ธุรกิจเหล็กชั้นนำเวียดนาม “ฮวาฟัต” เผยยอดขายดิ่ง 25% ในเดือนก.พ.

ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเวียดนาม “หวาฟัต” (Hoa Phat Group) เปิดเผยว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ธุรกิจมียอดจำหน่ายเหล็กรวมทั้งสิ้น 439,000 ตัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งสาเหตุที่ยอดจำหน่ายลดลงเนื่องมาจากอยู่ในช่วงเทศกาลเต็ต (Tet) ระยะเวลา 7 วัน และผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายเหล็กก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 189,000 ตัน ในขณะที่ฝั่งปริมาณการผลิตของเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) และเหล็กบิลเล็ตหรือเหล็กแท่งยาว เข้าสู่ตลาดลดลง 30% และ 47% ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ พบว่ายอดคำสั่งซื้อส่วนใหญ่มาจากตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีนและอินโดนีเซีย เป็นต้น สำหรับในส่วนของยอดจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ อยู่ที่ราว 1 ล้านตัน รวมถึงเหล็กก่อสร้าง 376,000 ตัน, เหล็กบิลเล็ต 214,000 ตัน และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 428,000 ตัน

  ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/899521/hoa-phat-steel-sales-down-25-per-cent-in-february.html

อัตราเงินเฟ้อของ สปป. ลาว เดือน มิถุนายน 2563 ลดลงเล็กน้อย

ศูนย์สถิติแห่งชาติ กระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อลาวเดือน มิถุนายน 2563 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.28 จากร้อยละ 5.46 เมื่อเดือน พฤษภาคม 2563  ปัจจัยที่ทำให้ราคาสินค้าบางประเภทปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
(1) ความผันผวนของราคาสินค้าบางรายการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19
(2) การส่งเสริมการผลิตสินค้าภายในประเทศที่ยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และสินค้าที่ผลิตได้ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและปัจจัยการผลิต
(3) ราคาสินค้าสำคัญในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
(4) อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบกับบาทและดอลลาร์สหรัฐยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://globthailand.com/laos-20082020/

ราคาน้ำมันในกัมพูชาต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์

รายงานที่สร้างความกังวลให้กับเศรษฐกิจโลกโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาระหว่างประเทศพุ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2545 เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตตามแผนความต้องการ ด้วยราคาของ West Texas Intermediate (มาตรฐานสำหรับระดับน้ำมันดิบที่ใช้สำหรับการกำหนดราคาน้ำมัน) ลดลงถึง 19.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันน่าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จนถึงปี 2566 เนื่องจากความต้องการที่ไม่แน่นอนในภาวะถดถอยทั่วโลกที่เกิดจากไวรัส COVID-19 โดยราคาที่ต่ำส่งผลกระทบที่ดีสำหรับภาคการขนส่งในกัมพูชา ฟาร์ม โรงงานและผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับประโยชน์จากน้ำมันเบนซินที่ถูกลง แต่มีผลอย่างมากต่อแผนปัจจุบันของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานสำหรับการสำรวจแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50713728/record-low-oil-prices-to-to-continue/

เวียดนามส่งออกอาหารทะเลเดือน ม.ค. ลดลง

จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าในเดือนมกราคม เวียดนามส่งออกอาหารทะเลลดลงร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ารวม 644 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ซึ่งการแพร่ระบาดหนักในจีนทำให้ฉุดการส่งออกอาหารทะเลเวียดนามไปยังตลาดจีนอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่งออกปลาสวาย ทูน่าและกุ้งเผชิญกับการระงับการชำระเงินจากการส่งออก เพราะธนาคารจีนไม่เปิดทำการจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า และคาดว่าธนาคารจะเปิดทำการในวันที่ 16 ก.พ. ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทขนส่งรายใหญ่ไม่ต้องการที่จะจัดส่งสินค้าไปยังจีน อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ มองว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารทะเลมากนัก เพราะว่าความต้องการนำเข้าอาหารทะเลของจีนจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย. ในทางตรงกันข้าม สมาคมฯมองเห็นโอกาสสำหรับธุรกิจท้องถิ่นในการเพิ่มผลผลิตสินค้าแช่เย็นและบรรจุกระป๋องอาหารทะเลในช่วงเวลานี้และหลังจากการแพร่ระบาดไวรัส ทำให้ให้ลูกค้าชื่นชอบอาหารแปรรูปมากขึ้น รวมไปถึงใช้โอกาสนี้ในการส่งออกไปยังตลาดสำคัญเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และยุโรป

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/592130/seafood-export-value-down-in-january.html