports-hit-with-us-duties-of-up-to-542-6-per-cent.html

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 8% แม้หวั่นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

รัฐบาลเวียดนามยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวที่ 8% ในปี 2568 ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าไม่เพียงแต่มองเศรษฐกิจในเชิงบวก แต่เวียดนามมีความพร้อมในการรับมือจากปัจจัยภายนอกผ่านการประสานนโยบายและนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เพิ่มขึ้น ข้อพิพาททางการค้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และเวียดนามยังคงต้องเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะแรงกดดันภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีสูงถึง 46% ด้วยเหตุนี้ ทางรัฐบาลได้เรียกร้องให้กระทรวง ภาคธุรกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือกับความท้าทายอย่างตรงไปตรงมา และคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-stays-on-course-for-8-growth-despite-tariff-risks-post317714.vnp

‘สหรัฐฯ – เวียดนาม’ เปิดเจรจาข้อตกลงการค้า หลังระงับภาษีศุลกากร

รองนายกรัฐมนตรี โฮ ดุ๊ก ฟก (Ho Duc Phoc) ได้เริ่มที่จะเจรเจากับนายเจมสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เพื่อที่จะทำข้อตกลงการค้าร่วมกัน แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับการเลื่อนการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 46% จากทั่วโลก โดยจากการแถลงการณ์ครั้งล่าสุด จากการหารือของทั้งสองประเทศนั้นครอบคลุมถึงเรื่องการค้าต่างตอบแทน (Reciprocal Trade) และโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ถึงแม้ว่าจะระงับการใช้ภาษีศุลกากร แต่ยังคงเก็บภาษีศุลกากรจากทุกประเทศในอัตรา 10% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด ทั้งนี้ เวียดนามเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคที่สำคัญของบริษัทตะวันตกหลายแห่ง และเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 123 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/us-vietnam-agree-launch-trade-deal-talks-tariffs-paused-2025-04-10/

‘หอการค้าเวียดนาม’ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ชะลอการเก็บภาษีศุลกากร

หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) และหอการค้าอเมริกันในกรุงฮานอย (AmCham) ส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์ชะลอการเก็บภาษีศุลกากรต่อการส่งออกเวียดนามไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ การตัดสินใจทางการค้า และระบบโลจิสติกส์ที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้ หอการค้าเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเวียดนามจะดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้ากับสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการและนักลงทุนสหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/the-u-s-asked-to-delay-implementing-reciprocal-tariffs-on-vietnam.htm

‘เวียดนาม’ เดินหน้าเร่งนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ หลังชะลอการเก็บภาษีออกไป 45 วัน

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋ง (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แถลงการณ์การประชุมคณะรัฐมนตรีว่าเวียดนามจะทำการจัดซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันประเทศและความมั่งคง และยังได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการให้ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ออกไป 45 วัน ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้สายการบินในประเทศของเวียดนาม สั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์จากผู้ผลิตสหรัฐฯ นอกจากนี้ จากความคืบหน้าการเจรจาครั้งล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์และผู้นำเวียดนาม โต เลิม (To Lam) ตกลงที่จะหารือถึงแนวทางในการยกเลิกภาษีศุลกากร หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ทรัมป์บรรยายว่าเป็นการสนทนาที่มีประสิทธิผลมาก

ที่มา : https://www.kaohooninternational.com/economics/555706

‘ภาษีสหรัฐฯ’ กระทบส่งออกหนัก กดดันเศรษฐกิจเวียดนาม

บรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้นำทางธุรกิจ แสดงความกังวลกับการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นอัตราภาษีในอัตรา 46% กับสินค้าเวียดนาม เริ่มมีผลวันที่ 9 เมษายน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ไมเคิล โคคาลารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของวินาแคปปิตอล (VinaCapital) กล่าวว่าการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรในครั้งนี้ ‘เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง’ และจากการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นว่าการขึ้นภาษีดังกล่าว ทำให้การบรรลุเป้าหมาย GDP ของเวียดนาม ขยายตัว 8% ในปีนี้ เป็นเรื่องที่ยาก

ในขณะที่นายฝ่าม ซาน ห่ง (Pham Xuan Hong) ประธานสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 40% ของการส่งออกทั้งหมดของอุตสาหกรรมนี้ โดยสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในปัจจุบัน เสียอัตราภาษี 16% หากมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 46% ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น ทางสมาคมฯ หวังว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งและความพยายามในการเจรจาของรัฐบาลเวียดนาม จะช่วยลดอัตราภาษีที่เสนอขึ้นได้ ในระหว่างนี้ ธุรกิจต่างๆ จะใช้กลยุทธ์การการกระจายตลาด เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1695360/us-tariffs-threaten-viet-nam-s-exports-economic-growth.html